รีวิว✨เปรียบเทียบรองพื้น chanel ใหม่ vs เก่า

สวัสดีค่า วันนี้เมจะมารีวิวรองพื้นจาก chanel กันค่ะ ตัวนี่เป็น les beige tint จะเป็นไลน์ที่รองพื้นจะมีเนื้อ fluid ที่ค่อนข้างพิเศษเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของเขา

โดยตอนนี้เค้าออกตัวใหม่ออกมา เมที่ชอบตั้งแต่รุ่นเดิมก็เลยไม่พลาดต้องจัดมาซะหน่อย วันนี้เลยขอหยิบทั้ง 2 ตัวมาเปรียบเทียบกันสักหน่อยค่ะ

สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ก่อนเลยคือที่เป็น water tint ทั้ง 2 อันถือว่าเนื้อจะบางเบากว่ารองพื้นรุ่นอื่นๆ ของ chanel ดังนั้นถ้าใครชอบการปกปิด medium-full อาจจะต้องปล่อยผ่านรุ่นนี้ไป แต่ถ้าใครเป็นฟีลสายแต่งหน้าเบาๆ ธรรมชาติ ไม่เน้นการปกปิด 2 ตัวนี้ตอบโจทย์สุดๆเลยค่ะ

ความปกปิด : รุ่นใหม่ทำได้ดีกว่ารุ่นเก่ามากๆ

รุ่นเดิมแทบไม่ปกปิดเลยค่ะ แทบจะเป็นฟีลเมคอัพเบสมากกว่าเหมือนแค่ปรับสีผิวให้ดูผ่อง แต่ตัวใหม่จะมีความปกปิดมากกว่า เนื้อจะข้นกว่า ปกปิดได้ light-medium ค่ะ

ความสบายผิว : ทั้ง 2 รุ่นทำได้ดีไม่ค่อยต่างกันค่ะ ตัวใหม่ปกปิดเยอะขึ้นแต่ก็ยังถือว่าวสบายผิวกว่ารองพื้นทั่วๆ ไปค่ะ

แปรงแต่งหน้า : ทั้ง 2 ตัวจะมาพร้อมแปรงเฉพาะในการเกลี่ยรองพื้น ba บอกว่าตัวใหม่จะดีกว่าแต่ส่วนตัวเมไม่ค่อยรู้สึกต่างกันในส่วนของแปรง

ความติดทน : ใกล้เคียงค่ะ ตัวใหม่จะทนมากกว่าเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่เหมาะกับการออกแดดประเทศไทยค่ะ ทั้งสองตัวยังไงก็ต้องตบแป้งฝุ่นทับค่ะ ประมาณ5-6ชม ผิวก็เริ่มมันแล้วค่ะต้องพกแป้งตลอด เหมาะกับการทำงานในห้องแอร์ หรือไปดินเนอร์สวยๆ

ราคา : ราคารุ่นใหม่แพงกว่าค่ะ จริงๆ ราคาเท่ากันคือประมาณ 2,800 บาท แต่รุ่นใหม่ไซส์แค่ 20ml ในขณะที่รุ่นเก่าคือ 30ml พอคิดเทียบกันถือว่าแพงกว่ากันพอสมควรเลยค่ะ

สรุปว่าควรซื้อตามไหม ?

ถ้าเป็นคนชอบฟีลmake up no make up ผิวสวยสุขภาพดี ตื่นมาเป็นแบบนี้ ไม่ได้ใช้ชีวิตสมบุกสมบัน ส่วนใหญ่อยู่ในห้องแอร์สวยๆ ตัวนี้เหมาะมากค่ะ เรียกได้ว่ารักเลย

แต่ถ้าเป็นฟีลคนหน้ามัน เป็นสิวหรือรอยเยอะๆ ต้องใช้ชีวิตออกแดดนอกห้องแอร์ อยู่เช้าจรดค่ำไม่ได้เติมหน้าแนะนำให้ผ่านตัวนี้ไปเลยค่ะ ถ้ายังอยากใช้รองพื้นจาก chanel อยู่แนะนำเป็นรุ่นที่เป็น foundation จะดีกว่าค่ะ

#ติดเทรนด์ #ซื้อซ้ำวนไป #chanelthailand #รองพื้นงานผิว #แกะกล่องลองแต่ง #แกะกล่องบิวตี้ #Howtobeauty #Howtoแต่งหน้า #งานผิว #รีวิวเครื่องสําอางแพง