Tree House บ้านต้นไม้ แม่แม๊ะเชียงดาว

ต่อจากโพสต์ที่แล้ว เราค้างรีวิวห้องพักที่บ้านต้นไม้ไว้

เมื่อวานเราเข้าที่พักค่อนข้างเร็ว เนื่องจากเส้นทางการลงเขาค่อนข้างอันตราย เราเลยได้ใช้เวลาพักผ่อน นอนเปล ดูวิวสีเขียวจองต้นไม้แบบจอพาโนรามา ผ่านสองตาของเราเอง ไม่ใช้บนจอทีวีหรือมือถือ ภาพคมชัด เงียบ สงบ ใจฟูมากกก ห้องนอนยุชั้นบน เดินลงมาจะเป็นโถงลอยฟ้ากว้างๆ ไว้รับประทานอาหาร มีเก้าอี้ นั่งหน้ากองไฟที่ก่อให้ไออุ่นช่วงกลางคืน มีน้องๆ สามสาวทำการบ้านมาอย่างดี เตรียมmashmellow เสียบไม้มาย่างไฟหลังทานข้าวเย็นด้วย ราคาที่พักรวมอาหารเย็น+เช้า คุ้มมากกก รสชาดอาหารคือ อร่อยมากกกก ทานข้าวเสร็จนั่งอ่านหนังสือ เปิดเพลงคลอเบาๆ หลายคนก็นั่งดื่มเบียร์ล้อมวงคุยกัน

มีความสุข แบบง่ายๆ แอบคิดว่าถ้าได้ยุต่ออีกซัก 2-3 คงดี อ่อ.. ที่นี่ไม่มีห้องน้ำส่วนตัวภายในห้อง แต่มีห้องที่ใช้กุญแจไขตามเบอร์ห้อง ห้องใครห้องมันยุด้านนอกค่ะ

วันที่ 3 เตรียมตัวกลับ กทม แล้ว

แต่เราเลือกไฟล์กลับเวลา 21.15 มีเวลาเที่ยวอีกเกือบทั้งวัน !! หลังทานข้าวเช้า อาบน้ำ ถ่ายรูปเก็บความทรงจำและเช็คเอ้าท์ประมาณ 10 โมง ก็จอไปทานกาแฟที่บ้านธารชีวี เติมคาเฟอีนก่อน เดินทาง จุดหมายต่อไปคือ Giant Tree Alley ที่ห่างจากที่พักประมาณ 50 นาที ไปถึงก็ต้องใช้ความรวดเร็วในการถ่ายภาพ เพราะเราต้องไปถ่ายกลางถนน ระทึกดีค่ะ รถมาที ก็วิ่งที แต่ภาพออกมาสวยจึ้งเลยย เราขับกลับเข้ามาในตัว ชม. ท้องเริ่มหิว ปักหมุดไปทานข้าวซอยร้านลุงประกิจ ไปถึงประมาณบ่ายโมง เขียนออร์เดอร์เสร็จรอไม่ถึง 5 นาทีก็ได้อาหารแล้ว พอเห็นสีน้ำซุปก็รู้เลยว่าอร่อยย สีดูเข้มข้น แม่เจ้าโว๊ยยย ชิมคำแรก...อร่อยอะไรเบอร์นี้ฟร่ะ!! นี่คือข้าวซอยที่อร่อยยที่สุดเท่าที่เคยกินมา รีบกินรีบไปเพราะมีลูกค้ามารอคิว หม่ำด้วยเกรงใจ เลยไม่มีเวลาถ่ายรูปอาหารเลย ทานเสร็จแวะคาเฟ่ต่อ (จะเขียนแยกอีกโพสต์ รวบตึงหลายร้าน รูปเยอะ จนไม่สามารถใส่โพสต์เดียวได้หมด ที่ต่อไปคือ ตลาดแม่ข่า (เปิด 15.00) อยู่ไม่ไกลจากคาเฟ่ไปถึงประมาณบ่าย3 หน่อยๆ แต่แดดแรงมาก เลยต้องไปหากิจกรรมนวดซัก 2 ชม รอให้พระอาทิตย์ใจเย็นลงหน่อย ออกมาก็ได้เวลาเดินเล่นริมคลองแม่ข่ากันละ ไว้จากมารีวิวต่อนะคะ บรัย