📌เหยียบทะเลทรายโกบี แบบฟรีวีซ่าที่ตุนหวง ประเทศจีน

เคยมั๊ย ที่เด็กๆเวลาเล่นทรายแล้วแม่ว่า อย่าเล่นสิมันเปื้อนขึ้นรถ ทรายเข้ากระเป๋ากางเกงหมดแล้ว อย่าเล่นทราย 😱😱😭

✅️วันนี้เรามาจัดเต็มชั้นจะเล่นทรายให้เต็มที่ไปเลย ที่นี่ตุนหวง มณฑลกานซู ประเทศจีน เมืองสุดท้ายที่ติดกับเขตปกครองพิเศษ ซินเจียงอุยกูร์

เช้านี้เราออกเดินทางจากเมืองเจียอวี้กวน ด้วยรถไฟขบวนเช้ามาก ตี 5กว่าๆ เราก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงเพื่อมาถึงเมืองตุนหวง รถไฟขบวนนี้ไม่ใช่รถไฟความเร็วสูง แต่เป็นรถไฟตู้นอน เราจองได้เตียงกลาง การปีนขึ้นก็ไม่ง่ายนัก ทุลักทุเลพอควร

✅️เราจะพักที่ตุนหวง2คืน วันแรกที่ถึงเมืองตุนหวง เราก็เข้าเช็คอินที่พัก เก็บกระเป๋านอนพักเอาแรงนิดหน่อย ก่อนออกไปหาข้าวกิน แล้วก็จะเตนียมไปตะลุยถ้ำ Mogao (โม่เกา) สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ที่นี่เราไม่สามารถเข้าชมด้วยตัวเองได้ต้องใช้ไกด์ของเค้าเท่านั้น เราไม่ต้องจ่ายเพิ่มไกด์รวมอยู่ในค่าตั๋วแล้ว โดยที่นี่จำกัดการเข้าชมต่อวันที่ 6,000 คนเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราก็อาจจะต้องลุ้นๆหน่อยว่าตั๋วจะพอถึงเราหรือไม่

ถ้ำโม่เกาจะอยู่นอกเมืองตุนห่วงไปประมาณ 25 กิโลเมตร แต่หลังจากที่เราสอบถามกับที่พัก ก็ได้รู้ว่าเราสามารถไป ซื้อตั๋วที่ Dunhuang digital exhibition center ได้ โดยที่นี่ จะเป็นจุดที่จะใช้สำหรับดูภาพยนตร์ ของถ้ำโม่เกาด้วย แล้วหลังจากนั้นก็จะมีรถของด้านในที่จะพาเราไปถึงถ้ำได้เลย โดยที่เราไม่ต้องหารถไปเอง  ค่าแท็กซี่จากในเมืองไปอยู่ที่ประมาณ 20 หยวนเท่านั้น ที่พักก็บอกเราว่าวันนี้คุณไปได้นะ เพราะว่ามีรอบภาษาอังกฤษตอนบ่าย 2โมงครึ่งด้วย

เราก็เลยพักกินข้าวนอนเอาแรง แล้วตื่นมาประมาณบ่ายเพื่อไปเที่ยวถ้ำโม่เกา😴

โม่เกาเป็นถ้ำที่แกะสลักหิน แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนาอายุกว่า 1,200 ปี ข้างในจะมีพระพุทธรูปแกะสลักในถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้วก็ พระภิกษุองค์ต่างๆ รวมทั้งการเพ้นท์ถ้ำระบายสี บอกเล่าเรื่องราว ความเชื่อ และอารยธรรมในช่วงนั้น  ที่นี่มีถ้ำกว่า 400 ห้องแต่ไม่ใช่ทุกห้องที่มีการแกะสลัก เราจะได้เข้าชมประมาณเกือบๆ10ห้องได้

โดยในแต่ละห้อง ก็จะมีการแกะสลักที่แตกต่างกันไป รวมถึงเรื่องราวก็แตกต่างกันไปด้วย เราใช้เวลาเที่ยวที่นี่ประมาณ 3 ชั่วโมงได้เลย ภายในห้ามถ่ายภาพ ทำให้โลกนี้ยังแบ่งคนออกเป็น 2 ประเภทก็คือ คนที่เคยเห็นพระพุทธรูปในถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว กับคนที่ยังไม่เคยเห็นนั่นเอง🤣

หลังจากกลับจากถ้ำเราก็หิวโซ เราเลยไปตลาดกลางคืน Shazhou หาของกินจุกๆ เดินเล่นซื้อของที่ระลึก กินเพลินไปหน่อยถึงห้องก็จะเที่ยงคืนเลยทีเดียว

🤩วันรุ่งขึ้นเป็นวันที่เรารอคอย นี่คือจุดที่ทำให้เราปักมาที่เมืองตุนหวงก็คือ การมาชมทะเลทรายครั้งแรกในชีวิต ที่เนินทรายหมิงซาซาน เราแพลนจะไปที่เนินทรายช่วงบ่าย เพราะว่าจะได้อยู่จนถึงพระอาทิตย์ตก

🌄 ช่วงเช้าเราก็เลยไม่รีบตื่นสบายๆตื่นมา 10โมงแล้วก็เดินออกไปหาอะไรกินง่ายๆและไปแวะเที่ยว Dunhuang museum ก่อน  ที่นี่เข้าฟรีแค่เราต้องเอาพาสปอร์ตไปลงทะเบียนเพื่อรับตั๋วเข้าชม ข้างในจัดแสดงได้ดีถ้าเทียบกับการที่เป็นพิพิธภัณฑ์ฟรี และก็ดีใจแทนคนทำพิพิธภัณฑ์เพราะว่าคนจีนเองก็มาชมพิพิธภัณฑ์มีเยอะเหมือนกัน

🕔 และแล้วก็ได้เวลาบ่ายกว่าๆ ถึงเวลาที่เราจะไปที่เนินทรายมินซาซานแล้ว ก่อนเข้าไปก็แวะกินก๋วยเตี๋ยวแถวหน้าทางเข้าซะหน่อย เพื่อความสบายใจกันหิวไว้หน่อย แต่พอเข้าไปข้างในเราก็เห็นร้านKFC ตั้งตระหง่านอยู่ 😆

🎫 ค่าเข้าที่นี่อยู่ที่ 110 หยวน ไปซื้อบัตรที่ข้างหน้าได้เลย ราคาบัตรจะไม่รวมกิจกรรมต่าง ๆ ข้างใน ซึ่งเราสามารถไปเลือกซื้อได้

ในไกด์บุคแนะนำว่าเราจะใช้เวลาอยู่ที่นี่ 3-5 ชั่วโมง ซึ่งเราก็คิดว่าเฮ้ยใครมันจะใช้เวลาเยอะขนาดนั้น ซึ่งสุดท้ายเราใช้เวลาทั้งหมด 5 ชั่วโมงที่นี่

แนะนำให้ซื้อ ถุงกันทรายสำหรับใส่ที่รองเท้า ที่ด้านหน้าจะมีคนเดินมาขายคู่ละ 10 หยวน และเตรียมน้ำดื่มไปให้พร้อมด้วย

ตอนนี้เราก็พร้อมลุยกับเนินทรายแล้ว

เนินทรายหมิงซาซานเป็นส่วนหนึ่งของทะเลทรายโกบี ซึ่งมีโอเอซิสตั้งอยู่มีทะเลสาบเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์ ที่ไม่เคยเหือดแห้ง คนไทยเรียกที่นี่ว่าทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวหรือบางคนก็เรียกว่า สระเสี้ยวจันทร์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A  ที่เราไม่คิดว่าจะได้มาในชีวิต ต้องขอบคุณรถไฟจีนที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและทำให้มีรถไฟความเร็วสูงสามารถมาถึงเมืองตุนห่วงได้ง่ายขึ้น ถ้าเป็นสมัยก่อน การใช้รถไฟธรรมดาเราอาจจะต้องนั่งรถไฟถึง 2คืน เพื่อจะมาถึงเมืองนี้

และแน่นอน ความเป็นนักท่องเที่ยวในสายเลือด บริการทุกอย่าง activities ที่มีเราก็ขอมีส่วนร่วม หนึ่งสิ่งที่แนะนำมากๆ คือการขี่อูฐเพราะว่าคุ้มมาก ราคา 100 หยวน แต่ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว การขี่น้องไม่ง่ายอย่างที่คิด น้องโยกพอสมควรทำให้เรากลัวตกแล้วต้องบาลานซ์ตัวเองดีมาก โชคดีความเป็นคนไทยเรานั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างบ่อย การทรงตัวระดับนี้คิดว่าพอไหวสบายมาก แต่ก็ขอสารภาพในวินาทีแรกๆ แอบกลัวมากๆ เหมือนกัน 5555

เราเลือก บริการเพิ่มเติมต่อไปก็คือการขับ motorbike ซึ่งจะมีคนขับแล้วก็ให้เราเป็นคนซ้อน การขับ motorbike บนเนินทรายสนุกมาก เพราะว่ามันจะเป็นการขึ้นลงเนินทรายสูงๆ เลี้ยวไปเลี้ยวมา แอบเสียวว่าเราจะหลุดจากตัวรถเหมือนกัน เราจับแน่นมากเลย พอมาถึงจุดหนึ่ง คนขับก็จะเปลี่ยนมาให้เราขับแทน ความสนุกมันมากขึ้นตรงนี้แหละ แต่เขาก็จะช่วยเราประคองรถด้วย มันอารมณ์เหมือนเราขับ ATV ตรงที่เขาให้เราขับก็จะไม่ใช่เนินสูงมาก รู้สึกค่อนข้างปลอดภัย เนินสูงๆเราปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญขับดีแล้ว5555

ค่าบริการอยู่ที่ 150 หยวน แล้วใช้เวลาไม่นานเราคิดว่าประมาณ 10-15 นาทีได้

จากนั้นก็ไปต่อกับการเล่นสไลด์ลงมาจากเนินทราย ค่าบริการอยู่ที่ 40หยวน ตอนลงสนุกมาก ใช้เวลาไม่กี่วินาทีแล้วมันก็เร็วมาก แต่ตอนขึ้นที่กว่าเราจะปีนขึ้นไปได้ เราพักหายใจหลายรอบมาก อันนี้ทำใจไม่สามารถเล่นหลายรอบได้จริงๆ มันเดินไม่ไหว😵‍💫

จริงๆ กิจกรรมที่มีอีกก็จะเป็นการนั่งเฮลิคอปเตอร์ กับ เครื่องร่อน แต่อันนั้นราคาค่อนข้างสูงมากเราก็เลยไม่ได้เล่น

มีแปะราคาไว้ให้เผื่อใครสนใจ

หลังจากเล่นกิจกรรมเสร็จ เราก็กลับมานั่งน้องอูฐ  น้องอูฐจะพาเราไปที่บริเวณสระเสี้ยวจันทร์ สำหรับคนที่ไม่ได้คิดจะเล่นกิจกรรม ก็สามารถนั่งอูฐกลับไปได้เลย โดยจะใช้เวลาทั้งรอบประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่ของเรามีการแวะเล่นกิจกรรมด้วยก็ใช้เวลาประมาณทั้งหมด 2 ชั่วโมงกว่าๆได้

พอมาถึงจุดนี้ มันก็จะมีเนินทรายที่ให้เราเดินขึ้นไปเพื่อชมวิวสระเสี้ยวจันทร์จากมุมสูง ซึ่งเราเพิ่งปีนขึ้นไปเล่นสไลด์ลงมา ยังทำใจเดินขึ้นไม่ได้อีกเลย แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจเดินขึ้นเนินเพื่อขึ้นไปชมสระเสี้ยวจันทร์จากมุมสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราก็เดินไปพักไป น่าจะใช้เวลาครึ่งชั่วโมงได้เลยกว่าจะขึ้นไปถึง เพราะนอนทรายสูงมากมากจริงๆ ถ้ามาเห็นด้วยตาจะรู้สึกสะเทือนใจ แต่คนจีนสู้มาก ต่อให้เป็นเด็กหรือว่าคนแก่ ทุกคนก็ดูมีพลังที่จะเดินขึ้นไปมากๆ

สุดท้ายเราตัดสินใจเร่งเดิน เพราะว่าเราอยากจะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกจากด้านบนเนินทรายด้วย สานฝันวัยเด็กระหว่างนั่งดูพระอาทิตย์ตกก็นั่งเล่นทรายไปเรื่อย โรยบ้าง ปั้นบ้าง นอนบ้าง เขี่ยบ้าง 😙🤩 ทรายค่อนข้างเย็นเลย อาจจะด้วยว่าเดือนตุลาคมอากาศค่อนข้างเย็นขึ้นแล้ว ช่วงกลางคืนถึงเช้ามืดจะหนาวมาก อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 4-5องศา แต่ว่าช่วงบ่ายก็จะขึ้นไปถึงประมาณ20ต้นๆ เพราะว่าแดดค่อนข้างแรง ควรพกแว่นกันแดดและหมวกติดตัวไว้เลย

✅️โรงแรมและรถไฟจองผ่าน Trip.com ใช้งานจริงไม่มีปัญหาใดๆค่ะ

✅️เราใช้แท็กซี่ในการเดินทางในเมืองทั้งหมด

✅️การใช้จ่ายผ่าน Alipay และ Wechatpay ไม่มีปัญหาสะดุดค่ะ

จบทริปเมืองตุนหวงอย่างอิ่มเอมใจ พรุ่งนี้เราจะตื่นเช้าเพื่อเดินทาง ด้วยรถไฟความเร็วสูงต่อไปที่อีกหนึ่งไฮไลต์ ภูเขาสายรุ้ง เมืองจางเย่ เป็นอีกหนึ่งจุดสุดยอดความตื่นตาตื่นใจที่เรารอคอย ที่นี่เกิดจากการดูยูทูบเบอร์ท่านหนึ่ง เดินทางมาที่เมืองนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าโอ้เราต้องมาที่นี่ให้ได้ คติเราคือ ถ้าใจอยากไปต้องได้ไป 🤣 แล้วเจอกันตอนหน้าเร็วๆนี้ค่ะ

#Dunhuang

#Solotrip

#chinatrip

#เที่ยวคนเดียว

#รีวิวจีน

#ตุนหวง