นิยายมีกี่ประเภท? ทำไมถึงควรรู้ไว้ก่อน?

การที่เราจะเริ่มเขียนนิยายซักเรื่อง จำเป็นต้องรู้จักประเภทของนิยายแต่ละแบบด้วยเหรอ ถ้าถามผม ผมมองว่าค่อนข้างจำเป็นนะครับ ทำไมกันล่ะ🤔

นั่นเป็นเพราะหากคุณเลือกแท็กนิยายที่ไม่ตรงกันกับประเภทนิยายที่ท่านเขียนจะทำให้ยอดอ่านน้อยกว่าปกติ เป็นเพราะไม่ได้จัดอยู่ในหมวดหมู่ที่ถูกต้องนั่นเอง แล้วมันจะยากตรงไหนล่ะ นิยายรักก็แค่ติดแท็กโรแมนซ์ก็พอแล้วหนิ...

ก็ถูกครับ คุณสามารถติดแท็กนิยายตามเนื้อหาที่ท่านเขียนได้เลย แต่โดยทั่วไปแล้ว น้อยมากที่นิยายเรื่องหนึ่งจะเขียนออกมาโดยใช้โครงเรื่องประเภทเดียว น้อยมากที่จะเป็นโรแมนซ์ตลอดทั้งเรื่อง

นิยายหนึ่งเรื่องมักจะมีโครงเรื่องอยู่สองประเภทเป็นอย่างน้อย เช่น โรแมนซ์ แฟนตาซี, แอคชั่น คอมเมดี้ เป็นต้น แล้วการติดแท็กแบบนี้ดียังไงกัน แน่นอนครับว่ามันดีตรงที่มันจะสามารถเพิ่มยอดการเข้าถึงได้มากกว่าเดิม

ก่อนที่จะอัปโหลดนิยายของท่าน ผมจึงอย่างให้ท่านทำความเข้าใจเกี่ยวกับนิยายประเภทหรือหมวดหมู่ต่างๆ เสียก่อน เพื่อที่ทุกท่านจะเลือกติดแท็กได้ถูกต้องและเหมาะสมกับเนื้อหาในนิยายของท่านให้มากที่สุด

1. Comedy หรือ นิยายที่เน้นเนื้อหาสบายสมอง เฮฮาขบขัน

ซึ่งเป็นนิยายที่ไม่ต้องใช้ความคิดในการอ่านมากนัก สอดแทรกมุกตลกเป็นระยะๆ โดยที่ผู้อ่านไม่ต้องไปวิเคราะห์เรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง 😂😂

2. Action หรือนิยายต่อสู้ บู๊ล้างผลาญ นิยายประเภทนี้นับว่าผ่านตานักอ่านมาเกือบจะทุกคนแล้ว และก็มักจะไปเสริมนิยายหลายๆ ประเภทอยู่บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่ล้วนแต่จะเป็นเนื้อหาทึ่เกี่ยวกับการต่อยตีเสียส่วนใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นนิยายประเภทนี้ก็นับว่ายังเป็นนิยายขายดีในท้องตลาดอยู่ 💥💥

3. Romance หรือนิยายรักๆ ใคร่ๆ เป็นประเภทนิยายอีกหนึ่งหมวดที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เนื้อเรื่องหลักล้วนเป็นความรักระหว่างคน 2 คน หรืออาจจะหลายคนทึ่แก่งแย่งชิงดีเพื่อเรียกร้องความรักจากกัน นับเป็นนิยายที่เขียนได้ค่อนข้างง่าย เมื่อเทียบกับประเภทอื่นๆ เพราะทุกท่านก็น่าจะมีความรักในแบบที่ท่านใฝ่หา ในเมื่อในชีวิตจริงไม่เป็นเช่นนั้น เราก็สรรสร้างมันขึ้นมาเองก็สิ้นเรื่อง ❤️❤️

4. Sci-fi หรือแนววิทยาศาสตร์ก้าวหน้า นับเป็นนิยายที่เขียนได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากว่าต้องอีกหลักการทางวิทยาศาสตร์ ทั้งฟิสิกส์ หรือชีวะ ตามแต่เนื้อหา โดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นโลกที่เทคโนโลยีล้ำหน้าไปไกล หรือไม่ก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต ซึ่งมักจะนำเสนอสิ่งที่เหนือความคาดหมายของผู้อ่านเหมือนประเภทแฟนตาซี หากแต่ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ 🧠🧠

5. Fantasy หรือ โลกในจินตนาการ นิยายประเภทนี้นับเป็นอีกประเภทที่เขียนได้ง่าย เนื่องจากว่าเป็นประเภทที่ใช้จินตนาการของผู้เขียนล้วนๆ อยากให้มีเวทมนต์ แน่นอนว่าทำได้ อยากให้มีมังกร แน่นอนว่าทำได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพลังวิเศษ เทพเจ้า หรือสัตว์ในตำนาน ขอเพียงมีข้อมูลก็สามารถสรรสร้างโลกของตนขึ้นมาได้แล้ว 🐉🐉

6. Thiller & Horror หรือ ระทึกขวัญและสยองขวัญ ทั้งสองอย่างนี้นับว่าสามารถสร้างอารมณ์ให้ผู้อ่านได้ใกล้เคียงกัน หากแต่หนึ่งเป็นการเล่าเรื่องราวของคน อีกหนึ่งเล่าเรื่องราวของผี โดย Thiller มักจะเล่าเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่อง การฆาตกรรม ส่วน Horror จะเล่าเรื่องราวของภูติผี ปีศาจ ตำนานเมืองต่างๆ ซึ่งทั้งสองอย่างมักพ่วงไปด้วยกัน 🎃🎃

7. Suspense หรือ สืบสวนสอบสวน นิยายประเภทนี้ก็ตรงตามชื่อ ใักจะเล่าเรื่องราวของการไขคดีต่างๆ ทั้งคดีฆาตกรรม คนหาย หรือเรื่องราวที่เป็นปริศนา นิยายเรื่องนี้ควรชักจูงผู้อ่านให้ไขปริศนาไปพร้อมกับตัวเอง ดังนั้นแล้วนิยายประเภทนี้จึงเป็นอีกประเภทที่เขียนได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากผู้เขียนต้องคิดปริศนาและผูกปมต่างๆ ไว้ได้ 🔍🔍

8. Hitorical หรือ นิยายอิงประวัตศาสตร์ เป็นนิยายที่เริ่มเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ข้อควรระวังในการเขียนนิยายประเภทนี้คือ ไม่ควรใส่ข้อมูลที่ผิดลงไปในนิยาย เพราะอาจเป็นการบิดเบื้อนประวัตศาสตร์ ผมแนะนำว่าให้อิงมาเพียงแค่ส่วนหนึ่ง และนำมาแต่เสริมเอา ✒️✒️

ทั้งหมดนี้คือประเภทหรือหมวดหมู่ของนิยายหลักๆ แล้วเราควรติดแท็กหมวดหมู่นิยายอย่างไร ให้มียอดการเข้าถึงเพิ่มขึ้นได้ ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่านิยายหนึ่งเรื่องมักดำเนินเรื่องอย่างน้อย 2 ประเภท เช่น

นำเสนอความรักคู่พระนาง แต่เป็นในยุคอยุธยา ในส่วนนี้สามารถติดแท็กเป็น โรแมนซ์ - ย้อนยุค ได้ แต่หากว่าพระเอกเป็นทหารที่ต้องสู้รบ ก็สามารถเพิ่ม แอคชั่น เข้าไปได้ แต่ผมแนะนำว่าให้ติดแค่ 2 แท็กก็พอแล้ว

#นักเขียนนิยาย #นักเขียน #นิยาย #รายได้เสริมออนไลน์ #รายได้เสริม #เขียนนิยาย

🐱