วัยรุ่นไทยควรรู้จักยา pep และยา prep‼️

桌面：右键单击并选择“将链接另存为...”进行下载。

PHOTOS
	JPEG	下载

🙏🏻สวัสดีครับผมกอฟอายุ 29 อยากจะมาแชร์ความรู้จากประสบการณ์ที่ผมได้ผ่านมาอาจจะเป็นประโยชน์กับพี่ๆ น้องๆ หลายๆคน ซึ่งตัวยาทั้ง 2 ผมเคยได้ผ่านการใช้มาแล้วทั้งหมด (ผมไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อนะครับ)

👉ยาที่ผมจะพูดถึงก็คือ ยาpep และ ยาprep ซึ่งยาตัวนี้ก็คือยาต้าน HIV นั่นเองครับ ถึงจะต้าน HIV ได้แต่ยาตัวนี้ไม่สามารถต้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆได้ เพราะฉะนั้นบทความของผมต่อไปนี้ไม่ได้สนับสนุนให้คนไม่ใส่ถุงยางขณะร่วมเพศกัน แค่อยากจะมาแชร์ความรู้ว่าหากเกิดเหตุการณ์ถุงยางแตกขึ้นมาอย่างน้อยๆเราก็ยังมีวิธีป้องกันตัวเองและแนวทางการรับการรักษาอย่างถูกต้อง

👉ผมคิดว่าหลายคนอาจจะรู้จักและหลายคนก็ยังไม่รู้จักยาตัวนี้ ซึ่งยาที่ผมจะพูดถึงมันควรจะถูกสอนในโรงเรียนด้วยซ้ำ และควรจะมีการบอกกับทุกคนให้รู้ถึงเรื่องนี้

🔺เพราะตอนผมไปรับการตรวจและรับยาผมเคยเจอกับวัยรุ่นที่อายุแค่ 10 ต้นๆไปจนถึงคนที่มีอายุหลัก 40-50 ไปรับยาต้านเชื้อ เพราะพวกเค้าไม่ได้รับรู้ข่าวสารหรือข้อมูลพวกนี้เลยมารู้อีกทีตัวเองก็ติดเชื้อซะแล้ว แทนที่จะได้รับการป้องกันแต่กลับต้องได้รับการรักษาแทน

👉มาเริ่มที่ยา pep กันก่อนเลย

ยาตัวนี้เป็นยาต้านแบบฉุกเฉินอย่างเช่นเราไปมี something กับใครสักคนแล้วเกิดถุงแตกแล้วเราไม่ได้มั่นใจกับคู่ของเราคนนั้น เราก็สามารถเข้าไปรับยาตัวนี้ได้ที่โรงพยาบาล และเราควรที่จะเข้าพบหมอภายใน 24 ชม.ได้ยิ่งดี หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ถุงแตก

‼️แต่ทางโรงพยาบาลเค้าจะมีขั้นตอนในการขอรับยาตัวนี้

-ตรวจเลือดว่าเราเคยมีเชื้อ Hiv มาก่อนไม

-ตรวจดูโรคอื่นๆ

📌พอทางคุณหมอตรวจและสอบถามเสร็จหมอก็จะสั่งจ่ายยาให้เราซึ่งยาที่ได้มาจะมีอยู่ 30 เม็ด เราต้องกินยาทุกวันและกินให้ตรงเวลาทุกวันด้วยนะครับ และหลังจากเรากินยาหมดหมอจะนัดตรวจอีกทีว่าเรามีเชื้อไหม ส่วนมากก็จะจบแค่30เม็ดนี้แหละถ้าหากตอนที่เราถุงแตกแล้วรีบเข้าไปพบหมอเลยก็จะลดโอกาสติดเชื้อได้ดีขึ้น

👉มาดูตัวยา prep กันครับ

ยาตัวนี้เป็นตัวยาที่จะต้องกินมันทุกวันครับถ้าหากเรามีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพราะยาตัวนี้ช่วยป้องกันการติดเชื้อ Hiv เหมือนกันแต่เราก็ต้องกินมันทุกวันไปตลอดนะครับ และมันมีวิธีกินอีกแบบคือกิน 2 เม็ดก่อนร่วมเพศกันประมาณ 1-2 ชม. แต่ผมแนะนำให้กินตรงตามเวลาทุกวันจะดีกว่าครับ และเราสามารถหยุดกินได้ถ้าหากเราต้องการที่จะจริงจังกับความสัมพันธ์หรือจะมีแฟนจริงๆแล้ว

‼️วิธีการรับยาตัวนี้ก็เหมือนกับยา pep เลยครับ แต่ยาตัวนี้ครั้งแรกจะได้มาแค่ 1 กระปุก กินหมดแล้วต้องกลับไปตรวจเลือดและรับยาครั้งต่อไปอีก ครั้งที่2 จะได้ยากลับไป 2 กระปุก และครั้งถัดไปก็จะได้มาเยอะขึ้นเหมือนกับต้องกลับมาตรวจเลือดอีก เช่น 1 เดือน 2 เดือน 3เดือน 6เดือน ประมาณนี้ครับ

⭐️ยาทั้ง 2 ตัวนี้คนที่ไม่เป็นก็สามารถรับได้ เพราะมันจะช่วยในการป้องกันไม่ให้เราติดเชื้อจากบุคคลอื่นหรือคู่นอน(สำหรับคนโสดที่ชอบเปลี่ยนคู่นอน) และยานี้ถูกใช้ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และกู้ภัยก็ยังต้องใช้ยาตัวนี้ในการป้องกันไม่ให้ตัวเองได้รับเชื้อจากคนไข้หรือผู้ ประสบอุบัติเหตุ

📌สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆทุกคนรู้จักการป้องกันตัวเองโดยการใช้ถุงยางอนามัยและถ้าหากเกิดเหตุการที่ผมได้เล่าไปก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นอีก1หนทางที่จะช่วยให้ทุกคนปลอดภัยและมีสุขภาพแข็งแรงกันนะครับ

📌และที่ผมยังคงย้ำเหมือนเดิมคือผมไม่ได้สนับสนุนให้ทุกคนไม่ใส่ถุงยางนะครับ เราควรจะใส่ถุงยางทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น หนองใน ซีฟิลิฟ เริม ไวรัสตับอักเสบ ฯลฯ

❤️ใครชอบบทความนี้แล้วคิดว่ามีประโยชน์ก็ขอคนละ1หัวใจนะครับ หรือแชร์ออกไปให้คนรอบข้างเราได้อ่านด้วยก็จะดีมากเลยน๊าาาาา 🥰

#ติดเทรนด์ #hiv #ดูแลตัวเอง #sexeducation #ความรู้สุขภาพ #เพศศึกษา #เรื่องบนเตียง #ความรักความสัมพันธ์ #ดูแลตัวเอง #วัยรุ่น