รักษาหน้าพรเกษมหมด 3x,xxx! แถมป้ายยาตัวลดรอยสิว💖

สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้เราอยากจะขอมาแชร์ประสบการณ์ตรงของการเป็นสิวครั้งแรกของเราค่ะ และการเป็นสิวครั้งนี้หมดไปหลายบาทมากกก ภาพอาจจะน่ากลัวนิดนึงน้า

.

ต้องเล่าก่อนว่าปกติเราเป็นคนไม่ค่อยมีปัญหาสิวเลยค่ะ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว จะเป็นสิวทีก็ 2-3 เม็ด จนเมื่อปีที่แล้วช่วงปลายปีจู่ๆ (ตอนนั้มีนเรา 23 ค่ะ) มีสิวขึ้นตรงแก้มขวาเยอะมาก และขึ้นเยอะมากอยู่ด้านเดียวจนหมองง ในส่วนของคางหรือหน้าผากที่ทุกคนเป็นกัน เราไม่มีเลย แก้มซ้ายก็มีน้อยมากค่ะ น้อยแบบนับเม็ดได้เลย แต่ข้างขวาคือเยอะจนเราตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ต้องทำไง เลยตัดสินใจไปหาหมอหลังจากเป็นประมาณ 2-3 อาทิตย์ เราไปรักษาที่พรเกษมนะคะ

.

เริ่มต้นการรักษาก็ตรวจหาเชื้อสิวค่ะ เราเป็นสิวแบคทีเรียนะคะก็ใช้วิธีการกินยาฆ่าเชื้อสิวแล้วก็แอคโนตินค่ะ ช่วงแรกๆที่รักษาเรามีทำ CO2 + เลเซอร์ลดรอยทันทีไปประมาณ 2-3 ครั้งค่ะ แต่ต้องบอกตามความรู้สึกว่าสำหรับเราเลเซอร์รอยมันไม่ได้จางลงมาก มันจะต้องทำหลายครั้ง และอย่างที่ทุกคนทราบว่าเลเซอร์รอยพรเกษมคิดเป็นจุด ไม่ได้ทำให้ทั้งหน้า เพราะฉนั้นอาจจะไม่ได้ทั่วถึงขนาดนั้นค่ะ บวกกับเราทำ CO2 เยอะมาก น่าจะเกิน 100 จุดค่ะ รอยคือไม่หายง่าย ๆ แน่นอน และมีเลเซอร์กระชับรูขุมขนตามที่คุณหมอแนะนำด้วยค่ะ

.

ซึ่งในระหว่างนั้นเราก็ไปหาหมอเพื่อกดสิวและกินยาตลอดค่ะ และใช้สกินแคร์ของทางคลินิก นั่นก็คือสกินแคร์ของแบรนด์ Skinpro rx ค่ะ โดยทุกตัวคุณหมอก็จะเลือกให้นะคะ ซึ่งเราใช้ทั้งเจลล้างหน้า มอยซ์ ตัวแต้มสิว และลดรอยค่ะ ซึ่งเรื่องรอยขอยกให้เลย

.

เรารู้สึกว่ารอยสิวเราจางลงเยอะมากกกก แบบมากๆๆๆ เราใช้มาประมาณ 7-8 หลอด ซึ่งเราใช้มาตลอดเวลาการรักษาน่าจะ 5-6 เดือนที่ใช้มาค่ะ เพราะหมอมาให้เราเริ่มใช้ช่วงประมาณเดือนที่ 4 ของการรักษาแล้ว ซึ่งหมอเขาจะจ่ายตามลำดับนะคะ จะให้ใช้ครีมลดรอยได้เมื่อสิวที่รักษามาเริ่มหายดีแล้วอะไรประมาณนี้ค่ะ แจ้งนิดนึงว่าตอนนี้ก็ยังต้องไปหาหมอเพื่อกดสิวและรับยาทุกเดือนน้า แต่ไม่ได้มีการเลเซอร์ใดๆแล้วค่ะ จริงสำหรับเรารอยยังมองเห็นอยู่แต่ดีขึ้นเยอะมากกกกกกก

.

สำหรับใครที่หาตัวละรอยสิวเราแนะนำของพรเกษมเลยค่ะ เพราะส่วนตัวเราได้มาเพราะหมอจ่ายด้วยเลยค่อยข้างมั่นใจ และตัวแบรนด์ sknpro rx ของพรเกษมเขามีขายใน shopee / lazada / tiktok ด้วยน้า เรามีแปะพิกัดไว้ให้ใน bio เพื่อนลองพิจารณาตามความเหมาะสมกันดูอีกครั้งได้เลยนะคะ ถ้านับระยะเวลาใช้สกินแคร์ของหมอเกือบ 1 ปีแล้วค่ะ เพราะคุณหมอแจ้งว่าสิวของเราเกิดจากแบคทีเรียซึ่งหมอคิดว่าน่าจะแพ้สกินแคร์ แต่ในปัจจุบันเราก็มีการเปลี่ยนสกินแคร์บ้าง แต่จะเน้นตัวที่อ่อนโยนและแบรนด์ที่น่าเชื่อถือค่ะ เช่น Loreal atoplam เป็นต้นค่ะ แต่เราเป็นคนใช้สกินแคร์น้อยค่ะหลักๆเน้นมอยส์เป็นหลักค่ะ แต่ตัวลดรอยยังเป็นตัวเดิมหนึ่งเดียวในใจของทางพรเกษมเลยค่ะ

.

มาต่อกันที่การรักษาสำหรับการรักษาของเราน่าจะเกิน 3x,xxx ละค่ะ เพราะตอนแรกๆเราทำตามที่หมอแนะนำตลอด ช่วง 2-3 เดือนแรกเราจ่ายครั้งละ 5,000 - 8,000 บาท ประมาณครั้งที่ 4-5 ก็ยังมีทำ co2 บ้างแต่ไม่มีเลเซอร์ลดรอยละน้า มาทาครีมเอาค่ะ แต่จริงๆหมอไม่ยัดเยียดเลยค่า เราอยากหายไวๆเลยใส่หมดทุกอย่างเลย ส่วนตอนนี้อย่างที่บอกว่ายังไปหาหมอเพื่อกดสิว และรับยาค่ะ ตกเดือนละ 500-600 บาทค่า

.

ปัจจุบันหน้าเราไม่มีสิวแล้ว และดีขึ้นมากๆๆๆรอยจางไปเยอะ แต่ที่เรายังไปหาหมอเพราะไม่อยากเลิกยาเองด้วยค่ะ อยากให้อยู่ในดุลพินิจของคุณหมอ เพราะเราคิดว่าหมอคงคิดมาแล้ว อีกอย่างคุณหมอน่ารักมาก ขอบคุณเราที่ไปทุกครั้ง ถึงแม้เราจะไม่เลเซอร์อะไรตามที่หมออยากให้ทำ ”เพราะหมอบอกว่าแค่มาก็ดีใจมากแล้ว ดีกว่าหายไปเลย ถ้ามันแย่ลงเราจะต้องเริ่มต้นกันใหม่“ โชคดีที่เราอาจจะเขอหมอที่ใจดีค่ะ หมอจะแนะนำและถามตลอดว่าทำเลเซอร์มั้ย แต่เราจะบอกว่าขอแค่กดสิว หมอก็โอเคไม่วอแวอะไรอีกเลยค่ะ ส่วนตัวให้ 10 10 10 เลยน้า💖💖💖

.

ใครอยากให้เรามาแชร์สกินแคร์ก็แจ้งได้น้า จะคอมเมนต์ถามหรือทักมาส่วนตัวก็ได้น้า

.

FYI : เรารักษาจริงและปัจจุบันยังรักษาอยู่ ทั้งหมดคือสิ่งที่เราเจอ และความคิดเห็นส่วนตัวนะค้า

.

#ป้ายยากับlemon8 #ติดเทรนด์ #ถามตอบบิวตี้ #แชร์ประสบการณ์ #รักษาสิว #พรเกษมคลินิก