📌9 ข้อคิดจากหนังสือ “พ่อรวยสอนลูก”

1. ทรัพย์สินที่ทรงพลังที่สุดของคนเราคือ “ความคิด”

.

หลายคนมักบอกว่า เงิน ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่า เพราะสามารถทำให้ชีวิตสุขสบายได้

.

แต่ทุกคนลืมไปรึเปล่าว่าทรัพย์สินเหล่านั้นมีได้ก็หมดได้ ต่างจากความคิดที่จะสามารถเพิ่มความมั่งคั่งให้กับเราได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันจบ

.

“คนที่ไม่พัฒนากรอบความคิด สุดท้ายจะไม่พัฒนาไปไหนแม้มีทรัพย์สินมากมาย ต่างกันกลับคนที่หาความรู้มาพัฒนากรอบความคิดอยู่เสมอ ท้ายที่สุดจะประสบความสำเร็จ”

.

2. คนรวยซื้อความสบายทีหลัง คนชั้นกลางมักซื้อความสบายก่อน

.

เมื่อมีรายได้เข้ามาคนส่วนใหญ่จะนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายกับสิ่งที่อยากและไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นขนาดนั้น

.

ต่างกับคนที่ต้องการรวย จะแบ่งเงินเป็นสัดส่วนนำไปเก็บออม ลงทุนในสินทรัพย์ที่ตนเองถนัด และพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา

.

3. การมีเงินมหาศาล ไม่สำคัญเท่าการรักษาเงินให้อยู่กับเราตลอดไป

.

คนมีเงินมหาศาลแต่จัดการไม่ได้ หมดตัวกันมานักต่อนักแล้ว สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้จักการวางแผนการเงิน ไม่ว่าจะมีเงินน้อยหรือมีมาก วางแผนได้หมด ขอแค่เพียงรู้ว่าในวันหนึ่งเงินไหลออกจากคุณไปเท่าไหร่ และไหลกลับมาเท่าไหร่ คุณจะสามารถจัดการกับเงินและอนาคตของคุณได้ง่ายขึ้น

.

4. ปัจจุบันเป็นยุคการสื่อสารไร้พรมแดน ใครมีข้อมูลมากที่สุด คือ “เจ้าของขุมทรัพย์”

.

ในปัจจุบันทุกคนเชื่อมถึงกันหมด เมื่อใดก็ตามที่คุณมีข้อมูลในสิ่งที่ทุกคนอยากรู้หรือต้องการ คุณจะมีอิทธิพลต่อคนหมู่มากทันทีและสามารถนำสิ่งนั้นมาสร้างผลประโยชน์ให้กับธุรกิจของคุณต่อได้

.

5. อุปสรรคของส่วนใหญ่ที่ทำให้คนไม่ประสบความสำเร็จทางการเงิน คือ กลัว คิดลบ และขี้เกียจ

.

ทุกคนอยากรวย อยากมีเงิน แต่จะมีสักกี่คนที่กล้าออกจาก Comfort zone ของตัวเองแล้วมาลุยจริง ๆ

.

แน่นอนล่ะว่าสิ่งฉุดรั้งเราเอาไว้ คือความกลัว กลัวที่จะขาดทุนและเงินหายไปต่อหน้าต่อตา วิธีแก้คือการศึกษาหาความรู้ในสิ่งนั้นเพื่อลดโอกาสขาดทุน

.

ขี้เกียจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ เพราะคิดว่าอยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว จะไปไขว่คว้าให้ตัวเองลำบากเพิ่มทำไม

.

สิ่งที่ง่ายที่สุดที่จะปลดโซ่ตรวนเหล่านี้ออกไป คือเริ่มให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สมมุติเริ่มลงทุน ก็ลงทุนให้น้อยที่สุดก่อน ชนิดที่ว่าเงินที่ลงทุนเหล่านั้นหายหรือขาดทุนไปก็ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไร

.

6. หากคุณอยากจะไปที่ไหนก็ตาม ทางที่ดีที่สุดคือถามคนที่เคยไปมาแล้ว

.

เวลาคุณจะเลือกสถานที่ท่องเที่ยวสักที่ แน่นอนว่าต้องดูรีวิวจากคนที่เคยไป ดูรูปความสวยงามของสถานที่นั้นก่อน

.

ความสำเร็จก็เช่นกัน หากคุณอยากจะประสบความสำเร็จในด้านการลงทุน คุณก็ต้องเรียนรู้จากคนที่เคยลงทุนแล้วประสบความสำเร็จมาแล้ว

.

หากคุณอยากมีการวางแผนการเงินที่ดี คุณก็เรียนรู้จากคนที่บริหารและวางแผนการเงินเป็น

.

7. อย่ามัวทำงานเพื่อเงิน แต่ให้เงินทำงานแทนคุณ

.

การตั้งใจและขยันขันแข็งในการทำงานเป็นสิ่งที่ดี แต่คงไม่มีใครที่อยากจะทำงานไปตลอดชีวิต

.

ลองนำเงินที่คุณหามาได้อย่างยากลำบากนั้น ไปลงทุน ขาดทุนบ้าง ได้กำไรบ้าง มันจะเป็นประสบการณ์ให้แก่คุณ

.

และเมื่อใดที่การลงทุนได้ถูกที่ถูกทาง คุณก็สามารถนอนหลับสบายเต็มอิ่มแม้ว่าคุณไม่ได้ทำงานอีกแล้ว แต่จะเป็นเงินของคุณแทนที่มันกำลังทำงานแทนคุณ

.

8. นิสัยการใช้เงิน จะสะท้อนให้เห็นว่าตัวตนที่แท้จริง ว่าเราเป็น คนรวย หรือ คนชั้นกลาง

.

คนรวย ก่อนจะใช้เงินเขาจะมองด้วยเหตุผลว่าสิ่งนั้นจำเป็นจริงๆไหม และจะสร้างผลตอบแทนให้กับตัวเขาได้หรือไม่

.

คนชั้นกลาง จะเน้นซื้อของที่สร้างความสบายให้ตัวเองก่อน

.

คนรวย จะคิดยาววางแผนการเงิน แบ่งเป็นสัดส่วนเก็บออมและลงทุน จึงค่อยนำไปใช้

.

คนชั้นกลาง จะคิดสั้นใช้เงินเดือนชนเดือนเหลือเท่าไหร่ค่อยออม ซึ่งร้อยทั้งร้อยมักไม่เหลือ

.

9.อาชีพทำให้อยู่รอด ธุรกิจทำให้มั่งคั่ง

.

การมีอาชีพ จะทำให้คุณมีเงินใช้เอาตัวรอดในแต่ละวันไปได้ แต่หากอยากที่จะมีความมั่งคั่งคุณต้องทำธุรกิจควบคู่ไปด้วย

.

ทั้งอาชีพและธุรกิจมีความสำคัญเท่ากันทั้งคู่เพราะเป็นแหล่งรายได้ให้กับคุณ

.

อาชีพ = มีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอทุกเดือน,มีสวัสดิการจากบริษัท

.

ธุรกิจ = ขาดทุนบ้าง มีกำไรบ้าง แต่ธุรกิจจะยังเดินต่อได้แม้วันที่คุณไม่ทำงาน

.

หลายคนที่เคยอ่านเรื่องเงิน 4 ด้านของพ่อรวย มักเข้าใจผิดว่าอาชีพงานประจำเป็นสิ่งที่ผิด แต่ไม่ใช่เลย พ่อรวยสอนให้รู้จักการรายได้หลายทางต่างหาก เพราะเมื่อใดที่ธุรกิจของคุณเกิดขาดทุนคุณก็ยังมีงานประจำที่มีรายได้สม่ำเสมอและสวัสดิการต่าง ๆ คอยรองรับ

#รีวิวหนังสือ #พ่อรวยสอนลูก