พาน้องหมาไปทำหมันเถอะ!!

ทำหมันหมาเถอะ!

แวะมาเตือนภัยเพื่อนๆชาว lemon8 ที่เลี้ยงน้องหมา ถ้าใครที่ไม่อยากจะให้น้องมีลูก ควรพาน้องๆไปทำหมัน

โบโบ้เป็นหมาโกลเด้ลอายุ 10 ปีของน้าเรา น้องมีนิสัยขี้เล่น ฉลาด ตามแบบโกลเด้น

ก่อนหน้านี้น้าเราอยากให้โบ้มีลูก เลยยังไม่ได้ทำหมันโบ้

เมื่อวันที่ 28-30 เมษายน ที่ผ่านมา โบ้เริ่มมีอาการเดินๆ อยู่แล้วล้ม และเจ็บขาหน้า เราเลยให้กินยาและวิตามินบำรุงข้อ ตามที่ก่อนหน้านี้หมอจ่ายยามาให้

แต่อาการไม่ดีขึ้น วันที่ 1 พฤษภาคม โบ้เริ่มไม่เดิน นั่งแล้วไม่ค่อยลุก ลุกยาก แต่กินอาหาร ถ่ายปกติ

วันที่ 2 พฤษภาคม ไม่ลุกเลยทั้งวัน ไม่กิน ต้องจับให้กิน ถึงเคี้ยว และไม่ถ่าย

จนเวลาประมาณ 21.30 น. เริ่มร้องเรียก เหมือนให้พลิกตัวให้ เพราะเค้านอนท่าเดิมมานาน พอตกดึกโบ้ร้องเรียกให้มาพลิกตัวให้อีก เช้าวันถัดมาเลยให้รถโรงบาลสัตว์มารับไป เพราะเราไม่สามารถดูแลช่วงกลางคืนได้ กลัวเป็นแผลกดทับ และให้ดูแลเรื่องการขับถ่ายด้วย

หมอเอ็กเรย์ เจอว่าปอดมีจุดก้อนแพร่กระจายเต็มปอดแล้ว และอัณฑะก็มีขนาดใหญ่ผิดปกติ ซึ่งสาเหตุน่าจะเกิดจากมะเร็งอัณฑะก่อน แล้วแพร่กระจายไปปอด ซึ่งถ้าไปปอดแล้วคือมะเร็งขั้นสุดท้ายแล้ว

เราเสียใจมาก เพราะก่อนหน้านี้โบ้ไม่มีอาการอะไรเลย ไม่ซึม กินข้าว เดินเล่นด้วยตลอด

3-4 วัน/คืนแรก โบ้ร่าเริงปกติ แต่ยังคงไม่ยืน ยืนไม่ไหวเหมือนเดิม ทางรพ จับพลิกให้ตลอด

วันที่ 5-7 วัน/คืน โบ้เริ่มซึมขึ้น ไม่ค่อยกิน ป้อนก็ไม่เคี้ยว แต่ยังคงกินขนมที่ชอบอยู่

วันที่ 8 เริ่มไม่กินขนม หมอให้อาหารแบบป้ายปากแทน

วันที่ 9 โบ้หายใจถี่ขึ้นและเบาลง

วันที่ 10 โบ้จากไป

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เตือนใจเราเลยค่ะ เลยอยากรณรงค์ให้พาน้องหมาที่เรารักไปทำหมัน ไม่อยากให้เค้าทรมานเหมือนโบ้

การทำหมัน ทำได้ตั้งแต่ 6-8 เดือน ขึ้นไป

ข้อดีของการทำหมัน คือ ลดโอกาสเป็นมะเร็งที่อัณฑะ ลดโอกาสเกิดต่อมลูกหมากโต

ข้อเสีย คือ น้องหมาอาจจะอ้วนขึ้น แต่เราควบคุมอาหารแทนได้ค่ะ

#เตือนภัย #เตือนภัยสัตว์เลี้ยง #สัตว์เลี้ยง#คำเตือนสัตย์เลี้ยง #ประสบการณ์สัตว์เลี้ยง #ประสบการณ์สัตว์ป่วย