ลาออกมาเลี้ยงลูก‼️👼🏻📋

เวลาทองของลูกอยู่ในช่วง 3 ปีแรก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนเป็นพ่อแม่เท่านั้นที่จะทำหน้าที่นี้ได้ดีที่สุด การตัดสินใจลาออกเพื่อมาเลี้ยงลูกจึงเกิดขึ้น

ปัจจุบันนุชเลี้ยงลูกเองแบบเต็มเวลามาเกือบ 2 ปี ถ้านับเวลาที่ลาออกมาแล้วด้วยก็เกือบ 3 ปีค่ะ อยากบอกว่าไม่เคยนึกเสียใจที่เลือกทางนี้เลย นุชได้อะไรจากการลาออกบ้างมาดูกัน

1.มีอิสระทางเวลาให้กับลูก

ได้มีเวลาไปทำกิจกรรมและชอปปิ้งนอกบ้านกับลูกค่ะ ช่วยเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ของลูกเป็นอย่างดี ทำให้สุขภาพจิตของลูกแข็งแรง ส่งผลให้เค้าเป็นเด็กอารมณ์ดีและเติบโตมาเป็นเด็กที่มั่นใจ และเป็นตัวเองในอนาคต อะ ! เริ่ดนะ

2.ลูกไม่ติดมือถือ📵

เพราะเราได้ดูแลพัฒการลูกอย่างใกล้ชิด ช่วยให้ลูกเติบโตอย่างสมวัย อันนี้เห็นได้ชัดมากๆว่าทำให้พัฒนาการและวินัยขั้นพื้นฐานของลูกไปได้ค่อนข้างไว เช่น การทานอาหารเอง , เลิกแพมเพิส, การแปรงฟัน , การสวมใส่เสื้อผ้า ฯ มันทำให้นุชภูมิใจในตัวเองและลูกมากๆแบบขั้นสุดเลยค่ะ

3.ได้ให้นมแม่อย่างเต็มที่

อย่างนุชเองเลี้ยงลูกด้วยเต้าล้วน ไม่เคยได้ให้ขวด หรือทำสต๊อก ซึ่งก็ทำให้ชีวิตเราเองง่ายขึ้นมากกกก

4.ให้อาชีพใหม่

ทำให้เรารู้ว่าศักยภาพตัวเองมีมากกว่าการเป็นพนักงานประจำ

ซึ่งทั้งหมดนี้นุชมั่นใจว่าถ้าฝากปู่ย่าตายายบ้านนี้เลี้ยง พัฒนาการลูกนุชจะไม่ได้แบบนี้แน่นอน อย่างน้อยเรื่องทานข้าวก็ยังคงต้องตามป้อนกันอยู่แน่ๆ😆

เรื่องนี้ต้องบอกว่าอยู่ที่ความสะดวก และการตกลงกันภายในครอบครัวนะคะ บางบ้านมีความสะดวกสบายที่จะจ้างพี่เลี้ยงดีๆ หรือมีคุณปู่คุณย่าที่ยังไม่ชรา และมีหัวคิดทันสมัย อันนี้ถือว่าสบายใจที่จะฝากลูกไว้ได้ค่ะ

ส่วนทางเลือกของนุชกับสามี วางแผนกันมาตั้งแต่รู้ตัวว่าท้องเลยค่ะ ครอบครัวเรายอมเสียสละรายได้1ทาง เพื่อแลกมากับคุณภาพชีวิตลูก ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มามันมีมูลค่าแบบที่ตีเป็นเงินไม่ได้เลยล่ะค่ะ❤️

ลูกโตเร็วมากๆนะคะ ถึงแม้บางครอบครัวจะมีเวลากับลูกในแต่ละวันไม่มาก แต่การที่ได้ใช้เวลาคุณภาพกับเค้าเยอะๆ ลูกจะสามารถรับรู้ถึงพลังแห่งความรักที่เรามีให้เค้าอย่างท่วมท้นแน่นอน 😊

#สตอรี่ของคนมีลูก #ทริคเลี้ยงลูก #แม่และเด็ก #สตอรี่ของคนมีลูก #คุณแม่มือใหม่ #คู่มือคุณแม่ #แม่ขอแชร์ #แม่ขอรีวิว #แม่ขอแชร์ #แชร์ประสบการณ์