พกกล้องฟิล์มตัวจิ๋ว..ไปลุยอากาศหนาว-9 Hokkaido

วันนี้ โป้งชวนไป… ขอเอาภาพการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก การได้เจอกับหิมะครั้งแรก การสัมผันอากาศ -9 ครั้งแรกมาฝากกัน

Hokkaido Trip (2-7 Jan) 🤘🏻 ต้องบอกก่อนเลยว่า การไปเที่ยวครั้งนี้ เป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกของเรา เราค่อนข้างหาข้อมูลไว้เยอะ ธรรมชาติของเกาะฮอกไกโดเนี่ย แต่ละเมืองมันอยู่ค่อนข้างไกลกัน การเดินทางที่ประหยัดเวลามากที่สุดจะเป็นเครื่องบิน รองลงมาคือรถไฟ JR (ขอตัดเรื่องเช่ารถขับเองออก) สองวิธีนี้สำหรับเรา เรามองว่าต้องมีงบค่อนข้างสูงเลยทีเดียว (ซึ่งเราไม่มีมากขนาดนั้น) เราจึงหาวิธีการเดินทางที่ถูกลงมาอีก และเราก็เจอ "รถบัสข้ามเมือง" ตลอดทริปนี้สำหรับการเดินทางไปยังเมืองต่างๆที่ค่อนข้างไกลกันนั้นเราจะนั่งรถบัสเป็นหลัก ต้องยอมรับเลยนะว่าประหยัดค่าเดินทางได้เกินครึ่งจากราคารถไฟและเครื่องบิน และก็ต้องยอมรับอีกว่าใช้เวลามากกว่ารถไฟและเครื่องบินเพิ่มไปเป็นชั่วโมง (แต่จะทำไงได้ทางเลือกเรามีแค่นี้เมื่อเทียบกับงบ) มันจึงเกิดเป็นแพลนที่ดูเหมือนว่าเราจะไปได้ไม่กี่เมืองออกมาดังนี้...

Day 1 Asahikawa

Day 2 Asahikawa Zoo , Biei

Day 3 Sapporo, Otaru

Day 4 Noboribetsu

Day 5 Sapporo

Day 6 BKK

แต่เชื่อเถอะว่า แต่ละเมืองที่เราไป เราเก็บเกี่ยวอะไรมาเยอะมาก เราเดินรอบเมืองเยอะมาก เราได้เจออะไรที่มันแปลกหูแปลกตา ได้เรียนรู้คำว่าประเทศที่เจริญแล้วมันเป็นยังไง สำหรับเราเราถือว่าคุ้มมาก (แต่ไม่อิ่ม) แต่ปีนี้คงไม่มีแพลนไปไหนแล้ว ขอเก็บเงินยาวๆ แล้วจะไปทริปฮอกไกโดอีกครั้ง ครั้งหน้ารับรองจุกๆ

- ซื้อตั๋วตอนช่วงไม่มีโปรใดใด ได้ราคามาประมาณ 13,000 ไป-กลับ (ไม่รวมกระเป๋า) บนตรง ดอนเมือง-ซัปโปโร

- ตลอดการท่องเที่ยวเราใช้บัตร Youtrip ของ K-Bank สำหรับเราสะดวกทุกอย่าง กดเงิน รูด แลกเงิน ไม่เจอข้อเสียอะไรเลย

—————————

day 1

เราบินจากดอนเมืองประมาณตี 4 และถึงซัปโปโรประมาณเที่ยง จังหวะที่ออกจากเครื่องบินตื่นเต้นมาก อย่างที่บอกว่าเป็นครั้งแรกที่เราเที่ยวต่างประเทศ ขั้นตอนตอนลงจากเครื่องบิน เราจะต้องผ่าน ตม. ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ ญี่ปุ่นนั้นรวดเร็วมากไม่ถึง 10 นาทีเราก็ออกมารับกระเป๋าและเตรียมตัวเดินทางต่อได้เลย แพลนต่อไปคือเราจะต้องนั่ง JR เข้าไปที่ซัปโปโรก่อน และจะต่อรถบัสไปยัง Asahikawa การเดินทางจาก Sapporo มายัง Asahikawa นั้น ค่อนข้างยาวนาน เรามาถึงก็มืดแล้ว แต่เวลาประมาณ 4 โมงเองเด้อ แพลนของวันนี้แค่เข้าที่พักและหาข้าวกิน เดินเล่นรอบเมือง Asahikawa เป็นเมืองที่ใหญ่รองลงมาจาก Sapporo แต่เมืองค่อนข้างสงบ ถ้าเทียบกับ Sapporo เราชอบที่นี่มากกว่า ตอนเราไปอากาศแรกที่เราได้สัมผัสคือ -5 และแน่นอนว่าเราเดินเล่นรอบเมืองด้วยอากาศนั้นและหิมะที่ตกไม่ขาดสาย บอกได้คำเดียวว่า ฟินนนนน อากาศของที่นี้จะสดชื่นกว่า Sapporo มาก ถ้ามีโอกาสขอแนะนำเมืองนี้เลย

โรงแรมที่เราพักชื่อ Court Hotel โรงแรมอยู่ใกล้สถานี JR มาก ใกล้ห้าง Aeon Mall เราอยู่ที่นี่ 2 คืน หมดไปประมาณ 1,400 บาทสำหรับค่าโรงแรม

—————————

day 2

วันนี้แพลนคือช่วงเช้าเราจะไป Asahikawa Zoo เพื่อจะไปดูเจ้ากวิ้นสีน้ำตาลสุดซ่า วันนี้ตื่นเช้าเพื่อให้ทันรถบัสรอบแรก 9.40 เพื่อให้ทัน ดูเพนกวิ้นเดินขบวนในเวลา 11.00 มาต่อกันที่ช่วงบ่าย เราแพลนจะไปเมืองบิเอะ อยากไป โดยการนั่ง JR (ไม่แพง เพราะนั่งไม่นาน) ข้างทางมีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจเยอะมาก พอมาถึงบิเอะ ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว เดินเล่นได้ไม่นานก็มืดแบบสนิท ต้องบอกเลยว่าเมืองนี้เงียบมาก เงียบมากๆๆๆๆๆ เดินรอบเมืองเจอคนไม่กี่คน (แอบกลัว) และเป็นเมืองที่ทำให้เราได้เจอกับอากาศ -9 จ้า เมืองนี้แหละพีคสุดของทริปนี้ของเรา สำหรับบิเอะ ส่วนมากคนจะมาเพื่อต่อรถไปดูบลูพอน และน้ำตก (ซึ่งเราไม่ได้ไป เสียดาย แต่ทริปหน้าจะไปให้ได้) เรากลับชอบเมืองนี้เหมือนกันนะ มันเงียบ มันไม่วุ่นวาย ให้อารมณ์หมู่บ้านคนรวย แน่นอนว่ารอบหน้าเราจะกลับไปเมืองนี้อีก

————————

day 3

เราเดินทางจาก Asahikawa เข้ามายัง Sapporo และโรงแรมที่เราพักในวันที่เหลือก็คือ Relief Hotel ย่าน Susukino จุดเด่นของโรงแรมนี้คือ มี Osen ขนาดย่อมเยาว์ให้ใช้ฟรี วันนี้หลังจากเอากระเป๋ามาฝากไว้ที่โรงแรมแล้วเราก็จะเดินทางไป Otaru กัน เดินทางมายัง Otaru นั้นเรานั่ง JR และมาลงสถานีก่อนถึง Otaru 1 สถานี เพราะแพลนไว้ว่าจะไปดูกล่องดนตรีก่อนและคิดว่าเดินจากสถานีนี้จะใกล้กว่า และมันก็ใกล้กว่าจริงๆ เราเดินไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง หลังจากเที่ยวทั้งวันนั้นเราก็กลับมาพักที่โรงแรมย่าน Susukino ย่านนี้จะครึกครื่น อารมณ์แบบเยาวราชบ้านเรา ระหว่างเดินกลับโรงแรมหิวราเม็ง เจอร้านหนึ่งคนต่อคิวเยอะมาก เราเลยไม่กิน เดินต่อไปอีกนิดเจอร้านที่ไม่มีคนเข้าเลย เลยลองเข้าดู โอ้โหว อร่อยมากกกกก จำชื่อร้านไม่ได้ แต่อยู่ตรงข้ามร้านขาปูที่มีภาษาไทยเขียนว่า ยินดีต้อนรับ ระแวกๆนั้นแหละ

———————

day 4

เช้าวันรุ่งขึ้น เราแพลนจะไป ขุบเขานรกกัน ซึ่งเราก็ไปนั่งรถบัสอีกเช่นเคย Noboribetsu เป็นอีกเมืองที่เงียบพอๆกับ Biei ขนาดเป็นตอนกลางวัน เราลงรถบัสป้าย Noboribetsu และเดือนย้อนมายังสถานี JR เพื่อต่อรถบัสไป Osen จ้า จุดหมายแรกเมื่อมาถึง ย่าน Onsen เราจะไปดูหมีสีน้ำตาลกัน อันนี้สำหรับเราเราว่าแอบแพงไปหน่อยค่าเข้า เมื่อเทียบกับ exp. ที่ได้รับกลับมา หลังจากดูหมีเสร็จ เรารีบไปยังจุดหมายต่อไปของเรานั้นก็คือ หุบเขานรก

———————

day 5

วันนี้เป็นวันที่ตั้งใจจะเที่ยวใน Sapporo ทั้งวัน เพราะอยากใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์บ้าง อยากได้ฟิลว่ามาพักผ่อนจริงๆ สัก 1 วัน ไม่ต้องแพลนไรมากมาย คิดออก เดินไปเจอก็แวะ

-กินข้าวร้านอาหารไทย

-ศาลเจ้าพ่อฮอกไกโด

-ตลาดของสด

-เดินเล่น Odori เดินกลับ Susukino

-เดินช้อปปิ้งของฝาก

-กินบุฟเฟ่อีกสักมื้อ

———————

day 6

และวันสุดท้ายของทริปก็มาถึง ต้องกลับไทยไปทำงานต่อแล้วจ้า เงินหมดเกลี้ยง ปีหน้าเจอกันใหม่นะ ฮอกไกโด รอบหน้าเราจะตามเก็บอีกหลายๆเมืองที่ยังไม่ได้ไป แล้วเจอกันใหม่

#ตะลุยกินเที่ยว #รวมแพลนเที่ยว #ฮอกไกโด #เที่ยวญี่ปุ่น