Tải Video Lemon8

Cách dễ nhất để tải video Lemon8 và tải ảnh từ ứng dụng Lemon8

10 วิธีมีเงินเพิ่มในกระเป๋าตังค์ ภายใน 30 วัน ฉบับมนุษย์เงินเดือน

10 วิธีมีเงินเพิ่มในกระเป๋าตังค์ ภายใน 30 วัน ฉบับมนุษย์เงินเดือน

Máy tính: Nhấp chuột phải và chọn "Save link as..." để tải xuống.

PHOTOS
10 วิธีมีเงินเพิ่มในกระเป๋าตังค์ ภายใน 30 วัน ฉบับมนุษย์เงินเดือน JPEG Tải xuống
10 วิธีมีเงินเพิ่มในกระเป๋าตังค์ ภายใน 30 วัน ฉบับมนุษย์เงินเดือน JPEG Tải xuống
10 วิธีมีเงินเพิ่มในกระเป๋าตังค์ ภายใน 30 วัน ฉบับมนุษย์เงินเดือน JPEG Tải xuống

ทำงานหนัก งานเยอะ จุกจิก วุ่นวาย แต่รายได้สวนทาง ถึงขนาดที่บางคนอุทานว่า “นี่เงินเดือนหรือเงินทอน” สิ่งเหล่านี้สะท้อนความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์เงินเดือนได้อย่างดี สถิติของมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ อยู่ในภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง บางคนเดือนชนเดือนก็ดีไป แต่ส่วนใหญ่ไม่ถึงครึ่งเดือนก็แทบจะไม่มีกินกันแล้ว

1. เพิ่มเงินด้วยสูตร 30-45-25

สูตรจัดการเงินเดือนสำหรับคนบริหารเงินไม่เก่ง สำคัญคือเราต้องมีวินัยพอสมควรถ้าจะเลือกวิธีนี้ โดย 30 % คือเงินออม 45% คือรายจ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือน และ 25% คือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้ามีเงินเดือนเข้าบัญชี 15,000 บาท จะเป็นเงินออม 3,000 บาท รายจ่ายทุกเดือน 4,500 บาท ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 2,500 บาท แต่ต้องมีคนแย้งแน่ๆ ว่า รายจ่ายต่อเดือนแค่ 4,500 จะไปพอได้ไง แล้วเดือนนึงจะให้กินแค่ 2,500 เองนี่นะ เข้าใจว่าทฤษฏีกับปฏิบัติมักจะสวนทางกัน คนส่วนใหญ่จึงทำแบบนี้ไม่ได้ด้วยปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง แต่วิธีนี้ก็เป็นไกด์ไลน์แบบหนึ่งให้มนุษย์เงินเดือนได้ลองไปใช้ เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้เงินตัวเอง จะช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าได้ แต่อาจต้องใช้เวลาพอตัวเหมือนกัน

2. ออมเงินตามวันที่

การออมเงินตามวันที่ใช้ได้ทั้งแบบ 365 วันและแบบ 30 วัน วิธีการก็คือเก็บเงินตามวันที่ เช่น วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท วันที่ 3 เก็บ 3 บาท ไปเรื่อย ๆ ใน 1 เดือนเราจะมีเงินจากวิธีนี้ เพิ่มขึ้น 465 บาท ดูเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เยอะแยะอะไรเลย แถมบางคนยังบอกอีกว่าวุ่นวาย ถ้างั้นก็เอาเงิน 400-500 มาเก็บไว้เลยไม่ดีกว่าเหรอ แต่อย่าลืมว่าวิธีนี้คือการฝึกวินัยการออม ถ้าคุณบอกว่าเก็บเงินมาเลยเดือนละ 400-500 อันนี้ก็ได้เหมือนกัน แต่คำว่าเงินออมคือเงินที่เราจะไม่เอามาใช้จนกว่าจะจำเป็นจริงๆ จะใช้วิธีไหนก็ได้ถ้าคุณออมได้ ก็ถือเป็นเรื่องดีทั้งนั้น

3. แบ่งเงินใช้ตามวัน

วิธีการที่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่นตั้งเป้าจะใช้เงินไม่เกินวันละ 150 บาท ก็แยกเงินออกมาไว้เลย หรือแบ่งเงิน 150 บาท ออกเป็น 30 ถุง สำหรับใช้ 1 เดือน แล้วใช้แค่เท่าที่มี (อาจมีเงินสำรองติดตัวไว้หน่อยเผื่อเหตุฉุกเฉิน) ถ้าวันไหนเงินเหลือ ก็เอามาหยอดกระปุกเก็บออมเพิ่มได้อีก

4. ซื้อของฟุ่มเฟือยแค่ไหน ก็หยอดกระปุกแค่นั้น

บางทีห้ามไม่ได้ก็ต้องหาวิธีผสมผสานกันไปซะเลย บางคนเลิกไม่ได้กับการช็อปปิ้งซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นต่างๆ ถ้าห้ามไม่ได้ก็เข้าร่วมไปเลย แต่ทุกครั้งที่ซื้อของฟุ่มเฟือยไปก็ต้องมาหยอดกระปุกไปตามราคาของด้วย เช่น ซื้อเสื้อผ้ามา 500 ก็ต้องหักใจเอาเงินอีก 500 ไปหยอดกระปุกด้วย แต่เชื่อว่าในกระบวนการออมเงินเพิ่มรายได้ให้ตัวเอง วิธีแบบนี้ยากที่สุดคงไม่มีใครทำได้ แต่ก็ถือเป็นอีกวิธีที่ใครทำตามรับรองว่าได้ผลมีเงินเป็นก้อนในอนาคตแน่

5. เปิดบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษีแบบ 24 เดือนหรือ 36 เดือน

วิธีนี้อาจไม่เพิ่มรายได้ภายใน 30 วัน แต่วิธีนี้ให้ผลตอบแทนดีโดยอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.25-3% ต่อปี เป็นการบังคับให้เราต้องนำเงินไปฝากธนาคารทุกเดือน เดือนละเท่า ๆ กัน ตั้งแต่ 1,000-25,000 บาท ยิ่งฝากเยอะ ยิ่งฝากนาน ก็ยิ่งได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

6. ซื้อกองทุนรวมที่ไม่เสี่ยง

คนที่ไม่อยากฝากเงินไว้ในธนาคารเพราะดอกเบี้ยต่ำ อาจเลือกวิธีออมด้วยการซื้อกองทุนรวม ซึ่งได้ผลตอบแทนประมาณ 1% กว่า ๆ หรือจะเลือกกองทุนตราสารหนี้ที่ความเสี่ยงต่ำก็น่าสนใจ ให้ผลตอบแทนราว ๆ 1-3% เงินต้นก็ไม่หาย แต่ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยไม่เกิน 0.5% ด้วย

7.ลงทุนในแฟรนไชส์ราคาเบาๆ

การลงทุนมีความเสี่ยงเรื่องนี้ทุกคนเข้าใจ แต่ปัจจุบันการลงทุนกับแฟรนไชส์เป็นวิธีที่น่าสนใจมากที่สุดมีหลายแฟรนไชส์ที่ให้เลือกลงทุนในแพคเกจสบายๆ ราคาไม่แรงเกินไป เริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 ไปถึงหลัก 10,000 ต้นๆ สำคัญคือแฟรนไชส์เหล่านี้มีอุปกรณ์พร้อมวัตถุดิบให้เราพร้อมเปิดร้านได้ทันที แต่คนลงทุนก็ต้องมีทำเลการลงทุนที่ดี และต้องขยัน ตั้งใจทำจริงๆ อาจทำให้มีเวลาพักผ่อนน้อยลง แต่ถ้าเห็นเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น ก็คุ้มค่าที่จะเหนื่อย

8. ออมเงินเท่าค่ากาแฟ

ไม่ปฏิเสธว่ารายจ่ายของมนุษย์เงินเดือนส่วนหนึ่งหมดไปกับค่ากาแฟ ยิ่งแบรนด์ใหญ่ ราคายิ่งแพง แต่บางคนก็เลิกดื่มไม่ได้ และต้องซื้อทุกวัน แถมบางวันกินวันละ 2-3 แก้วอีกด้วย การออมเงินเท่าค่ากาแฟลองคิดดูเล่นๆ ถ้าเราซื้อกาแฟแก้วละ 60 บาททุกวัน ใน 1 สัปดาห์ (5วันที่ทำงาน) มีรายจ่ายส่วนนี้ 300 บาท ใน 1 เดือนทำงานประมาณ 20 วัน (จันทร์-ศุกร์) รายจ่ายค่ากาแฟประมาณ 1,200 บาท ถ้าเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มกาแฟไม่ได้ก็ลองเก็บเงินจากวิธีนี้ดูแล้วจะรู้ว่าได้ผลจริงๆ

9. เก็บแต่เงินเหรียญเท่านั้น

อย่าดูถูกพลังของเงินเหรียญเด็ดขาด เหรียญ 1 บาท 2 บาท 5 บาท 10 บาท ลองเก็บให้ได้รวมๆได้จำนวนมากเมื่อไหร่ได้นับกันจนเมื่อยนิ้วแน่ ถามว่าจะเก็บยังไงวิธีไม่ยาก แต่เอาเงินที่ได้จากการใช้ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเงินทอนจากค่ารถ ค่าข้าว ซื้อของร้านสะดวกซื้อ ส่วนใหญ่มีทั้งแบงค์และเหรียญรวมกันมา แยกไปเลยเอาแบงค์ไปใช้ แต่เหรียญทุกบาททุกสตางค์ เก็บเอาไว้ห้ามใช้ วิธีนี้ไม่เห็นผลทันทีแต่จะเห็นผลในระยะยาวที่สำคัญไม่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดเรื่องการใช้เงินในแต่ละวันด้วย

10. ลงทุนขายของออนไลน์

วิธีการออมเงินต่างๆ อาจจะไม่สร้างรายได้ในทันที ใครที่อยากมีรายได้เพิ่มขึ้นชัดเจน ลองเลือกขายของออนไลน์ดูน่าจะเข้ากับยุคสมัยนี้มากที่สุด แต่ก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าสมัยนี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มีเกลื่อนเมือง สินค้าในอินเทอร์เนตมีให้เลือกมากมาย การที่เราจะขายสินค้าอะไรก็ต้องรู้จักวิธีทำตลาด ให้ลูกค้ารู้จักตัวตนของเรา รู้จักร้านค้าของเราในโลกออนไลน์ ซึ่งก็มีวิธีการโปรโมทและกลยุทธ์การตลาดมากมาย ถ้าเบื่อการออมก็ลองเลือกลงทุนแบบนี้ได้

💰💰💰ทริคแยกงบไว้สำหรับจัดแจงระบบการเงินเอาไว้ใช้กับเอาไว้ออม หรือ ลงทุน เฟิสใช้ make by kbank เข้ามาช่วยบริหารจัดแยกบัญชีเงินเอาไว้สำหรับเอาไว้ใช้จ่าย ออม หรือ ลงทุนโดยเฉพาะ เพื่อให้แยกเงินในบัญชีของเฟิสได้อย่างเป็นระเบียบ ถ้าไม่แยกบัญชีไว้ต้องเผลอใช้เงินไปกับส่วนอื่นๆจนไม่มีเงินมาออมใครที่อยากเที่ยวแบบเฟิสแนะนำให้แยกงบไว้ออมและเลือกแอพ make by kbank เข้ามาช่วยจัดการระบบการเงินได้อย่างเป็นระเบียบโหลดแอพ make by kbank มาใช้กันนะคะ 💖👍🏻

#MAKEyourlifebetter