ที่เที่ยว ที่กิน ที่นอน

ชะโงกทัวร์ by ขี้เมากรุ๊ป 🍺🍻

5 วัน 5 คืน กับอีสาน-เวียงจันทร์

(25-30Dec 2023)

Day 1

เราออกเดินทางกันตามปะสาคนไม่นอนกันตอนตี 2

ถึงขอนแก่นประมาณ 7 โมงเช้า

เปิดทริปด้วยการไหว้พระที่พระธาตุแก่นนคร ที่นี่สามารถเดินชมพระธาตุด้านในได้ 9 ชั้น ชั้นบนสุดวิวสวยมาก แต่พื้นที่ก็จะแคบๆหน่อย

ไปต่อกันที่ร้านเอมโอช ซึ่งเดาได้เลยเกินครึ่งร้าน เป็นคนกรุงเทพ เพราะที่นี่ติดรีวิวว่าต้องไปลอง หมูเด้งในต้มเลือดหมูอร่อยมากกกก ปากหม้อญวนพึ่งรู้ว่าต้องบีบมะนาวอร่อยไปอีกแบบ สุดท้ายหมูยอร้านนี้โคตรเด็ด แนะนำว่าต้องซื้อกลับบ้าน!

หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จก็แวะซื้อกาแฟกันที่ร้าน inch&ounce มีเมล็ดกาแฟให้เลือก กาแฟดี ขนมอร่อย ร้านน่ารักเรียบง่าย อยู่ติดถนนใหญ่ ถ้าขับมาเร็วๆก็แอบเลยร้านอยู่นะคะ เพราะเป็นร้านเล็กๆที่ตึกแถว

จากนั้นรีบขับรถไปต่อกันที่เขื่อนอุบลรัตน์ และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติที่อยู่ใกล้ๆกัน มีรอบแสดงตอน 11.00 น. ที่นี่แนะนำว่าต้องแวะไปให้ได้เลยค่ะ ระบบการฉายดาว ละครที่ฉาย ตื่นตาตื่นใจสุดๆค่ะ ถ้าเก้าอี้สั่นหรือมีลมพัด นี่คิดว่าเป็นระบบ 4DX แล้วนะ

จากนั้นรีบไปต่อกันที่วัดผาตากเสื้อ(หนองคาย) ตรงนี้ต้องรีบแล้วค่ะ เพราะขับรถอีกค่อนข้างไกล วัดปิด 17.00 น. เดี๋ยวจะไม่ทัน

ที่นี่ทางขึ้นค่อนข้างชันนะคะ ทั้งชันทั้งโค้งพร้อมกัน ขับกันระมัดระวังด้วยนะคะ

พอไปถึงวัดเข้าใจเลยว่าทำไมชื่อผาตากเสื้อ 5555 เพราะลมแรงมากๆค่ะ แรงจนสามารถพัดเหล็กที่ขึ้นโครงสร้างไว้งอได้เลย แต่โชคดีวันที่ไปเป็นลมสบายๆค่ะ ลมจะแรงช่วงมีพายุเท่านั้น

จากนั้นเข้าเช็คอินรับห้องที่โรงแรม (ไม่รีวิวน้าา พอดีเพื่อนเจอผี😂) แต่โรงแรมบริการดีค่ะ

ไปต่อกันที่ร้าน ลิขิตเบียร์ สำหรับสายดื่มคราฟท์เบียร์ ต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะมีคราฟท์เบียร์ให้เลือกเยอะมากๆค่ะ ในส่วนของอาหารห่อหมกมะพร้าวอ่อนอร่อยมาก พนักงานแนะนำไส้ย่าง เนื้อย่าง สำหรับเรามันเหนียวเกินไปค่ะ กินไม่ไหว สั่งกุ้งแช่มาแกล้มเบียร์ซะหน่อย เรางงๆรสชาตินิดนึงเพราะน้ำจิ้มซีฟู้ดมีกินเครื่องพริกแกง

เลยไปจบคืนกันที่ร้านเหล้าชื่อ ไทยเดิม ในตลาดเครื่องบิน เป็นร้านนั่งชิลๆแต่ว่าบรรยากาศในร้านน่ารักดีค่ะ เด็กเสิร์ฟและลูกค้าที่ร้านก็น่ารักกันมากๆ ดนตรีสดสนุกร้องดี นั่งๆไปสักแปป เลยสั่งหมูมะนาวมาชิม เพราะสงสัยกันเรื่องน้ำจิ้มซีฟู้ดส์ค่ะ 55555 คิดว่าคนที่หนองคายน่าจะกินรสชาติแบบนี้รึป่าว พอหมูมะนาวมาถึง ทุกคนอ๋อออกันหมด เพราะน้ำจิ้มซีฟู้ดส์เหมือนร้านที่แล้ว เลยคิดว่ารสชาติท้องถิ่นอาจจะเป็นแบบนี้

Day 2

รีบตื่นเช้าไปด่านข้ามพรมแดน (ฝากรถที่AAทัวร์ 200 บาท) เรารีบมาเพราะไม่รู้ว่าจะทำเรื่องยังไง อ่านรีวิวมาเค้าว่าทำเองถูกกว่า แต่!!! ถูกจริงค่ะ แต่ต้องย้อนไปอำเภอนะ 40 บาท 55555 เราเลยให้คนหน้าด่านทำให้ค่ะ คนละ 120 บาท รอประมาณ 15 นาที (ถ้ามีพาสปอร์ตไม่ต้องทำนะคะ ใช้ยื่นได้เลย) จากนั้นว่าจ้างรถที่จะไปเที่ยวเวียงจันทน์ที่ฝั่งไทยเลย ได้อ้ายพันนำเที่ยวพาไปทุกที่ที่เค้าไปกันเลยค่ะ แต่อี๊กก!!!! มันต้องแวะจุดขายของประมาณ 4 จุดนะคะ ร้านขายจะพาเราเข้าห้องเชือดเลย ตรงนี้ไม่ซื้อได้ค่ะ จิตแข็งไว้ เค้าไม่ได้หว่านล้อมอะไรมากมาย อ้ายพันบอกว่า ต้องพาแวะนะมันเป็นกฎของสมาคมรถตู้ ทางเราไม่ติดอะไรค่ะ เพราะแกบอกเราตรงๆไว้เลย แกบอกไม่ต้องซื้อก็ได้ ของแพง กลับไปซื้อที่ไทยดีกว่า แกก็พาเราทำทุกอย่าง ไปแลกเงินตรงนี้ ซื้อซิม ขึ้นรถบัสข้ามสะพาน 30 บาท สบายเลยไม่ต้องเดินงงๆกัน ค่าเหมารถอยู่ที่ 800 บาทค่ะ แกไม่เร่งเราทำอะไรเลย ปล่อยเราเที่ยวชิลๆเลยค่ะ จะไปไหนเพิ่มก็บอกแกได้

อ้ายพันพาไปกินข้าวที่เฝอแซ่บ แกบอกนักท่องเที่ยวก็นิยมมากัน เราก็เอ้ออ่านรีวิวมาพอ แต่ใดใดคือ..รสชาติไม่ถูกปากเหมือนเดิม 55555 ของที่เราว่าอร่อยคือยำขนมจีน จำชื่อเมนูไม่ได้ค่ะ แต่พนักงานบอกเหมือนยำขนมจีน รสชาติเหมือนมีน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ เราบีบมะนาวเพิ่มกับใส่น้ำจิ้มปอเปี๊ยะลงไป อร่อยกินได้เลย ของอร่อยอีกอย่างคือปอเปี๊ยะทอด กรอบไส้แน่นดีมากแลย

จากนั้นมาพักผ่อนเอาแรงที่โรงแรม เพราะจุดประสงค์หลักของกรุ๊ปคือ..มากินเบียร์!!! 🍻

เราพักที่ v hotel ค่ะ ใกล้ถนนคนเดิน นอนรวมกัน 4 คนได้ห้องใหญ่ชั้น8 วิวดีมาก ห้องอยู่ได้พอดี แต่โรงแรมดูเก่าๆหน่อย สนนราคาที่ 1200 บาท จอง agoda มานะคะ

5 โมงเย็น เราเดินลงไปหาของกินที่ถนนคนเดิน สรุปไม่ได้เลย เพราะมีแต่เสื้อผ้าของจุกจิก กับร้านข้าวริมน้ำที่คนเงียบเหงามากๆ เลยมุ่งหน้าไปร้านเหล้ากันเลย ที่ลาวร้านเหล้าปิดแค่ 5 ทุ่มนะคะ เพราะฉนั้น 1 ทุ่มคนเต็มร้านแล้ว

เราไปร้านแรกที่ tit kafe โปรเบียร์ 8000กีบ/แก้ว หมดโปร 3 ทุ่มนะคะ จัดไปเลย 20 แก้ว กับแกล้มราคาพอๆกับค่าเบียร์เลยค่ะ 5555 (แต่เข้าใจได้ อ้ายพันบอกไว้ว่า อาหารราคาไม่ต่างจากไทยนะ) สนนราคาทั้งหมด 120,000กีบ

พอเบียร์หมด เราเลยเปลี่ยนร้านกัน เพราะที่นี่คนแน่นเกินไป

ก็เลยเดินตามทางกันมาเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมาย ผ่านตลาดก็เลยแวะซื้ออะไรรองท้องกันหน่อย เราได้ตะโก้มาชิ้นละ 2000กีบ ชิ้นใหญ่ด้วย อร่อยด้วย

เดินไปเรื่อยๆจนเจอร้าน red door ร้านน่ารักมีดนตรีสดด้วย อารมณ์เหมือนนั่งกินร้านเหล้าที่ไทยนี่ละ เพราะเปิดเพลงไทยกันทุกร้าน 55555

แกล้มเด็ดของทุกร้านคือ เอ็นเหลืองทอด แกรรรรร มันอร่อยมาก เห็นเค้าสั่งกันเลยถามพนักงาน พอสั่งมาลอง หยุดไม่ได้เลยสั่งกันไปทั้งหมด 4 จาน มันเข้ากับเบียร์มากจริงๆ

นั่งร้านนี้กันจนร้านปิดเลย สั่งข้าวผัด เอ็นเหลืองทอด ต้มยำ ปีกไก่ทอด เบียร์ 3 หรือ 4 ทาวน์นี่แหละ หมดไป 3แสนกว่าๆ

สรุปเวียงจันทน์ 1 วัน เราใช้เงินไป 800 บาท กลับห้องมาซื้อเบียร์กินต่อกันอีก สรุปแฮงค์กันทุกวัน 😂😂

Day 3

กลับมาเที่ยวหนองคายกัน ไปเดินชมศาลาแก้วกู่ เราว่าสวยมากๆเลยนะคะ เปิดประวัติดูเค้าบอกว่าช่างปั้นสดวาดลายกันสดๆเลย ทำงานตลอด24ช.ม สวยมากค่ะอยากให้ทุกคนไปชม (แต่อยู่ๆแฟนเราเปิดช่องส่องผีตอนศาลาแก้วกู่ขึ้นมาก่อนถึง ก้แอบหลอนตามประสาคนกลัวผีนิดนึง)

จากนั้นรีบขับรถลงไปเที่ยวบึงกาฬกันต่อ เพราะเราอยากไปดูส้างร้อยบ่อ ไปหินสามวาฬ 5555 เห็นรูปใน google สวยมากๆ พอไปถึงอ่าว ต้องเหมารถขึ้นนะ(ทุกที่อยู่ติดๆกันเลยค่ะ) เราด้วยความไม่รู้ก็แอบเฟลนิดนึง น่าจะเพราะอ่านไม่เจอรีวิวเองว่าต้องเหมารถ แต่ด้วยความมาแล้วก็ตัดสินใจขึ้นไป (ทางคอนข้างคดเคี้ยวและชันนะคะ) ค่าเหมาคันละ 500 บาท เจ้าหน้าที่เก็บค่าเข้าบริการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ค่าเข้าจ่ายแยกกับค่าเหมารถนะคะ สามารถแชร์กรุ๊ปกับคนอื่นได้ แต่เราต้องหาเองค่ะ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ช่วยเหลือเรื่องนี้นะคะ แต่ก็สนุกดีค่ะ คนขับรถนี่ตากล้องมือ1 เลย ถ่ายรูปเก่งมาก เราขี้ไม้กวาดเหินฟ้า แกถ่ายให้ช็อตเดียวสวยเลย

ก็คุ้มค่าที่จ่ายอยู่ค่ะ วิวข้างบนสวยมาก ส้างร้อยบ่อที่อยากมาดู จริงๆเล็กนิดเดียว 555555 แต่ไม่เป็นไร นั่งท้ายรถกระบะสนุกดี

จากนั้นรีบขับรถลงไปนครพนมกันต่อ จองที่พัก โรงแรม ไอยรา ริเวอร์ไรน์ นครพนม ห้องพักสะอาด กว้างขวางมีที่จอดรถพอสมควรค่ะ

ถึงที่พักประมาณ 1 ทุ่ม เก็บของอาบน้ำ ออกไปกินหมูกระร้านเด็ด ที่เค้าว่ามานครพนมต้องมากินร้านนี้ ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง! น้ำจิ้มที่นี่เป็นน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ รสชาติหมูเนื้อหมัก จะคล้ายๆเนื้อย่างร้านส้มตำค่ะ เค้าหมักด้วยกระเทียมพริกไทยประมาณนี้ เพื่อนๆในกรุ๊ปก็ทานกันไป ส่วนเราไม่ชอบกลิ่นกระเทียมแรงๆ เลยขอไปหาของกินที่ถนนคนเดิน แล้วแบบว้าวซ่ามาก ของกินโคตรเยอะ พ่อค้าแม่ค้าก็น่ารักใจดีกันมากๆเลย 🥰

และตามคอนเซ็ปมาจบที่ร้านเหล้าชื่อ รวยระริน ร้านอยู่แถวถนนคนเดินเลยค่ะ คนเยอะมาก เต็มทุกโต๊ะ 5555 (ทั้งร้านหมูกระทะและร้านเหล้า แนะนำโดยคนพื้นที่เองเลย)

Day 4

แฮงค์แล้วแฮงค์อีก แต่ก็ยังสู้อยู่ 555555

ตอนเช้าพามากินร้านเด็ด ปากหม้อศรีเทพ อย่าวู่วามสั่งนะคะ แต่ละจานได้เยอะมากกก และทุกเมนูคือไส้เดียวกัน 5555 ร้านมาเห็นจะด่ามั้ย แต่ร้านอร่อยจริงค่ะ อร่อยมาก กินแบบไม่ใส่น้ำจิ้มยังได้เลย เราสั่งปากหม้อญวนไข่ข้น อร่อยสุดๆๆ แป้งนุ่ม ไข่นิ่มๆมันดีมากเลยย ถ้าไปก็จะกลับไปกินอีก

จากนั้นไปคาเฟ่ชื่อ forest tales ร้านน่ามาก กาแฟก็ดีมากๆเลยค่ะ น้ำหวานอย่างอื่นก็อร่อยนะคะ ลองไปแวะชิมแวะถ่ายรูปกันดู

จากนั้นเราก็รีบขับรถไป พระธาตุพนม เพราะสายมากแล้ว กลัวคนจะเยอะ สุดท้ายคนเยอะจริงๆค่ะ 5555 เข้าไปถึงด้านในเลย (แนะนำขับรถเข้าวัดมาเลยนะคะ ที่จอดรถเยอะค่ะ)

วันนี้ค่อนข้างรีบขับรถกันมากๆ เพราะระยะทางยาวไกล +ความแฮงค์ทำให้ล้ากันไปหมด 555

เรามาต่อกันที่ สามพันโบก ตอนแรกก็ว่าจะไม่แวะแล้ว เพราะอยากรีบไปพักเก็บแรง แต่ก็ตัดสินใจแวะกัน และคิดถูกมากๆที่แวะ ที่นี่เป็นที่ที่เราประทับใจที่สุดเลยค่ะ

ตอนมาถึงก็เดินงงๆ แต่ชาวบ้านก็แนะนำว่าเหมารถลงไปนะ (ในใจแอบคิดว่าอีกละหรอ เหมาอีกละ) แต่ก็ค่ะ เหมาก็เหมา เค้าคิดแค่ 200 บาทเอง!! ตอนแรกก็ว่าแพง แต่พอนั่งรถลงไป โอเคไม่แพงเลย เพราะรถต้องสู้ชีวิตมากกกก (เราแนะนำใส่แมสลงไปนะคะ ตอนนั่งรถลงไปฝุ่นเยอะพอควรเลย และควรใส่กางเกงไปค่ะ มันต้องปีนป่ายหินเพื่อถ่ายรูป)

พอถึงจุดหมาย จะมีน้องๆมาถามเราเอาไกด์มั้ยพี่ ตอนแรกเราก็ว่าจะไม่จ้าง (น้องเห็นเราไม่สนใจ น้องก็ไม่ตื้อนะคะ น่ารักกันมากๆ ยังเด็กๆกันอยู่เลยค่ะ ป.1 บ้าง ป.5 บ้าง) แต่พอคุยกันจ้างดีกว่า ถือว่าสร้างรายได้ให้เด็กๆ แล้วก็เกินคาดมากๆค่ะ น้องเก่งมากกก แนะนำสถานที่ พาไปแวะถ่ายรูปจุดต่างๆ รวมถึงเป็นตากล้องให้ด้วย ปีนขึ้นปีลงแถมดูแลเราอีกต่างหาก ถ่ายจนเราพอใจพาเราเดินกลับมานั่งพัก แนะนำร้านน้ำให้ไปอุดหนุนแม่และชาวบ้านคนอื่นด้วย แม่ค้าที่นี่ก็น่ารักค่ะ เค้าไม่แย่งลูกค้ากัน แถมช่วยเหลือกันดีมากๆ

(ค่าแรงน้องแล้วแต่จะให้นะคะ ถ้าใครร้อนมีร่มให้เช่าคันเล็ก10 บาท ใหญ่20 บาท)

จากนั้นเราขับรถไปกินข้าวกันแถวเขื่อนสิรินธร ที่ร้าน ป.โภชนา อาหารอร่อยค่ะ บางอย่างติดหวานไปนิด แต่โดยรวมถือว่าดีมาก

กินข้าวเสร็จ 1 ทุ่มไปต่อกันที่วัดเรืองแสง แนะนำว่าพกไฟฉายแบบไฟแรงๆไปกันด้วยจะดีมากเลยค่ะ เพราะลวดลายที่พื้นต้องคอยส่องไฟแล้วค่ะ น่าจะเพราะทำมานานแล้ว ลวดลายที่พื้นเลยเริ่มเสื่อมสภาพไม่เก็บแสงเท่าไหร่ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยเดินฉายแสงให้อยู่นะคะ

จากนั้นขับรถเข้าเมืองกันอีกประมาณ 1.30 ชั่วโมง เราพักที่ โรงแรม เดอะไนน์เพลส แจ้งสนิท โรงแรมน่ารักมากๆ ห้องพักใหม่สะอาด แต่งห้องสไตล์มินิมอล ห้องขนาดพอเหมาะ ห้องน้ำเล็กนิดนึง พนักงานน่ารักสุดๆๆๆเลยที่นี่

จากนั้นไปค่ะ เช็คอินร้านเหล้าเด็ดของอุบลราชธานี!

U-bar นั่นเองงงงงง🥳🎉

ชอบค็อกเทลที่นี่นะ บาเทนเดอร์ชงอร่อยตามใจลูกค้าเลย

แต่ช่วงประมาณ 5 ทุ่มโซนข้างนอกที่เรานั่ง คนจะเริ่มเยอะแล้ว เยอะแบบมากๆๆๆ 5555 พนักงานก็จะเริ่มช้าแล้ว กว่าเราจะได้เช็คบิลรอไปประมาณ ครึ่งชั่วโมง

(ใดใดคือ ควรมีคนไม่ดื่ม 1 คนเพื่อขับรถกลับ เพราะด่านเยอะมาก ด่านรอบเมืองเลยจริงๆ 5555)

Day 5

ไม่ไหวหลาววว หมดแรง 5555 วันนี้เลยตัดทริปออกเยอะ เพื่อดิ่งกลับ กทม.กันดีกว่า

มาอุบลทั้งที ต้องมากินก๋วยจั๊บญวน สำหรับเราที่อุบลนี่แหละเด็ดที่สุด!! เราเลือกไปก๋วยจั๊บ ทบ. อร่อยจริง แนะนำเลย น้ำซุปข้นๆหอมๆ หื้มม มันดีย์อ่าาาา

จากนั้นซื้อของฝากที่ร้าน ดาวทอง (คนอุบลเค้าแนะนำมา แต่ร้านของฝากมีเยอะอยู่แล้ว ของขายคล้ายๆกัน)

จากนั้นมุ่งหน้าลงมาบุรีรัมย์เลย ขับรถกันยาวๆ แวะปราสาทหินเขาพนมรุ้ง (แนะนำให้ไปที่ทางเข้า2ค่ะ จะได้เดินเข้าปราสาทไม่ไกล และไม่ชัน! เราจอดทางเข้าแรก เดินไต่บันไดหินกันไป 1 เหนื่อย พกแมสปิดจมูกไปด้วยนะคะ ด้านในกลิ่นฉี่ค้างคาวแรงมากๆ)

จบทริปแวะกินข้าวแบบสุ่มกินตามข้างทาง

จากนั้นดิ่งยาวถึงกทม.ตอนเกือบๆ 4 ทุ่ม

หมดแรงไปตามๆกันทุกคน 55555

หมดทริปนี้สมาชิกขอนั่งเครื่องไปลาวกันอย่างเดียวเลย

ขอไปเมาหัวลาน้ำกันที่นั่นสัก 3 คืน

ไฝ่ฝันจะเก็บร้านเหล้ากันให้หมดทุกซอยไปเลย 😂😂

#รีวิวที่เที่ยว #รีวิวที่พัก #รีวิวทริป #ชะโงกทัวร์ #ลาวใต้ #อีสาน