Wine words 4 ศัพท์สำคัญ คุยเรื่องไวน์อย่างโปร

เคยเป็นกันมั้ย เวลาไปร้านขายไวน์ อธิบายไวน์ที่ชอบให้คนขายฟัง แต่ได้ไวน์กลับมา ดื่มแล้วไม่ตรงใจ หรือ คุยกับเพื่อนเรื่องไวน์ คุยไปคุยมา อธิบายไม่ถูก นึกคำพูดไม่ออก โพสต์นี้เรามาคุยกันเรื่องศัพท์ไวน์เบื้องต้นกัน ต่อไปคุยเรื่องไวน์เราจะได้ใช้ภาษาเดียวกันครับ 🍷

1. Body รสสัมผัส หรือ ความหนืดของน้ำไวน์ มีระดับตั้งแต่ เบา กลาง หนัก (light, medium & full body) นึกภาพตามง่ายๆ เหมือนเราดื่มน้ำเปล่า คล้ายกับไวน์ light body แต่หากเราดื่มนม ก็คล้ายกับไวน์ full body

ไวน์ที่มีบอดี้เบา ส่วนมากจากเป็นไวน์ขาว ที่ไม่ได้หมักในถังไม้โอ้ค เช่น Riesling , Sauvignon blanc หรือไวน์แดงจากองุ่นบางสายพันธ์เช่น pinot noir

ไวน์ที่มีบอดี้กลางถึงหนัก ส่วนมากจะเป็นไวน์แดง ตัวอย่างเช่นจากพันธ์ องุ่น Shiraz หรือ Cabernet Sauvingon

2. Acidity ความเปรี้ยวสดชื่นที่มีในไวน์ เราสามารถสังเกตุ ได้จากน้ำลายที่ออกมาตามกระพุ้งแก้ม, โคนลิ้น หรือเหงือก หลังจากที่เราดื่มไวน์เข้าไป โดยมากจะสัมผัสได้ชัด ในไวน์ขาว ที่มีที่มาจากพื้นที่ปลุกองุ่นเขตหนาวเย็น

3. Tannin ความฝาดที่เจอได้บ่อยจากไวน์แดง ให้ความรู้สึกแห้ง หรือเหนียว ที่เหงือก หลังจากดื่มไวน์ แทนนินมาจากยางที่อยู่ที่เปลือกองุ่น มักพบมากในไวน์แดง เนื่องจากกระบวนการหมัก จะทำพร้อมเปลือก จึงทำให้แทนนินเหลือคงค้างอยู่ในน้ำไวน์ ซึ่งแทนนินนี่เองทำให้การกินไวน์แดงกับสเต็กเป็นของคู่กัน เนื่องจากแทนนินจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมันในเนื้อสัตว์ จนทำให้เกิดรสชาติหวาน และตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี

4. Aroma กลิ่นที่ได้จากการดมไวน์ กลิ่นแรกมักจะเป็นกลิ่นที่มาจากคาแรคเตอร์ของพันธ์ุองุ่น เช่นกลิ่นเบอร์รี่สีดำและแดง, กลิ่นมะนาวเขียวหรือเหลือง, กลิ่นของผลไม้จำพวก stone fruit เช่นเสาวรส พีช หรือ ลูกท้อ ส่วนกลิ่นอื่นๆนอกจากคาแรคเตอร์องุ่น จะเป็นกลิ่นที่ได้จากการกระบวนการผลิตหรือเอจจิ้งไวน์ ซึ่งก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความซับซ้อนในไวน์นั่นเอง

รู้แล้วอย่างนี้ต่อไปคุยเรื่องไวน์กับใครก็ดูโปรแล้วครับ 👍👍

#ไวน์ #มือใหม่ดื่มไวน์