#5SecondRule_รีวิวหนังสือ

จากปัญหาความ“อนอัว”ในการตัดสินใจ ชื่อหนังสือจึงดึงดูดเราให้ลองหยิบมาอ่าน แต่หนึ่งหน้าคือตัวหนังสือเยอะมาก เปิดดูทีแรกคือท้อ แต่เอาล่ะ ลองอ่านสักตั้ง ผู้เขียนหยิบยกเอาข้อความที่มีคนนำกฎ5วินาทีไปใช้ทั้งในรูปแบบอีเมล โพสจากในเฟสบุ้ค หรือ อื่นๆ มาอ้างอิงเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆ จนรู้สึกไม่น่าสนใจ แต่ก็พยายามอ่านไปเรื่อยๆ ส่วนตัวเป็นคนที่เริ่มดูหนังหรืออ่านหนังสือคือต้องเอาให้จบ เขาคงต้องการสื่ออะไรสักอย่างแหล่ะ จนแล้วจนรอด จบจนได้ เล่นเอาเหนื่อย สรุปก็พอได้ข้อคิดที่ทำให้ตัดสินใจได้ไวขึ้น รู้แนวทางผ่อนคลายลดความวิตกกังวล แค่ต้องฝึกบ่อยๆ

1. ความกล้าหาญคือความสามารถที่จะทำสิ่งต่างๆที่รู้สึกว่ายาก น่ากลัวหรือไม่มั่นใจ

2. กฎ 5 วินาทีเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้คุณเอาชนะสมองของตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นได้ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในทันทีและคงอยู่ยาวนาน

3. เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้ตัวว่าควรทำบางสิ่งแต่รู้สึกไม่แน่ใจกลัวหรือเหนื่อยล้า...แค่ควบคุมตัวเองด้วยการนับถอยหลัง 54321 การทำแบบนี้จะทำให้ความคิดของคุณผ่อนคลาย จากนั้นเมื่อนับถึงหนึ่งก็เคลื่อนไหวทันที

4. การนับถอยหลังจะเบี่ยงเบนความสนใจของคุณจากความกังวล ทำให้คุณจดจ่ออยู่กับสิ่งที่จำเป็นต้องทำ กระตุ้นให้คุณลงมือทำ และมันขัดจังหวะนิสัยลังเล คิดมาก และเหนี่ยวรั้งตัวเองเอาไว้ได้

5. หากคุณกำลังสงสัยว่า ถ้าเปลี่ยนมานับ 12345 จะได้ผลเหมือนกันหรือเปล่า คำตอบคือ..ไม่ค่ะ...มันไม่ได้ผล ถ้านับแบบเพิ่มขึ้น คุณจะนับต่อไปได้เรื่อยเรื่อย แต่เวลานับถอยหลัง 5432...จะไม่มีอะไรให้นับต่อจาก 1 แล้ว มันก็เลยกระตุ้นให้คุณเคลื่อนไหวแทน

6. กฎ 5 วินาทีคือเครื่องมือ "Just Do It" คือแนวคิด…แค่ทำมันซะ…เพราะทุกคนต่างต้องการแรงผลักดัน

7. ความกังวลคือการเสียเวลาชีวิตที่มีอยู่จำกัดและมีค่ามหาศาล 99.999% ของเรื่องที่เราสร้างขึ้นในหัวก็ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งนั้นความกังวลจะไม่ทำให้อะไรคลี่คลายทันทีที่จับได้ว่าตัวเองกำลังกังวลให้ใช้กด 54321 และคิดถึงบางอย่างที่เป็นบวกมากกว่า ถามคำถามง่ายง่ายกับตัวเองว่าฉันรู้สึกสำนึกขอบคุณอะไรในช่วงเวลานี้ ฉันอยากจดจำอะไรเอาไว้

8. It’s OK to be scared. Being scare means you are about to do something really, really brave.

9. **บทที่13** กุญแจสำคัญในการเอาชนะความวิตกกังวลคือการทำความเข้าใจมัน ถ้าคุณจับได้ทันทีที่มันโผล่เข้ามา(การตื่นตระหนกปกติ)และปรับความคิดเกี่ยวกับมันเสียใหม่ คุณก็จะทำให้ความคิดมั่นคงขึ้นก่อนที่จะยกระดับไปสู่การตื่นตระหนกแบบเต็มขั้น และเมื่อคุณใช้กฎ 5 วินาทีซ้ำๆบ่อยบ่อย ความวิตกกังวลก็จะอ่อนแอลงและกลายเป็นสิ่งที่มันเคยเป็นตอนเริ่มต้น นั่นคือความกังวลธรรมดา นิสัยขี้กังวลธรรมดาเลิกได้ง่ายกว่าเยอะค่ะ

10.การตื่นตระหนกปกติ = การเฉียดไปแบบหวุดหวิด พอสมองเข้าใจว่าทำไมเราแตกตื่น มันจะไม่ยกระดับเป็นความวิตกกังวล สมองจะปล่อยให้เราสงบลงเพราะ“อันตราย”ได้ผ่านไปแล้ว

11. ในทางสรีระศาสตร์แล้ว ความวิตกกังวลกับความตื่นเต้นคือสิ่งเดียวกัน การบอกกับตัวเองว่า “ฉันตื่นเต้น” จึงเป็นเทคนิคสำคัญ มันไม่ได้ทำให้ความรู้สึกที่พุ่งพล่านอยู่ในร่างกายลดน้อยลงแต่มันมอบคำอธิบายที่จะทำให้สมองเสริมพลังให้กับคุณ คุณจะควบคุมตัวเองได้และความปั่นป่วนในร่างกายจะเริ่มผ่อนคลายลง

12.อีกเทคนิคเปลี่ยนมุมมองความวิตกกังวลคือสร้าง “ความคิดยึดเหนี่ยว” คิดถึงเรื่องที่ดีที่จะเกิดขึ้นหลังจากลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อแทนที่ความหวาดกลัวหรือกังวลในการทำสิ่งนั้นๆ เช่น กลัวการขึ้นเครื่องบิน ลองสร้าง “ความคิดยึดเหนี่ยว” ว่า หลังเดินทางถึงที่หมาย ฉันจะได้เจอกับครอบครัวที่ฉันรักและได้ไปเดินเล่น กินข้าวด้วยกัน แทนที่การกลัวเครื่องบินตกระหว่างเดินทาง

#รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #อ่านอะไรดี #อ่านหนังสือกัน #พัฒนาตัวเอง #เปลี่ยนตัวเองเป็นคนกล้าด้วยกฎ5วินาที #5SecondRule