เหยียบกำแพงเมืองจีน สุดเขตตะวันตกติดทะเลทรายโกบี😳🤟

China is calling again!!!!! 🇨🇳

เข้าสู่เดือนตุลาคม อากาศแต่ละเมืองในเมืองจีน ก็เริ่มเย็นลงเหมาะกับการท่องเที่ยวแล้ว

ในครั้งนี้เราตัดสินใจเลือกเดินทางมาฝั่งตะวันตกของจีน ทริปนี้เกิดขึ้นมาจากแค่ว่า อยากจะไปซีอาน แต่ว่าถ้าไปแค่ซีอานก็รู้สึกไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ ก็เลยลองมองหาโซนที่ขยับออกมา แล้วได้มาดูอะไรเพิ่มขึ้น

ด้วยเหตุนี้ก็เลยไปกันใหญ่ การขยับออกมาจากซีอานที่ว่านั้น จบลงด้วยระยะทางห่างจากซีอานกว่า 1,700++ กิโลเมตร🤣 (ระยะทางประมาณเราเดินทางเชียงใหม่ - สงขลา)

เราเลือกมาจบที่เส้นทางสายไหม มณฑลกานซู ประเทศจีน ซึ่งมีสถานที่ไฮไลท์เยอะมาก

แต่แพลนไปแพลนมาก็รู้สึกว่า โอ้ ถ้าเราไปถึงตรงนั้นแล้ว เราก็ควรจะแวะเมืองอะไรระหว่างทางบ้าง 🤔

ทำให้วันนี้เรามาอยู่ที่นี่ เจียอวี้กวน เมืองที่มีปราการด่านสุดท้ายของกำแพงเมืองจีนที่ฝั่งตะวันตก ปราการด่าน สุดท้ายที่ติดกับทะเลทรายโกบี😙

นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาเหยียบกำแพงเมืองจีนจริงๆซักที👍

การเดินทางในครั้งนี้ค่อนข้างหลายต่อเพราะว่า ถ้าจะเดินทางโดยการบินลงที่เมืองที่ไกลสุดเลย ค่าตั๋วก็แพงมาก (กดเจอที่6หมื่นจุกๆ) อาจจะด้วยว่าเมืองยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมไฟลท์ที่บินเลยยังไม่ค่อยมี

เราจึงตัดสินใจไปลงที่เมืองหลานโจวก่อน แล้วใช้วิธีต่อรถไฟความเร็วสูง วิ่งมาฝั่งตะวันตกแทน แต่ว่าจากกรุงเทพนั้นก็ไม่ได้มีไฟล์ทบินตรงจากกรุงเทพหลานโจวเช่นกัน เราเลยต้องเลือก Transfer ที่คุนหมิง ประกอบกับสายการบินมีการแคนเซิลไฟลท์หลายครั้งมาก ทำให้การเดินทางครั้งนี้ยิ่งนานขึ้นเพราะว่าระยะเวลาในการ Transfer ใช้เวลาต่อเครื่องเกือบ 10 ชั่วโมง และด้วยการเปลี่ยนเวลาของ ไฟลท์ทำให้เราไม่สามารถไปรถไฟขบวนที่เราวางแผนไว้ได้ การเดินทางก็เลยช้าไปอีกเพราะว่าต้องขยับไปรถไฟเที่ยวถัดไป ซึ่งรถไฟ ต้องใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง รวมๆระยะเดินทางมาถึงเมือง เจียอวี้กวนก็ใช้เวลาไป 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว (เวลาที่ใช้เดินทางจริงคือเครื่องบินประมาณ 5 ชั่วโมงรวมกันแล้ว สองไฟล์ บวกกับรถไฟความเร็วสูงอีก 4 ชั่วโมงครึ่ง มีรถบัสเพื่อไปสถานีรถไฟความเร็วสูง 1ชั่วโมง นอกนั้นคือเวลารอคอย555)

เราจะพักที่นี่ทั้งหมด2คืน อากาศช่วงนี้อยู่ที่ 2 -20 องศาเลย อุณหภูมิ ระหว่างกลางวันและกลางคืน อุณหภูมิต่างกันค่อนข้างเยอะ โดยช่วงเช้ามืดจะหนาวสุด แล้วก็จะเริ่มอุ่นขึ้นในช่วงบ่าย แดดแรงมากแว่นกันแดดกับหมวกควรมีติดตัวไว้

ที่เจียอวี้กวนเราตั้งใจมา 2 ที่ ก็คือ

✅️ด่านเจียอวี้กวนซึ่งเป็นประตูเมืองด่านสุดท้ายของฝั่งตะวันตก ถ้าใครเคยดูหนังจีน เวลาที่เขาบอกเปิดประตูกำแพงเมืองใด ๆ ก็อารมณ์แบบนั้นเลย และอีกอย่างคือมาขึ้น✅️กำแพงเมืองจีนครั้งแรก

ที่ด่านเจียอวี้กวนมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่มาก มาที่นี่รู้สึกเหมือน มาอยู่ในฉากของหนังเลย 💚 เราใช้เวลาเดินเที่ยว 2 ชั่วโมง โดยที่ด่านมีกำแพงเมืองสองชั้น กว่าเราจะเดินวนก็ไปถึงด้านในไหนจะปีนขึ้นไปบนกำแพงอีก พอได้เห็นของจริงก็เริ่มรู้สึกว่ามันเป็นด่านที่เอาไว้กันศัตรูได้จริงๆ ใครที่จะผ่านกำแพงนี้เข้าไปได้ ไม่ง่ายเพราะกำแพงหนามาก สูงมาก ไม่มีทางที่จะปีนข้ามกำแพงไปได้เลย

ต่อจากนั้นเราก็ไปที่ กำแพงเมืองจีนด่านสุดท้ายคือ Xuanbi ตอนเห็นทางเดินครั้งแรก ชั่งใจว่าจะเดินดีหรือไม่เดินดี แต่พอมาคิดว่า กว่าจะกว่าเราจะมาถึงเมืองนี้ได้ ใช้เวลาตั้ง 24 ชั่วโมงก็เลย ฮึบ แล้วก็ตั้งใจเดินขึ้น เราก็เดินไปพักไปถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ใช้เวลาชั่วโมงกว่าเลย ทั้งคนแก่ทั้งเด็กแซงเราไปหมดแล้ว🤣🤣

ทางเดินทำเป็นขั้น ค่อนข้างดีเลย แต่ใด ๆ แล้วก็ค่อนข้างชันแล้วก็ แอบหวั่นกลัวลื่นเหมือนกัน อาจจะด้วยว่าเดินไปเดินมาค่ะ เริ่มล้าแล้ว ขาเริ่มสั่นแล้ว

ด้วยฝั่งนี้ภูมิประเทศจะค่อนข้างเป็นทะเลทรายแล้วก็เป็นหินค่อนข้างเยอะทำให้กำแพงเมือง ออกเป็นสีน้ำตาลๆ ไม่ได้เป็นกำแพงเมืองสีเทาเหมือนฝั่งปักกิ่ง

อีกฝั่งของกำแพงเมืองด้านนอกถัดไป ก็เป็นทะเลทรายโกบี มองไปสุดลูกหูลูกตา ไม่เจออะไรเลย แต่ใดๆแล้วก็รู้สึกทึ่งกับการสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา กว่าเราจะเดินขึ้นมาได้ เรายังเกือบแย่ ตอนที่เขาสร้างเขาทำได้ยังไง มันจะต้องอดทนแค่ไหน ต้องฮึบแค่ไหน

ปิดจบวันนี้ ด้วยการกินบุฟเฟ่ต์ ชาบูปิ้งย่าง รวมเบียร์ (แต่เราก็ไม่กินเบียร์นะ) ราคา 50 หยวน แล้วก็เช่าจักรยานไฟฟ้า บิดกลับมาที่พัก

ปกติเราเคยไปเมืองอื่นที่จีนจะเป็นการเช่าจักรยานธรรมดา เราก็สามารถปั่นแล้วเราก็ไปจอดคืนในจุดที่เขาให้คืนตรงไหนก็ได้ โดยที่ไม่ต้องมาคืนที่เดิม

แต่ของที่นี่ปังมาก เป็นจักรยานไฟฟ้าไม่ต้องปั่น บิดอย่างเดียว สบายละเรา วิธีการใช้งานก็ง่ายเหมือนเดิม เราก็เปิดApp Alipay แล้วก็สแกนQR ที่รถ เพื่อใช้งานแต่ความเพิ่มเติมของจักรยานไฟฟ้าก็คือ เราต้องใส่หมวกกันน็อค ซึ่งถ้าเราไม่ใส่หมวกกันน็อก รถจะไม่ติด แล้วก็จะมีเสียงเตือนตลอดเวลาด้วย ซึ่งในจักรยานไฟฟ้าทุกคันก็จะมีหมวกกันน็อควางอยู่ที่ตะกร้าด้านหน้าให้อยู่แล้ว

จากร้านอาหารกลับมาที่พักไม่ไกล ประมาณ ไม่ถึง 2 กิโล แล้วก็เลยลองเช่าจักรยานไฟฟ้าแล้วก็บิดกลับมา เสียไป 3 หยวนถ้วน เป็นประสบการณ์ใหม่ที่สนุกดี รถเงียบมาก และแรงบิดนิดเดียวก็พุ่งแล้ว👍

พรุ่งนี้เราเตรียมจะย้ายเมืองไปเมืองที่ไกลที่สุดของเราจะมาในทริปนี้ ก็คือ เมืองตุนหวง เมืองสุดท้ายที่ติดกับเขตปกครองพิเศษซินเจียงอุยกูร์

เป็นที่ตั้งของสระเสี้ยวจันทร์ที่เป็นโอเอซิสอยู่กลางทะเลทราย ซึ่งเหมือนเดิม เราจะเดินทางด้วยรถไฟ แล้วเจอกันนะตุนหวง เมืองที่ไม่คาดฝันว่าจะได้ไป 😘

#solotrip

#china

#chinatrip

#jiayuguan

#เที่ยวจีน

#เที่ยวคนเดียว