📌จีนมีแบบนี้ด้วยหรอ ภูเขาสายรุ้ง เมืองจางเย่

ฮัลโหลลลลจางเย่!!!

เรามาถึงเมืองที่ 3 ของทริปนี้แล้ว

ไฮไลท์ของที่นี่คือภูเขาสายรุ้งเมืองจางเย่ (Zhangye Danxia) ที่กว้างใหญ่ทัศนียภาพแปลกตาที่สุด

🚅เราเดินทางออกจากเมืองตุนหวง โดยใช้รถไฟความเร็วสูงใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง มาลงที่สถานี Linze south ถึงประมาณข่วงเที่ยง แล้วเรียกแท็กซี่ไปที่ที่พัก ค่าแท็กซี่ก็อยู่ประมาณ 50 หยวน กับระยะทางประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร เราไม่ได้เลือกพักในเมืองจางเย่ เนื่องจากเรามีเวลาที่นี่แค่สองคืน แล้วทางเข้าอุทยานจะอยู่ใกล้กับเมือง Linze มากกว่า

🛏เราเลือกที่พักที่สามารถเดินไปถึงอุทยานได้เลย โดยประตูที่ใกล้ที่สุดก็คือ North gate อุทยานค่อนข้างใหญ่มาก ทำให้มีทางเข้าหลายประตู ข้างในอุทยานก็จะมีรถบัสที่วิ่งวนจอดตามจุด spot ต่างๆรวมถึงประตูเข้าออกอุทยานด้วย

เราเช็คอินที่พักเสร็จ เราก็ตั้งใจจะไปภูเขาสายรุ้งในวันนี้เลย เพราะว่าภูเขาสายรุ้งต้องดูในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกจะสวยที่สุด ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่เราเลือกมาพักที่นี่ด้วยหากเราพักในเมืองจางเย่ รถบัสที่จะกลับไปที่เมืองจางเย่ จะมีรอบสุดท้ายตอนประมาณช่วง 5 โมงเย็น ซึ่งจะทำให้เราพลาดภาพที่สวยที่สุดของภูเขาสายรุ้งไป

ที่ North Gate จะมีร้านอาหารจีนอยู่ค่อนข้างเยอะ เป็นแนวร้านอาหารโต๊ะจีน แต่ก็มีฟีลเหมือนอาหารจีนแบบตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยวก็มี หรือว่าจะเป็นกับข้าวก็ได้ ถ้าไม่สันทัดก็สามารถใช้บริการ KFC ได้ (KFC เปิด10โมงนะ) ยังมีร้านกาแฟชานมไข่มุกครบครัน เราได้มีโอกาสแวะไปที่ประตูฝั่ง West gate ด้วย ร้านค้าค่อนข้างน้อยกว่าเยอะและเป็นร้าน Local ทั้งหมด

💸ค่าเข้าอุทยานในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 92 หยวน โดยเราสามารถเข้าอุทยานได้ 2 วัน รวมค่าบริการรถบัสในอุทยานทั้งหมดแล้ว

ช่วงนี้คนค่อนข้างน้อย การขึ้นรถบัสสะดวกสบาย ไม่แน่นแล้วก็ไม่ต้องต่อคิวเลย โดยรถบัสจะวิ่งวนในจุด spot 4 จุด การมาเที่ยวที่ภูเขาสายรุ้งต้องใช้กำลังขาค่อนข้างมากเพราะว่าจุดชมวิวในแต่ละจุดต้องอาศัยการเดินขึ้นภูเขา ระดับหนึ่งเหมือนกัน แต่ว่าเขาทำทางเดินไว้ค่อนข้างดีเป็นบันไดบ้าง ทางลาดบ้าง เราก็ค่อยๆเดินขึ้นไปเรื่อยๆ เดินไม่ยาก แต่ว่าสำหรับเราก็แอบเหนื่อยพักหอบเป็นระยะเหมือนกัน เราก็ใช้วิธีเหมือนเดิมคือเดินไปพักไป ไม่เร่งรีบ เน้นถึง ไม่เน้นไว 😅

เราได้เดินขึ้นใน Spot ทั้ง 4 จุด แต่ละจุดก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน แต่จุดที่เป็นที่นิยมที่สุดน่าจะเป็นจุดที่ 4 เพราะว่าตรงนี้ก็จะเป็น ทิวทัศน์ของภูเขาสายรุ้งที่สลับซับซ้อน แล้วก็ ไกลสุดลูกหูลูกตา ประกอบกับเราถึงจุดนี้ในช่วงเวลาใกล้พระอาทิตย์ตก ยิ่งใกล้พระอาทิตย์ตกเท่าไหร่ สีของภูเขาก็จะสีเข้มอมส้มมากยิ่งขึ้น ทำให้เราเห็นลายสายรุ้งบนภูเขาชัดเจนขึ้น ในช่วงพระอาทิตย์ตกภูเขาสายรุ้งสวยกว่าช่วงกลางวันเยอะมากจริงๆ ซึ่งอันนี้เราแนะนำว่าถ้าใครจะมาต้องมาในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกเท่านั้น ห้ามพลาดเวลานี้เด็ดขาด ไม่งั้นเหมือนเราพลาดไฮไลท์ของการมาเที่ยวภูเขาสายรุ้งนี้เลย ช่วงเย็นคนจะยิ่งเยอะขึ้น เราเริ่มเห็นทัวร์จีนเข้ามา แต่ว่าช่วงนี้ก็ถือว่าคนไม่หนาแน่น เดินสบายๆไม่ได้ไม่ต้องต่อคิวอะไรมากมาย ในบริเวณนี้มีอาหารน้ำ ของที่ระลึก ร้านชานมและ ห้องน้ำให้บริการ ถ้าใครหิวก็แวะทานอะไรตรงนี้ได้

พอเริ่มค่ำลงนิดหน่อยประมาณ6โมงเย็น ก็มีการลอยบอลลูนขึ้นด้วย ซึ่งเราก็สนใจมาก ยืนตัดสินใจอยู่นานเพราะว่าจริงๆเราก็แอบกลัวความสูงเหมือนกัน แล้วมันก็ดูสูงมากจริงๆ ค่าบริการอยู่ที่ 200 หยวนกับการทริปลอยบอลลูนประมาณ 5-6 นาที มีคนจีนใช้บริการอยู่บ้าง แต่ว่าคิวไม่ยาว อาจจะด้วยว่าช่วงเดือนตุลาคมเป็นเดือนที่อากาศจะเริ่มเย็นลงแล้ว เข้าสู่ช่วง Low season แล้ว ในอุทยานลมค่อนข้างแรงด้วย แม้ช่วงที่เราไปอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ16-20องศาในช่วงกลางวัน ช่วงค่ำๆก็อยู่ที่ 10-11 องศา แต่ว่าด้วยลมที่แรงมากทำให้เราหนาวมาก

หลังจากยืนชั่งใจอยู่นาน แล้วก็ตัดสินใจขึ้นบอลลูนซึ่งก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก แต่เอาตรง ๆ เราก็รู้สึกกลัวมากเหมือนกัน เพราะมันขึ้นไปสูงมาก ด้วยลมที่แรงบอลลูนก็มีแอบส่ายๆโยกๆด้วย เราไม่กล้าขยับขา ไม่กล้าขยับตัวเดินไปเดินมาในบอลลูนเลย ขาแข็งไปเลย 🤣 ในอุทยานยังมีกิจกรรมเครื่องร่อนและก็เฮลิคอปเตอร์ด้วย แต่สำหรับเราที่รู้สึกกลัวความสูงก็แค่นี้พอแล้ว😅

ในไกด์บุ๊คบอกว่าเราอาจจะต้องใช้เวลาที่นี่ 3-5 ชั่วโมง ซึ่งเราใช้ไปทั้งหมด 6 ชั่วโมง🤣🤣🤣 คุ้มค่าที่สุด❤️

👍เป็นอีกหนึ่งอุทยานระดับ 5A ของจีนที่เราประทับใจมาก ด้วยภูมิประเทศในแบบที่ไม่มีในบ้านเรา แล้วก็ค่อนข้างแตกต่างจากจุดอื่นที่เราไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภูเขา ทะเลสาบแม่น้ำ ที่นี่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ค่อนข้างตื่นตาตื่นใจสำหรับเราและอาจจะคนน้อยด้วย ทำให้การเที่ยวที่นี่รู้สึกชิลมาก

วันรุ่งขึ้น เราแพลนว่าจะไปที่ Binggou Danxia ซึ่งอยู่ขยับออกไปจากที่พักเราประมาณ 15 กิโลเมตร เท่าที่เราหาข้อมูลมานิดหน่อย คนส่วนใหญ่จะเหมารถเป็นแบบ Day trip แล้วก็ไปหลายๆ ที่ ตอนแรกเราแอบถามแท็กซี่ที่เรานั่งมาว่าถ้าเราจะไปเขาคิดยังไง เขาก็ให้ราคามาที่ 480 หยวนต่อวัน ซึ่งเราก็รู้สึกว่ามันแพงไป แต่จริงๆ คือเขาก็ตั้งใจจะพาไปหลายที่นะ แต่ว่าเราไม่ได้อยากจะไปที่อื่นแล้ว

ตอนเช้าเราก็เลยเดินไปที่ ทางเข้าอุทยานที่ประตู North Gate แวะกิน KFC แล้วไปถามที่จุด information ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาว่าให้เราเรียกแท็กซี่ไป เราเลยได้ใช้บริการ Didi ไปที่ Binggou Danxia ค่าแท็กซี่อยู่ที่ประมาณ 40 หยวน ระหว่างทางแท็กซี่แอบขู่เราว่า ถ้าเราไปแล้วตอนขากลับอาจจะหารถยากนะ เขาก็เลยให้ Wechat เราไว้ บอกว่าถ้าจะกลับก็เรียกเขาได้นะ แน่นอนการสื่อสารทั้งหมดผ่านแอพแปลภาษา

💸ค่าตั๋วเข้าอุทยาน Binggou Danxia อยู่ที่ 60 หยวน รวมรถบัสในอุทยานแล้ว เราลองเอาตั๋วจาก Zhangye Danxia ไปเข้าก่อน แต่ว่าสุดท้ายคือเข้าไม่ได้ต้องแยกกันซื้อนะ คอนเฟิร์ม

ในอุทยานรถบัสจะจอดทั้งหมด 2 จุด ซึ่งในจุดแรกใช้พลังขาเยอะมาก เพราะว่าต้องเดินขึ้นไปสูงมาก แต่ว่าระหว่างทางก็จะมีจุดแวะพัก จุดให้ถ่ายรูปแล้วก็ถ้าใครตัดสินใจจะไม่ขึ้นแล้วหรือขึ้นแค่บางส่วนก็สามารถลงก่อนได้ ทางเดินสามารถสวนกันได้ ที่นี่คนน้อยมาก แม้ว่าเราอยู่ที่นี่ประมาณ 3ชั่วโมงกว่าๆ คิดว่าเจอนักท่องเที่ยวไม่เกิน 30 คน

ทัศนียภาพของที่นี่จะเป็นแนวหินผาสูงสีน้ำตาลแดง แล้วก็มีบางจุดที่เป็นภูเขาแต่ว่าปกคลุมด้วยพืชสีเขียวที่เตี้ยๆละพื้นไม่ใช่ต้นไม้สูง ซึ่งก็เป็น ทัศนียภาพที่แปลกตามาก มองแล้วเหมือนอยู่ในยุคไดโนเสาร์ เราคิดว่าใช้ที่นี่ถ่ายจูราสสิกพาร์คได้เลยไม่ต้องแต่งฉากอะไรเลย😁

ที่นี่เราเจอนักท่องเที่ยวมาจากอังกฤษ เป็นคุณลุงอายุ 73 ปี ตั้งใจมาเที่ยวที่จีน 8วีค อิจฉามากกกกกกกนะ8วีคเนี้ย🤣  คุณลุงแข็งแรงมาก แม้ว่าคุณลุงบอกว่าเจ็บเข่าแต่ว่าคุณลุงก็สู้เดินขึ้นเขาเก่งมากๆ ในขณะที่เรายืนพักหอบ คุณลุงก็ค่อยๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่หยุดเลย เราก็เลยได้คุยกันค่อนข้างนาน ตั้งแต่ในจุดที่สองยันออกจากอุทยานเลย คุณลุงใจดีมากเพราะว่าคุณลุงเหมารถจากโรงแรมให้มารับส่งที่นี่ เขาก็เลยถามว่าเรากลับยังไง เราก็เลยบอกว่าเราคิดว่าจะมองหาแท็กซี่ดู เดี๋ยวคงไปดูที่ประตูทางเข้าอีกที เขาก็เลยบอกว่าไปกะเขาสิไปลงตรงที่พักเขาก็ได้ ที่พักเขาอยู่ตรงทางเข้าอุทยานประตู West Gate โอเคไหม สำหรับเราคือโอเคมาก เราสามารถเข้าฝั่งWest Gate แล้วก็ไปนั่งรถบัสวนเพื่อไปออก North Gate ได้ หรืออีกทางแท็กซี่ตรงอุทยาน Zhangye Danxia ก็น่าจะหาง่ายกว่าด้วย

แต่เราก็ไม่แน่ใจนะว่าที่ Binggou Danxia  พนักงานก็น่าจะเรียกแท็กซี่ให้เราได้ เพราะว่าเขาก็เดินมาถามเราเหมือนกันว่าจะเรียกแท็กซี่ไหม

แต่สรุปสุดท้ายแล้วก็เลือกมากับคุณลุง ทำให้ขากลับเราไม่ได้เสียค่ารถซักหยวนเลย แน่นอน เราแวะเที่ยวภูเขาสายรุ้งอีกรอบ แต่รอบนี้เราไม่ได้ปีนภูเขาเน้นชมบนพื้นราบแทน😅

วันนี้ก่อนเข้าที่พัก เราก็แวะร้านปิ้งย่างหมาล่าเสียบไม้เหมือนเดิม เป็นเมนูที่เราชอบมากโดยเฉพาะเห็ดนางฟ้า ทำไมเวลาเอาไปย่างแล้วโรย หมาล่ามันถึงอร่อยขนาดนี้ แต่จริงๆเราคิดว่าเขาอาจจะไม่ได้ย่างนะ เหมือนเขาใช้วิธีทอด แล้วก็จะมีไส้กรอกจีนที่มันอร่อยมากๆ มันฟีลเหมือนเรากินกุนเชียง แต่ว่ามันไม่ได้หวาน อันนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่เราชอบมากเหมือนกัน สุดท้ายหนีไม่พ้นเนื้อแกะโรยผงหมาล่าอร่อยมาก

พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปเมืองสุดท้ายของทริปนี้แล้วก็คือซีอานนั่นเอง เหมือนเดิมเราเลือกใช้รถไฟความเร็วสูง ซึ่งระยะทางจาก Linze ไปซีอานก็ค่อนข้างไกล เราเลือกใช้รถไฟความเร็วสูงใช้เวลาเดินทางเกือบๆ 7ชั่วโมง แล้วเจอกันที่เมืองสุดท้ายของ เส้นทางสายไหม ซีอาน💚💚💚

โรงแรมและตั๋วรถไฟซื้อผ่าน Trip.com และการใช้จ่ายในจีนผ่าน Alipay และ Wechatpay เหมือนเคย แนะนำควรมีไว้ทั้งสองแอพเผื่ออันไหนมีปัญหาระหว่างเดินทาง  ส่วนใหญ่ Wechatpay จะสะดวกกว่าเพราะคนจีนส่วนใหญ่มี Wechat แต่ไม่ใข่ทุกคนที่มี Alipay !!

#solotrip

#zhangye

#Zhangyedanxia

#ภูเขาสายรุ้ง

#จางเย่

#Binggoudanxia

#Linze

#เที่ยวคนเดียว