Самый простой способ скачать видео и галерею из приложения Lemon8
Компьютер: щелкните правой кнопкой мыши и выберите "Сохранить ссылку как..." для загрузки.
PHOTOS | |||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать |
***คุยกันก่อนอ่านโพส
โพสนี้ผมจะเล่าถึงประสบการณ์การเป็นเฮดของกิจกรรมในมหาลัยของผม และน่าจะค่อนข้างยาวใช้ได้ ใครอยากอ่านเต็มก็อ่านโพส ส่วนใครอยากอ่านผ่านๆ ในรูปเลยครับผมม
disclaimer กิจกรรมประชุมเชียร์ อาจจะฟังดูดิบเถื่อน แต่ภายในปีผม ถูกปรับให้กิจกรรมมันซอล์ฟลงมากๆ แทบจะเล่นหัวพี่ได้เลย (หยอกๆ) โดยมีวัตถุประสงค์ในการละลายกำแพงน้ำแข็งของรุ่นพี่รุ่นน้อง และระหว่างน้องปี 1 ด้วยกันเอง ยังไงอ่านด้วยทัศนคติที่เป็นกลางนะครับ
…
“สวัสดิการ พอ !”
ผมเปร่งเสียงออกมาดังทั้งชั้น หลังจากหมดเวลาการพักระหว่างกิจกรรม
ผม และสมาชิกทีม เดินออกมาจากจุดลับตาของน้องปี 1 ภายในชั้นเงียบสงัด… มีเพียงแต่เสียงรองเท้าคัทชูของพวกผม ที่กระทบพื้น ให้ได้ยินเพียงเท่านั้น
หน้าตาเคร่งขรึม ดูเป็นคนเจ้าระเบียบ หน้ามองตรง ยืดอกหลังตรง ราวกับเป็นพี่เจ้าระเบียบที่รุ่นน้องทุกคนต่างเกรงใจ…
ผมมายืนอยู่ข้างหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว ท่ามกลางสายตาของคนเกือบร้อย
บรรยากาศเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด มีรุ่นน้องปี 1 คนนึง มองตาตรง นั่งหลังตรง ตามระเบียบที่กำหนดไว้
ผมสังเกตุเห็นเหงื่อของน้องบางคน หยดลงมาเป็นสายด้วยความตรึงเครียด
หารู้ไม่ว่า จริงๆแล้ว…
“กูไม่ได้ตั้งใจให้ตัวเองมาร่วมกิจกรรมนี้ด้วยซ้ำ…”
…
”เห้ยมึง… มึงพอมาเป็นพี่สตาฟให้สาขาเราได้ป่ะวะ”
”ห้ะ ?…“
“มันขาดคนนึงพอดี“
หลายๆคนในรุ่นผมออกความเห็น ระหว่างที่เข้าประชุมสาขาเพื่อหาคนเป็นสตาฟและวีซ่าในรุ่น และขอให้ผมเข้าร่วมกิจกรรมนี้ เพื่อเติมช่องว่างที่ขาดไป
”ขอคิดดูก่อนได้ไหมวะ“
ผมกะจะชิ่งออกไปอย่างเต็มที่
”เจ๋งเลยมึง ยังไงลองคิดดูนะ หลายๆคนรออยู่“
(เอ้า กดดันกูซะงั้น 555555)
”โอเคร๊“
หลังจากประชุมสาขาจบ ผมก็เดินกลับห้องพักของตัวเอง และล้มตัวลงนอนบนเตียงเพื่อพักผ่อนหลังจากเรียนมาทั้งวัน
จากนั้นก็มีเพื่อนสนิทของผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง
”เห้ยมึง… ว่างไหมวะ“
”เออ ว่างดิ มีไรวะ“
”มึงมาเป็นสตาฟดิ ไปด้วยกันเนี่ย สนุกดี…“
ก็ไม่ต้องหาคำตอบ สุดท้ายผมก็เลือกมารับตำแหน่งพี่สตาฟของสาขาของผม เพราะเพื่อนสนิทผมชวน…
แต่บอกตรงๆนะ ผมไม่ได้อยากจะทำกิจกรรมแบบนี้เลย เพราะตอนปี 1 ผมก็ผ่านการเป็นรุ่นน้อง และเข้ากิจกรรมลักษณะนี้มาก่อน บอกเลย ผมมีทัศนคติลบกับกิจกรรมนี้มากๆ มีแต่คำถามมากมายว่าทำไมต้องให้พวกกูต้องมาเหนื่อย ไม่เอาเวลาไปเรียนวะ บลาๆๆ
แต่ก็อย่างว่าแหละ ผมก็เลือกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้แล้ว ทำไรไม่ได้แล้ว ลงชื่อไปแล้ว และเพื่อนในสาขาไม่มีใครอยากเป็น
ยังไงขอเล่าก่อน กิจกรรมที่ผมร่วมเนี่ย คือกิจกรรมประชุมเชียร์ ซึ่งจะเป็นการแสดงสปิริตให้แก่สาขาอื่นๆในคณะวิศวกรรม
ผมรับบทเป็นพี่สตาฟ ซึ่งในนักศึกษาปี 3 จะเลือกเป็นได้ 2 ตำแหน่ง
“พี่สตาฟ และวีซ่า”
ต่างกันที่ สตาฟจะเหมือนพี่ระเบียบ คอยรัน และคุมกิจกรรมให้เป็นไปตามที่วางแผน แต่วีซ่า จะรับหน้าที่เหมือนคนสอนให้น้องร้องเพลงของมหาวิทยาลัย
จะมีรุ่นน้องปี 2 ที่จะรับบทเป็นพี่สวัสดิการ คอยดูแลน้องปี 1 อย่างรัดกุม ไม่ให้เครียด ร้อน หรือหิวน้ำ
ซึ่งถ้าใครเรียนพระจอม จะรู้จักกิจกรรมนี้เป็นอย่างดีครับ
…
และนอกจากสาขา ก็ยังมีแยกกลุ่มกันเสร็จ โดยการนับ 1-10 หลังจากแยกกลุ่มเสร็จ ก็กลายเป็นว่าผมก็แยกกับเพื่อนที่ชวนผมมาซะงั้น (เอ๊าาา)
กลายเป็นว่าได้มารู้จักเพื่อนใหม่ 4 คนที่อยู่คนละสาขากับผม
…
“งั้นมึงเป็นเฮดกลุ่มเราละกัน”
“อ่าว ไหงงั้นวะ”
“กูว่ามึงเฟี้ยวสุด“
(อ่าว นอกจากกูจะไม่เต็มใจมา… กูยังต้องไม่เต็มใจเป็นเฮดอีกหรอวะเนี่ย)
”โอเค๊“
“กิจกรรมจะออกมาเป็นยังไง กูไม่รู้ด้วยนะ ตามน้ำกูไปละกัน”
เพื่อนของผมทุกคนก็อือออตามผมไปซะอย่างนั้น
ก่อนจะเริ่มกิจกรรมก็มีการประชุมเพื่อวางแผน และการซ้อมกัน เพื่อให้กิจกรรมมันออกมาให้ดีที่สุด
จนกระทั่งถึงวันที่ผมจะต้องเริ่มรันกิจกรรมด้วยตัวเอง…
…
“สวัสดีครับ เขียดผู้มีแกรก”
“เอ้ย !” เพื่อนผมขานรับมุก
“แขกผู้มีเกียรติ“
”เอ้ย !“
”ถูกแล้ว !“
กลายเป็นว่าน้องปี 1 คนที่เกร็งๆนั้น เริ่มหลุดขำ จากบรรยากาศเครียดๆ ผมปรับให้มันซอล์ฟลง ไม่ให้เหมือนปีก่อนๆ แต่ก็ทำให้มันดูจริงจัง เหมือนทีวีโชว์หนึ่งของญี่ปุ่น
”ขำอะไรกันครับ !“
ผมตะเบ็งเสียงออกอีกรอบ เพื่อดึงสถานการณ์เล็กน้อย บรรยากาศก็กลับมาเงียบอีกครั้ง
สิ่งที่ผมทำจะแสดงให้เห็นว่า ผมจะทำให้กิจกรรมนี้มันตลกโปกฮา แค่มีความจริงจังมาบังหน้าเพียงเท่านั้น และผมก็เริ่มกล่าวเปิดกิจกรรม…
“อ่ะ เอาล่ะน้องๆ ไม่ต้องเกร็งนะ เฮฮาได้เลย แค่อยู่ในระเบียบให้ดูดีนิดนึง พอเข้ามาถ่ายรูปจะได้เฟี้ยว ตกลงตามนี้นะ ยังไงขอยินดีต้อนรับ … ลืมสคริปแฮะ ว่าไงต่อนะเพื่อน”
ผมหันไปถามเพื่อนที่ยืนอยู่บริเวณข้างแถว
“ด้นสดเลยเพื่อนนน”
“เอางั้นนะ… อ่ะ เอาก็เอา”
…
แล้วก็กล่าวเปิดกิจกรรมจนเสร็จ ก่อนจะเดินกลับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝั่งวีซ่ามาสอนน้องร้องเพลงต่อ…
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมประชุมเชียร์ของกลุ่มผม เริ่มมาก็เอาฮาแล้ว
ก็ถือว่าเป็นความตั้งใจของผมที่จะทำให้กิจกรรมนี้มันฮา ผ่อนคลาย และให้น้องๆได้ทำลายกำแพงน้ำแข็งของกันและกันได้มากที่สุด
…
กิจกรรมดำเนินมาหลายวัน ผมก็มีมุกฮาๆ สอดแทรกไว้เป็นช่วงๆ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เฮฮากันไป โดยหลังจากจบวัน ผมก็จะมีการเรียกประชุมระหว่างสตาฟ วีซ่า และสวัสดิการ เพื่อรีเฟล็คกิจกรรมอยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นในครั้งต่อไปในทุกครั้ง
นอกจากนั้นยังมีกล่องสำหรับใส่ความในใจจากปี 1 สู่สตาฟและวีซ่า ให้เขียนใส่ระหว่างการพักกิจกรรม แล้วนำมาเปิดอ่านในตอนเริ่มกิจกรรมของแต่ละวัน เพื่อรับรีเฟล็คจากรุ่นน้องมาปรับปรุงกิจกรรมอีกด้วย (ถึงข้อความทั้งหมดน้องมันจะเขียนมาชมเพื่อนผมหล่อ หรือให้ผมหามุกมาเล่นตลกๆเพิ่มก็ตาม)
“ก็สนุกดีนะ”
ผมคิดในใจ
…
จนมาถึงวันสุดท้ายของกิจกรรมระดับกลุ่ม
“สวัสดิการ เชิญ !”
หลังจากที่ผมขึ้นไปพูดเปิดกิจกรรมวันสุดท้าย ผมก็เดินกลับในหลืบ และตะเบ็งเสียงออกมาอีกครั้ง ส่งสัญญาณว่าถึงเวลาพักแล้ว
แต่วันนี้แปลก ในหลืบมีกีตาร์เพื่อนผมวางอยู่ ด้วยความที่ผมเป็นนักดนตรี + นักร้องอยู่แล้ว จึงขอเพื่อนเล่น และเล่นอยู่ด้วยกันระหว่างการพัก
แล้วก็เกิดไอเดียของเพื่อนผมที่ว่า
“ช่วงสุดท้ายของกิจกรรม เล่นดนตรีให้น้องไหม คอนเสิร์ตเล็กๆ เป็นรางวัลให้น้องที่ให้ความร่วมมือกับพี่บ้าๆ 4-5 คนนี้”
(เอาอีกแล้ว หาอะไรให้กูทำอีกแล้ว)
(แต่ก็เออ เอาวะ เพื่อน้องๆ)
”เออ น่าสนใจ เอาก็เอา“
กลายเป็นว่าผมก็อือออกับเพื่อนในกลุ่มของผมซะงั้น ก็ตกลงว่าจะเล่นโฟลคซองซักเพลงให้น้องสนุกกัน
จนมาถึงช่วงสุดท้ายของกิจกรรม
…
”สวัสดิการ พอ !…
แล้วพอ… โปรดเถอะ พอได้แล้ว !“
ถือเป็นการเปิดตัวที่สมาชิกทุกคนต่างงงกันทั้งนั้น เพราะผมไม่ได้เตี๊ยมอะไรกับเพื่อนไว้เลย
ผมก็ไม่รอช้า เดินมาข้างหน้า พร้อมกับกล่าวปิดกิจกรรมวันสุดท้าย ก่อนที่ผมจะส่งสัญญาณให้เพื่อน
เพื่อนอีก 2 คนก็ยกเก้าอี้กับกีตาร์มาให้ผม…
“ไหนๆวันนี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมนี้ พี่อยากเปิดมินิคอนเสิร์ตให้กับน้องทุกคน เพื่อขอบคุณที่ให้ความร่วมมือกับพี่บ้าๆ 5 คนครับ“
”คิดอยู่… ว่าต้องทนไหว ~“
เป็นการเปิด และปิดคอนเสิร์ตครั้งแรกในชีวิตของผม และขอบคุณตัวเองจริงๆที่ไม่ทำมันพัง สุดท้ายก็ถ่ายรูปรวมกัน ก่อนจะปิดกิจกรรมประชุมเชียร์ระดับกลุ่มนี้ ให้จบลงอย่างสวยงาม
”เดินทางกลับบ้านปลอดภัยนะครับน้องๆ“
…
ผมไม่มั่นใจเหมือนกันว่าสิ่งที่ผมทำไป มันออกมาดีแค่ไหน
แต่สิ่งที่ผมมั่นใจคือ ทีมงานทุกคน และน้องปี 1 ที่อยู่ในกลุ่มผม ได้รับความสุข รอยยิ้ม และความทรงจำที่ดี
สังเกตุได้จากปฏิกริยาที่ต่างคนต่างมีให้กัน…
…รอยยิ้มจนแก้มปริ ที่เราต่างส่งให้กัน…
…เสียงหัวเราะฮือฮาที่แสดงออกมาอย่างไม่เคาะเขิน…
…บรรยากาศที่คละคลุ้งไปด้วยความสนุกสนาน เฮฮา และมีความสุข
หวังว่าทุกคนจะจดจำเรื่องราวดีๆในวันนั้น และนำมันออกมาคิดถึงในยามที่ทุกคนเหนื่อยล้าจากการเรียนหรือทำงาน ให้ความทรงจำที่มีผม คอยฮีลใจทุกๆคนมีความสุขได้ ไม่มากก็น้อย…
…
ถือว่ากิจกรรมนี้ ทำให้ผมได้ก้าวขาออกจากเซฟโซนอย่างแท้จริง จากที่ไม่กล้าพูดกล้าจา ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ก็ทำให้ผมได้ลองทำอะไรหลายๆอย่างในการเป็นเฮดของกิจกรรมนี้
…ได้พัฒนาตัวเองออกมาเป็นผู้นำ…
…ได้พัฒนาเรื่องการพูดต่อหน้าคน…
…ได้พัฒนาทักษะการวางแผนและแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า…
หลายครั้งที่ผมย้อนคิดกลับไป แล้วถามตัวเองว่า
”ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไปเป็นเฮดสตาฟในกลุ่มนั้นเหมือนเดิมหรือเปล่า ?“
ผมก็คงตอบได้อย่างเต็มปากและมั่นใจ ว่า…
”ผมจะทำแบบเดิมทุกประการ“
ถ้าวันนั้นผมตัดสินใจไม่รับโอกาสการเป็นสตาฟ โอกาสที่ผมจะได้พัฒนาตัวเองแบบนี้ โอกาสที่สร้างเรื่องราวดีๆแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นและจารึกไว้ในชีวิตผม ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม…
…
โอกาสนั้นลอยร่องอยู่เต็มไปหมดในอากาศ บางโอกาสมาแสดงต่อหน้าเราเสียด้วยซ้ำ อยู่ที่ว่าเราจะหยิบยื่นมือออกไปคว้ามัน หรือเมินมันไป ปล่อยให้มันหายไปต่อหน้าต่อตา…
บางโอกาส… ปรากฎต่อหน้าเราหลายต่อหลายครั้ง…
บางโอกาส… เราอาจจะต้องเสาะหามันเพื่อได้มันมา…
บางโอกาส… ปรากฎต่อหน้าเราได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต…
ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ชีวิตของเราเกิดมาครั้งเดียว…
ถ้ามันผ่านมาแล้วผ่านไปเลย…
อยากให้ถามตัวเองดีๆว่า
”แน่ใจแล้วใช่ไหม… ว่าจะไม่เสียใจถ้าคิดย้อนกลับมา“
”แน่ใจแล้วใช่ไหม… ว่ามันจะกลับมาให้เราคิดได้ใหม่“
”ถามตัวเองอีกครั้ง… ว่ามันจะกลับมาให้เราคว้ามันอีกครั้ง หรือมันจะหายไปตลอดกาล…“
…
จบ.
#ติดเทรนด์ #ชีวิตมหาลัย #ชีวิตนักศึกษา #เรื่องเล่านักศึกษา #เคล็ดลับพัฒนาตัวเอง #นักศึกษามหาลัย #เรื่องเล่า #มหาลัย #มหาวิทยาลัย #พัฒนาตัวเอง