T h e K i n g

วันปิยะมหาราช

๒๓ตุลาคม๒๕๖๗

ความเหนือชั้นทางการทูต นำสยามรอดพ้นวิกฤต สู่ความเป็นเอกราช

นับเป็นความสำเร็จทางการทูตอย่างงดงาม และเป็นการตัดสินพระราชหฤทัยที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว ที่ทำให้สยามเป็นที่รู้จักของชาวยุโรป เมื่อบวกรวมเข้ากับการปฏิรูปประเทศในทุก ๆ ด้านของพระองค์ สยามจึงพัฒนาก้าวหน้าทัดเทียมกับชาติมหาอำนาจอื่น ๆ รอดพ้นจากการถูกล่าอาณานิคม และมีเอกราชมาจนถึงทุกวันนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ได้ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (20 กันยายน พ.ศ. 2396 – 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453) เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรีและเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 49 ตามประวัติศาสตร์ไทย เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอังคาร แรม 3 ค่ำ เดือน 10 ปีฉลู เบญจศก จ.ศ. 1215 ตรงกับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระองค์ที่ 1 ในสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี เสวยราชสมบัติเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ปีมะโรง พ.ศ. 2411 [3] เสด็จสวรรคต เมื่อวันอาทิตย์ แรม 4 ค่ำ เดือน 11 ปีจอ ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 ด้วยโรคพระวักกะ ณ พระที่นั่งอัมพร พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร

ทรงเป็น สมเด็จพระบรมราชชนก (ทูลกระหม่อมพ่อ)

ใน พันเอก(พิเศษ) จอมพลเรือ นายกองเอก

นายแพทย์ ดร.สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ต้นบรมราชสกุลวงศ์ "มหิดล"ซึ่งปกครองราชอาณาจักรไทยในปัจจุบัน

ทรงเป็น พระอัยกาเจ้า( ทูลกระหม่อมปู่) ในรัชกาลที่๙

ทรงเป็น พระปัยกาจ้า (ทูลกระหม่อมทวด) ในรัชกาลที่๑๐

พระองค์ทรงโปรด กุหลาบแดง และ ปลาทูแม่กลอง

บรรจุพระอัฐิ

พระวิมานทองกลาง บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

พระบรมมหาราชวัง

Website credit : Wikipedia, other website

Photo credit : Printerest