เก็บน้ำหอม.. อย่างไรถึงจะดี?

เก็บรักษาน้ำหอม อย่างไรถึงจะดี🤔?

เพราะน้ำหอมนั้น เป็นสิ่งที่ใช้เพื่อเสริมบุคลิก สร้างความมั่นใจและน่าเชื่อถือ ดังอาภรณ์อย่างดี ที่ไม่สามารถมองเห็น แต่สัมผัสได้ จึงเชื่อว่าเพื่อนๆที่กำลังอ่านข้อความนี้ ไม่ว่าจะวัยเรียน วัยทำงาน หรือวัยเกษียณก็ดี คงจะมีน้ำหอมขวดโปรดติดบ้านกันซักคนละขวด สองขวด หรือบางคนอาจมากกว่านั้นกันใช่ไหมล่ะคะ

อีกทั้ง ปกติเวลาเราใช้น้ำหอม ก็มักจะใช้ในปริมาณที่น้อย ขวดนึงจึงอยู่ได้ค่อนข้างนานทีเดียว และน้ำหอม เป็นสินค้าอุปโภคที่มีราคาค่อนข้างจะสูงเสียด้วย หากเรารู้วิธีการเก็บรักษาที่เหมาะสม และยืดอายุน้ำหอมขวดโปรดของเรา ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น คงจะดีไม่ใช่น้อยใช่ไหมคะ

🌷น้ำหอมกับวันหมดอายุ🌷

เท่าที่สังเกตจากเพื่อนๆรอบตัว ที่ใช้น้ำหอมบ้าง แต่ไม่ได้เก็บสะสม มักจะเข้าใจว่าน้ำหอมนั้นมีวันหมดอายุที่แน่นอน 100%

หากเรามองจากสัญลักษณ์ PAO ที่บ่งบอกการหมดอายุบนกล่อง (ที่เป็นรูปกระปุกครีม แล้วเขียนจำนวนเดือนหลังเปิดใช้นั่นแหละค่ะ) ก็อาจจะบอกได้ว่า น้ำหอมนั้น จะหมดอายุภายใน 12 เดือน 36 เดือน หรืออื่นๆ ตามที่บริษัทได้กำหนดไว้

แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้ำหอมหลังจากระยะเวลาดังกล่าว ก็อาจจะยังหอม และใช้ได้ดีเหมือนเดิม โดยที่คุณภาพสีและกลิ่นไม่เพี้ยนไป หากถูกเก็บรักษาไว้อย่างเหมาะสม ก็คงจะบอกว่าหมดอายุทันทีไม่ได้เสียทีเดียว

ในทางกลับกัน หากไม่ได้เก็บไว้ในที่ๆเหมาะสม ก็อาจทำให้น้ำหอมเสื่อมคุณภาพก่อนจะถึงวันหมดอายุที่บริษัทแจ้งไว้ก็ได้

ดังนั้น สำหรับเราแล้ว น้ำหอมหมดอายุ มักจะพิจารณาจากสีและกลิ่นที่เปลี่ยนไป มากกว่าเลขที่ระบุ บนบรรจุภัณฑ์มากกว่าค่ะ

🌷เก็บดีๆ มีชัยไปกว่าครึ่ง🌷

ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้น้ำหอมของเราเสื่อมคุณภาพอย่างรวดเร็วนั้น จริงๆแล้วมีอยู่ไม่กี่อย่าง นั่นก็คือ แสง อากาศ อุณหภูมิและความชื้นค่ะ

ดังนั้น จึงสามารถสรุปวิธีการเก็บรักษาเพื่อยืดอายุของน้ำหอม ให้อยู่กับเราไปอีกนานเท่านาน ดังนี้ค่ะ

1. หลีกเลี่ยง การทำให้อุณหภูมิของน้ำหอมแปรปรวน

แม้ว่าขวดน้ำหอมยุคใหม่ จะถูกออกแบบให้สามารถควบคุมอุณหภูมิคงที่ได้ดีอยู่แล้ว แต่การที่น้ำหอมของเราอยู่ในอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ก็อาจทำให้น้ำหอมเสื่อมคุณภาพลงได้

เช่นการเก็บน้ำหอมในตู้เย็น หากเอาออกมาฉีดแล้วเก็บเลย อุณหภูมิคงไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่ถ้าหากเปิดปิดตู้เย็นบ่อยๆ หรือเอาน้ำหอมในตู้เย็นพกเดินทางออกไปข้างนอก คงจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีแน่ๆค่ะ

แต่เอาจริงๆ แม้ว่าจะไม่เอาน้ำหอมออกจากตู้เย็นไปไหน ก็ไม่แนะนำให้เอาน้ำหอมใส่ตู้เย็นอยู่ดี เพราะในตู้เย็นค่อนข้างมีความชื้นสูง ซึ่งก็จะส่งผลให้กลิ่นของน้ำหอมเปลี่ยนไปได้ค่ะเช่นกันค่ะ

2. หลีกเลี่ยงแสง จอมวายร้าย ที่ทำให้น้ำหอมจืดจางลง

ขวดน้ำหอมหลายๆแบรนด์นั้นมีดีไซน์ที่สวยงามน่ารัก เหมาะที่จะเอามาตั้งโชว์บนโต๊ะสวยๆ ว่าไหมคะ แต่ตั้งบนโต๊ะเครื่องแป้งไว้ดูสวยๆก็พอเนอะ อย่าถึงกับใส่ตู้โชว์ แล้วส่องไฟเหมือนฟิกเกอร์เลยนะคะ

เพราะน้ำหอมนั้นมีส่วนประกอบทั้งน้ำมันหอมระเหย และแอลกอฮอล์ ที่มีความไวต่อแสงและความร้อน การเอาน้ำหอมใส่ตู้แล้วส่องไฟ คงไม่ดีกับคุณภาพน้ำหอมเท่าไหร่ค่ะ

3. อย่าลืมปิดฝาน้ำหอมให้สนิทอยู่เสมอ

แม้จะเก็บน้ำหอมในที่ที่อุณหภูมิคงที่และไม่โดนแสงแล้ว แต่น้ำหอมของเราก็ยังมีกลิ่นที่เพี้ยนไป

เพื่อนๆอาจจะต้องลองกลับมาเช็คอีกที ว่าขวดน้ำหอมของเรานั้นมีรอยรั่ว หรือปิดฝาไม่สนิทหรือไม่ เพราะอากาศนั้น สามารถแทรกตัวเข้าไปตามฝาจุกสเปรย์ หรือรอยรั่วตามขวด จนทำให้น้ำหอมของเรามีกลิ่นที่เปลี่ยนไปได้ค่ะ

😌โดยส่วนตัวแล้ว เราเก็บน้ำหอมไว้ในกล่องของน้ำหอมเองที่ซื้อมา จากนั้นจึงนำกล่องใส่ในลังสีทึบ และใส่ในตู้เสื้อผ้าอีกทีค่ะ

เรียกว่า ป้องกันน้องๆกันอย่างสุดฤทธิ์เลยทีเดียว

หวังว่าบทความนี้ คงจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ เพื่อนๆล่ะคะ มีวิธีดูแลน้ำหอมกันอย่างไรบ้าง อย่าลืมแวะมาแชร์กันได้นะคะ

#น้ำหอม #Lemon8ฮาวทู #ตัวหอม