Lemon8 Video Downloader

The easiest way to download video and gallery from Lemon8 app

⛔️🏡เมื่อบ้านไม่ใช่เซฟโซน👨‍👩‍👧⛔️

⛔️🏡เมื่อบ้านไม่ใช่เซฟโซน👨‍👩‍👧⛔️

Desktop: Right-Click and select "Save link as..." to download.

PHOTOS
⛔️🏡เมื่อบ้านไม่ใช่เซฟโซน👨‍👩‍👧⛔️ JPEG Download
⛔️🏡เมื่อบ้านไม่ใช่เซฟโซน👨‍👩‍👧⛔️ JPEG Download
⛔️🏡เมื่อบ้านไม่ใช่เซฟโซน👨‍👩‍👧⛔️ JPEG Download
⛔️🏡เมื่อบ้านไม่ใช่เซฟโซน👨‍👩‍👧⛔️ JPEG Download

คุณพ่อนุชเป็นข้าราชการค่ะ ค่อนข้างหัวโบราณและเข้มงวด ทุกอย่างต้องเป๊ะอยู่ในระเบียบ เรื่องอำนาจและพาวเวอร์ก็คือมาเต็ม โชคดีที่นุชมีคุณแม่ที่ค่อนข้างชิว แต่ก็โชคไม่ดีเท่าไหร่ที่แม่ไม่สามารถปกป้องเราเวลาที่ถูกพ่อดุได้เลย ด้วยเหตุนี้คุณพ่อจึงเป็นใหญ่ยืนหนึ่งในบ้านเลยค่ะ

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว เอาเข้าจริงๆ นุชเองก็ไม่เคยได้มีเวลาคุณภาพร่วมกับคุณพ่อคุณแม่เลย ถามว่าครอบครัวอบอุ่นมั้ย อยู่ที่จะนิยามคำนี้เลยนะคะ เพราะในมุมเด็กคนนึงแล้ว เราแค่รู้สึกว่าเรามีทั้งพ่อและแม่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาจริง แต่มันไม่ได้เข้ามาเติมเต็มช่องว่างที่เรารู้สึกขาดเลยค่ะ

ส่วนนุชเองด้วยความที่เรามีโอกาสได้ใช้ทุนหลวงเรียนมาตลอด พ่อก็จะปลูกฝังมาว่าเราต้องเรียนให้ดีและเก่งให้สมกับทุนที่เราได้มา ยอมรับว่าเราก็ปฏิบัติตามแบบไม่ได้คิดอะไร เรียนดีมาตลอดและไม่เคยนอกลู่นอกทาง

⛔️🏡จนมาถึงจุดที่เราพบว่าบ้านไม่ใช่ Save Zone

1️⃣ พ่อแม่ไม่เปิดใจ เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่

ตอนช่วงปิดเทอมใหญ่ ม.3 ขึ้นม.4 นุชอยากย้อมสีผมแบบเพื่อนๆบ้างค่ะ แต่ด้วยความที่เราไม่เคยทำมาก่อน ก็ซื้อสีมาย้อมเอง แล้วปรากฎว่าสีมันออกมาทองอร่ามตาม๊ากกก ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดหรอกว่าพ่อจะดุหรืออะไร

แต่เหตุการณ์วันนั้นนุชจำได้ไม่เคยลืมเลยค่ะ เพราะเป็นครั้งแรกที่โดนพ่อด่าแรงๆ จนเราเสียใจและร้องไห้เป็นวักเป็นเวน เค้าบอกว่าเราทำให้เค้าอายคนอื่น คำพูดที่พ่อพูดแต่ละคำมันมีแต่คำที่นึกถึงแต่ตัวเองและคนภายนอก แต่ไม่มีคำที่แคร์ความรู้สึกลูกอย่างเราเลยสักนิด

ตอนนั้นนุชโคตรจะไม่เข้าใจเลยค่ะ ว่าเราทำผิดพลาดอะไรมากมาย รู้สึกแย่ที่พ่อมองเราเหมือนตัวประหลาด และแม่ก็ไม่สามารถปกป้องเราจากพ่อได้จริงๆ

2️⃣ จุกจิกและไม่มีเหตุผล

ปกติถ้านุชเลิกเรียนแล้วมีเหตุให้กลับบ้านไม่ตรงเวลา นุชจะโทรบอกเค้าก่อนค่ะ แต่ก็ไม่วายโดนบ่น และโทรตามด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อต่อว่า พ่อจะมีคำถามตลอดว่า ทำไมเราทำตัวแบบนี้ ทำไมยังไม่กลับบ้าน ทำไมๆๆ ซึ่งตอนนั้นเราแค่รู้สึกว่าเราแค่ไปบ้านเพื่อน และก็บริสุทธิ์ใจมากๆ บอกตรงๆจากใจเด็กคนนึง ถ้าพ่อพูดกับเราด้วยน้ำเสียงดีๆ คุยกับเราด้วยเหตุผล เราจะอยากกลับบ้านทันทีแบบไม่อิดออดเลย

3️⃣ บ่นมากจนรำคาญใจ

เหตุการณ์เล็กๆน้อยๆที่ไม่ถูกใจ พ่อก็จะหยิบยกมาบ่นได้ตลอด แล้วคำบางคำที่มันออกมาจากปากคนพูด บางทีเค้าไม่ได้คิดหรืออาจจะลืมไปแล้ว แต่คนฟังที่ซึ่งตอนนั้นเป็นเด็กคนนึงมันจำฝังใจยันทุกวันนี้เลยค่ะ และบางทีมันก็จะมีประโยคคำถาม หรือคำพูดที่พ่อเข้าใจเราผิด เราก็อยากจะตอบกลับหรือปรับความเข้าใจ แต่กลายเป็นว่าเค้ามองสิ่งที่เราทำเป็นการแสดงออกที่ก้าวร้าว บอกว่าเราเถียงคำไม่ตกฟาก ไม่เห็นหัวผู้ใหญ่ คำพูดเราไร้น้ำหนัก พ่อไม่เคยรับฟังสิ่งที่เราพูดเลย

4️⃣ ลงไม้ลงมือ

พอเกิดเหตุการณ์แบบข้อ1-3ซ้ำๆ เราก็เริ่มหาที่พึ่งจากภายนอกค่ะ นั่นก็คือเพื่อนๆ ที่เป็นความสบายใจของเราที่สุด คำว่าวัยหัวเลี้ยวหัวต่อมันคงเป็นแบบนี้มั้งคะ ตอนนั้นเราแค่รู้สึกว่าบ้านไม่น่าอยู่ เราอยากมีสังคมของตัวเอง อยากออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก

ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นุชแหกกฏของพ่ออย่างหนักมาก นั่นก็คือไม่กลับบ้านค่ะ ไม่รับโทรศัพท์ และปิดมือถือไป1คืนเต็มๆ ถามว่าไปไหน ในวัย 16 ปีตอนนั้นเราไปผับค่ะ มีรุ่นพี่ที่รู้จักพาเข้าไป โดยต้องจ่ายเงินให้กับการ์ดหน้าผับอยู่จำนวนนึง เปิดประสบการณ์มาก ตื่นตาตื่นใจที่สุด ตอนนั้นมันเป็นความสนุกที่เราไม่เคยหาได้จากที่ไหนมาก่อน ไม่มีพ่อโทรมาตาม ชีวิตเป็นอิสระ

แต่พอกลับมาบ้านเท่านั้นแหละ เราโดนฟาดไม่ยั้งเลยค่ะ ฟาดแบบที่ใช้ไม้เรียวจริงๆฟาดเข้าที่ก้นนี่แหละ

จุดนี้เรายอมรับว่าเราทำผิดจริง นุชจึงไม่ขัดขืน และเป็นอีกครั้งที่เห็นพ่อโมโหมากก แม่เองก็ทำได้แค่ยืนดู

⭐️กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต

นุชเริ่มแข็งข้อมากขึ้น เก็บตัว ไม่สุงสิงกับคนในบ้าน ไม่ฟังเสียงของใครทั้งนั้น เอาตัวเองเป็นหลัก แกร่งกล้าในแบบผิดๆ คำพูดของพ่อไม่มีผลกับเราอีกต่อไป นุชใช้ชีวิตแบบที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น อยากไปไหนก็ไป ไม่อยากกลับบ้านก็ไม่ต้องกลับ ในตอนนั้นถ้าให้นิยามคำๆนึงได้ คำเดียวที่เด้งขึ้นมาในหัวเลยก็คือ “เด็กใจแตก”

🕹️ร้านเกมส์คือที่พึ่ง

ใครจะคิดว่าในชีวิตเด็กคนนึงจะต้องไปกินนอนอยู่ในร้านเกมส์ ทั้งๆที่มีบ้านดีๆอยู่ มีที่นอนอุ่นๆนอน มีของอร่อยๆให้กิน แต่กลับไม่มีความสบายใจเหมือนในร้านเกมส์เลยค่ะ ตลกร้ายดีนะคะ ตอนที่อยู่ในร้านเกมส์ก็คือกินมาม่ากับข้าวไข่เจียววนไป ง่วงก็นอนมันบนเก้าอี้เล่นเกมส์นั่นแหละ เมื่อยๆก็ออกมายืดเส้นยืดสายริมถนน555 ขอบอกว่าร่างกายเพลียมากก โคตรจะไม่สดชื่นเลยค่ะ ไม่ต้องหาทำ😫

แต่มันก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆเพียง 3 วันถ้วนเท่านั้น😂 เพราะพ่อและแม่ก็ตามหาตัวเรากันจ้าละหวั่น พูดตามตรงก็คงเก่งไม่จริง ไปไหนไม่รอด สุดท้ายก็ต้องกลับบ้านอยู่ดี แต่การกลับบ้านครั้งนี้มันมีบางอย่างเปลี่ยนไปค่ะ

🌈ฟ้าหลังฝนสดใสเสมอ

หลังจากเหตุการณ์วันนั้นพ่อกับนุชก็ไม่คุยกันหลายเดือน แต่ตัวนุชเองยังคงได้พูดคุยกับแม่ตลอด

ตอนนี้แม่เหมือนทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างนุชกับพ่อค่ะ “พ่อเค้าให้ถามว่าจะกินอะไร” “พ่อเค้าให้ถามว่าอย่างงี้อย่างงั้น” 5555 นุชรู้สึกว่าพ่อซอล์ฟขึ้น แล้วก็ไม่บ่นเป็นหมีกินผึ้งเหมือนเดิมแล้วค่ะ นุชเริ่มได้ใช้ชีวิตที่เป็นตัวของตัวเอง โดยมีพ่อมองดูอย่างห่างๆ แบบที่ไม่ได้เข้ามาจัดการชีวิตนุชเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

และด้วยความที่เรายังติดดีบวกกับไม่ได้ยินเสียงพ่อบ่นนานๆ ไม่ได้รับการปะทะ ก็เหมือนใจมันได้รับการฟื้นฟู นุชใช้เวลาว่างที่มีทั้งหมดอ่านหนังสือและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดจนได้สอบติดมหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐบาล ในคณะที่พ่ออยากให้เรียน ใช่ค่ะ! นุชเองก็ตั้งใจทำเพื่อลบคำสบประหม่าของเค้าเช่นกัน ก็ให้มันรู้ไปว่าเด็กคนนี้มันจะไม่เคยทำอะไรให้พ่อภูมิใจได้เลย

⛔️ซึ่งเรื่องของนุชมันจะไม่เลวร้ายเลยค่ะถ้า⛔️

◽️พ่อและแม่เปิดใจรับฟังเราอย่างมีเหตุผล

◽️มองโลกในแง่ดี คำนึงถึงความรู้สึกลูกมากกว่าความรู้สึกคนอื่นที่มองเข้ามา

◽️เป็นที่ปรึกษาและเป็นความสบายใจให้กับลูกได้เสมอ

แต่ก็โชคดีนะคะที่เรื่องนี้จบค่อนข้างสวย นุชไม่ได้ไปเจอกับคนที่เลวร้าย ไม่ได้ติดยา ไม่ได้ถูกหลอกไปทำอะไรไม่ดี หรือไม่ได้ไปพบกับเหตุการณ์ที่มันย่ำแย่แบบข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ แต่เด็กทุกคนไม่เหมือนกันค่ะ สถานการณ์แต่ละอย่างที่เค้าต้องเผชิญก็ต่างกัน ความสามารถในการรับมือของแต่ละคนก็ไม่ได้การันตีชีวิตของเค้าเลย

‼️🤍เพราะฉะนั้นพ่อกับแม่ควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับลูกตั้งแต่แรกนะคะ ถ้านุชย้อนเวลากลับไปได้ก็คงไม่ไปเปลี่ยนแปลงอะไรค่ะ เพราะเหตุการณ์แต่ละอย่างมันผลักดันให้เรามีทุกวันนี้ ทำให้พ่อเข้าใจเรามากกว่าเดิม เราได้คัดหลายๆคนออกไปจากชีวิต และได้เจอคนที่เค้ารักและหวังดีกับเราจริงๆ

👉🏻แต่มีสิ่งหนึ่งที่เด็กคนนั้นอยากบอกให้พ่อกับแม่เค้ารับรู้ค่ะ

💗อยากให้พ่อกับแม่พาหนูไปเที่ยวและใช้เวลาร่วมกันบ่อยๆ

💗ไม่ต้องเขินที่จะกอดหรือบอกรักหนูหรอกนะ เพราะหนูอยากได้รับมันทุกวัน

💗อยากให้พ่อกับแม่มีตัวตนจริงๆทั้งในโลกแห่งความจริงและความฝัน

💗อยากให้ครอบครัวเรารักกัน เป็นของขวัญที่พิเศษที่สุดตลอดไป

เพราะเราทุกคนเป็นเด็กได้แค่ครั้งเดียวค่ะ รวมถึงลูกๆของเราตอนนี้ ที่เค้ากำลังมีช่วงเวลาที่แสนจะพิเศษกับพ่อและแม่ เด็กคนนึงที่ทั้งชีวิตเค้ายังมีผู้หญิงและผู้ชายคู่หนึ่งที่เป็นที่สุดของหัวใจ

มาเป็นพ่อและแม่ที่มีตัวตนจริงๆให้กับลูกกันนะคะ💝

#Savezone #พ่อแม่มือใหม่ #คู่มือคุณแม่ #เลี้ยงลูกเชิงบวก #เลี้ยงลูก #เม้าท์กับม่อน #แชร์ประสบการณ์ #สตอรี่ของคนมีลูก #สตอรี่คนมีลูก #summerbreak