Самый простой способ скачать видео и галерею из приложения Lemon8
Компьютер: щелкните правой кнопкой мыши и выберите "Сохранить ссылку как..." для загрузки.
PHOTOS | |||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать |
ต้องขอออกตัวก่อนว่า นี่เป็นประสบการณ์ตรง ที่พบเจอมาตอนขอยื่นกู้บ้าน และเหตุการณ์นี้ก็ผ่านมาเกือบปีแล้ว เราขอเรียกว่า เป็น “ประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง” นะคะ
ความเดิมตอนที่แล้ว คือ เราจะยื่นกู้บ้าน ด้วยสถานะสมรสจดทะเบียน และกำลังจะดำเนินการกู้ร่วมบ้านหลังนี้ เหตุการณ์ที่เกิดคือ สามีเครดิตสกอร์ต่ำมากกกก ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยค้างชำระใด ๆ แต่ธนาคารไม่ปล่อยกู้ให้ค่ะ
เป็นสิ่งที่เราสงสัยและเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่า ก็แค่จ่ายค่าบัตรขั้นต่ำ ไม่เคยค้างชำระ ก็ไม่ติดแบลคลิส ไม่ติดบูโร ธนาคารก็น่าจะปล่อยเงินกู้ให้ง่าย ๆ แล้วมั้ย🤔
คะแนนเครดิต เป็นคะแนนชี้วัดความสามารถในการชำระหนี้ของแต่ละบุคคล มีทั้งหมด 8 ระดับ ตั้งแต่ AA ไปจนถึง HH
เราจะไม่พูดถึงกรณีผิดนัดชำระหนี้นะคะ เพราะถ้าผิดนัดธนาคารไม่น่าจะปล่อยกู้อยู่แล้ว และประวัติการผิดชำระจะคงอยู่ในข้อมูลของเราถึง 3 ปี เลยทีเดียว
ทำไมคะแนนเครดิต ถึงต่ำ?
สาเหตุหลัก ๆ จากการที่ได้พูดคุยกับธนาคารคือ
1. มีการสืบค้นข้อมูลจากธนาคารบ่อยครั้ง นั่นหมายถึง สุขภาพการเงินเราติดขัด ทำให้มีการขวนขวายอยากเป็นหนี้หรือกู้เงิน ทำให้คะแนนตกค่ะ ดังนั้น ในตอนยื่นกู้ Pre approve ซื้อบ้าน โครงการมักให้เรายื่นแบงค์ ไม่เกิน 3 แบงค์ค่ะ เพราะในการที่ธนาคารเป็นผู้ร้องขอการค้นข้อมูลเครดิต นั่นหมายถึง คะแนนเราลดลงเรื่อย ๆ แล้วค่ะ
เราเคยมีความเข้าใจในขั้นตอนการ Pre approve ว่า ก็แค่ยื่นพรี ไม่ได้ยื่นจริง แบงค์ไม่น่าเชคอะไรละเอียด แต่ขอบอกว่า สิ่งแรกที่เค้าเชค คือคะแนนเครดิตนี่แหละค่ะ
2. การผ่อนชำระแค่ขั้นต่ำ ใช่ค่ะ เราไม่ได้ผิดนัดชำระ แต่เราจ่ายแค่ขั้นต่ำ นั่นคือสิ่งที่ทางบูโรมองว่า เราไม่มีความสามารถมากพอ ที่จะจ่ายเงินเต็มจำนวน หรือจ่ายมากกว่าขั้นต่ำได้ สามีเราไม่เคยผิดนัดชำระค่ะ แต่เลือกจ่ายแค่ขั้นต่ำ นี่คือความผิดพลาดค่ะ นอกจากคะแนนเครดิตจะตกแล้ว ดอกเบี้ย 24% ต่อปี ยังต้องจ่ายด้วย แต่ไม่รวมถึงการผ่อนแบบ 0% นะคะ ซึ่งจะพูดถึงในข้อถัดไป
3. ภาระหนี้ผ่อนชำระ ในวงเงินที่สูง ก็เป็นตัวตัดคะแนนอีกเช่นเดียวกัน เพราะธนาคารกลัวเราจ่ายไม่ไหวนั่นเอง😳 ส่วนตัวเราโดนหักคะแนนข้อนี้ค่ะ เพราะชอบผ่อนแบบ 0% นั่นเอง
หลัก ๆ ที่เราและสามีเจอจะเป็นสามข้อนี้ค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ถ้าคะแนนเครดิตดีแล้วจะกู้ผ่านนะคะเสมอไปนะคะ นี่น่าจะเป็นด่านแรกและส่วนหนึ่ง ในการพิจารณาของธนาคารเท่านั้น
สำหรับการเชคคะแนนเครดิตด้วยตัวเอง ทำได้ง่ายมากค่ะ ส่วนตัวเราขอจากแอพของธนาคาร มีค่าใช่จ่าย 200 บาทเท่านั้นเอง ขอบอกว่า ถ้าเราเชคเอง คะแนนเครดิตไม่เสียด้วยนะคะ
เชคคะแนนเครดิตก็เหมือนเป็นการเชคคะแนนสุขภาพทางการเงินของเรานั่นเองค่ะ เชคทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี เหมือนเราตรวจสุขภาพเราเลยค่ะ😀
เพื่อน ๆ คนไหน เคยมีประสบการณ์แบบไหน มาแชร์กันนะคะ