การคลอดลูก ที่อยากกลับไปแก้ไขที่สุด

เราตั้งใจจะคลอดธรรมชาติตั้งแต่ฝากครรภ์ค่ะ เพราะคิดว่าเจ็บไม่นานเท่าผ่าคลอด ฟื้นตัวเร็วกว่า น้ำนมมาตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย และข้อดีเกี่ยวกับลูกอีกหลายๆข้อ และที่สำคัญคือราคาถูกกว่าผ่าคลอด(เราเลือกคลอดรพ.เอกชน)

ในตอนกลางดึกตอนเราท้องได้ 39วีคกว่าๆ เราก็รู้สึกปวดท้องค่ะ🎉 ความปวดค่อยๆมากขึ้นเรื่อยๆ ปวดถี่ขึ้นเยอะขึ้น จากครึ่งชม.ครั้ง เป็น15นาทีครั้ง เป็น10นาทีครั้ง ก็เลยปลุกแฟน คิดว่าจะคลอดแน่ๆ ก็เลยพากันขับรถไปรพ.ตอนตี4กว่า ไปถึงก็ได้เข้าฉุกเฉินค่ะ ก็จะมีพยาบาลมาซักประวัติวัดความดันแล้วก็เข็นเราไปห้องเตรียมคลอด แล้วก็จะมีพยาบาลจากห้องคลอดมาซักประวัติวัดความดันเราอีกรอบ

และตอนนี้แหละค่ะ เป็นจุดเปลี่ยนที่เราอยากย้อนกลับไปแก้ไขสุดๆ นั่นก็คือพี่พยาบาลถามเราว่าถ้าประเมินความปวดจาก1-10ตอนนี้เราปวดอยู่ที่เท่าไหร่ ด้วยความที่เราไม่เคยปวดท้องคลอด ครั้งนี้เป็นท้องแรก แล้วการปวดท้องที่เยอะที่สุดในชีวิตเราก็คือปวดประจำเดือน ไม่เคยปวดที่หนักกว่านั้น ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่ามันก็ปวดเหมือนตอนเป็นประจำเดือนนั่นแหละ ปวดๆหายๆ ตอนปวดก็ปวดมาก แต่พอหายปวดก็ดีขึ้นแล้วก็กลับมาปวดใหม่ ซึ่งเราทนได้ แต่ด้วยความที่เราประเมินตัวเองไม่ถูก+ความตื่นเต้นว่าฉันกำลังจะคลอด เลยตอบไปว่าระดับ7ค่ะ พี่พยาบาลก็ทำท่าตกใจว่าห๊าา!! 7แล้วหรอคะ??? เราก็งงๆ (ก็ไม่รู้ว่ามันต้องเท่าไหร่ง่ะ)🤣 พี่พยาบาลก็เลยจัดการโกนขนแล้วก็สวนถ่ายให้เรา แล้วก็เช็คดูว่าช่องคลอดเปิดเท่าไหร่ ปรากฏว่าช่องคลอดเปิดแค่1CM. แต่คุณแม่ปวดท้องระดับ7แล้ว พยาบาลเลยให้ยาเร่งคลอดเรา เพื่อให้ปากมดลูกเปิด

เท่านั้นแหละค่ะ ความบันเทิงทรมานมันอยู่หลังจากนี้ หลังจากที่เราโดนยาเร่งคลอดเข้าไป คือรู้เลยค่ะว่ามันมีความปวดที่มากกว่าที่เราเคยปวดมาทั้งชีวิตร้อยเท่าพันเท่า ที่ปวดก่อนหน้านี้คือจิ๊บจ๊อยไปเลยจ้าา ไอ้ที่บอกพี่พยาบาลไปว่าปวดระดับ7 ตอนนี้อยากย้อนเวลากลับไปมาก🤣 และปากช่องคลอดก็ไม่เปิดเพิ่มเลย เราโดนยาเร่งตั้งแต่6โมงเช้า จนถึงเที่ยงปากมดลูกเปิดเพิ่มแค่1CM.รวมเป็น2CM. ตอนนั้นเราเริ่มรู้สึกหมดแรงแล้วค่ะ แต่ก็ทนตั้งแต่หกโมงเช้าจนถึงบ่ายกว่าๆ คิดว่ายังไงฉันก็จะคลอดเอง ในระหว่างที่นอนรอปากมดลูกเปิดจะมีพี่พยาบาลอีกคนที่เข้ามาดูแล ก็จะคอยเชียร์ให้ผ่าคลอดอยู่เรื่อยๆ มาบอกข้อดีของการผ่าคลอดว่าไม่เจ็บ ไม่ต้องทนปวดท้องน้า ไม่ต้องรอปากมดลูกเปิด ตอนแรกเราก็ยังยืนยันสุดใจขาดดิ้นว่าจะรอคลอดเอง แต่พอระยะเวลาปวดนานขึ้นปวดมากขึ้นปวดถี่ขึ้นมากๆแบบ2นาทีปวด ทำให้เราเพลียมากๆ แล้วพยาบาลก็เข้ามาเช็คปากมดลูกเรื่อยๆซึ่งมันเจ็บมาก พยาบาลบอกเราว่าถ้ารอคลอดเองอาจจะต้องรอถึงวันพรุ่งนี้เลยนะคะ เพราะปากมดลูกไม่เปิดเลย พอเราได้ยินคำว่าพรุ่งนี้!!! เท่ากับฉันต้องนอนทรมานแบบนี้ไปจนถึงพรุ่งนี้เลยหรอ??!! อีแม่ก็ความอดทนสูงซะด้วย เลยตอบพยาบาลไปว่า"ไม่ไหว"คำเดียวเลยค่ะ 🤣 ผ่าก็ได้ค่ะ ให้รอถึงพรุ่งนี้อีแม่ตุยเย่ก่อนแน่ๆ🥲

เรื่องราวหลังจากนั้นก็คือโดนจับผ่าคลอดตามระเบียบ และหลังคลอดก็เจ็บปวดรวดร้าวกับแผลผ่าตามที่คิดไว้ไม่มีผิด🤣 แต่เจ็บยังไงก็ต้องพยายามลุกเดินเพราะกลัวเป็นพังผืดค่ะ แถมอยู่ๆเราก็มีไข้และมีอาการไอทำให้เวลาไอมันไปสะเทือนที่แผลผ่า ทำให้เจ็บมากๆ ต้องกลั้นไอสุดชีวิต

และสิ่งที่มารู้ทีหลังอีกอย่างก็คือ ถ้าลูกคนแรกผ่าคลอดแล้วคนต่อไปก็ไม่สามารถคลอดเองได้แล้ว เพราะเสี่ยงมดลูกแตก เราก็ช็อคอีก ระรอกที่2เพราะเราตั้งใจจะมีลูกคนที่สองอยู่แล้ว ทีนี้อีแม่ก็เศร้าไปเลยค่ะ😭 เรื่องลูกคนที่สองอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะบอกตามตรงว่าแอบเข็ดกับการผ่าค่ะ😅

จริงๆเราคิดว่าถ้าตอนนั้นไม่ประเมินให้พยาบาลไปว่าปวดระดับ7แล้ว เราก็คงไม่ต้องโดนยาเร่งคลอด(ที่ทำให้ปวดทรมานจนทนไม่ไหว) ถ้าเป็นการปวดไต่ระดับตามธรรมชาติ มันอาจจะไปปวดเยอะตอนปากมดลูกเปิดเต็มที่พร้อมคลอดแล้วเราอาจจะทนได้ก็ได้ค่ะ และการต้องเลี้ยงลูกอ่อนพร้อมกับอาการเจ็บแผลผ่าคือเรื่องใหญ่มากๆ ลุกนั่งบ่อยๆก็เสี่ยงแผลเย็บฉีก นอนเยอะไป ขยับตัวน้อยไปก็เสี่ยงพังผืดอีก แผลโดนน้ำไม่ได้ แถมลูกก็ต้องเลี้ยง ใช้ชีวิตลำบากอยู่เกือบสามอาทิตย์ค่ะ😭 บอกเลยว่าถ้าไม่มีคนช่วยเลี้ยงลูกอีแม่แย่แน่ๆ 🥺🥺

ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่ได้โทษพี่พยาบาลนะคะ เป็นความผิดพลาดของเราเองที่ประเมินตัวเองไม่ถูก ทำให้ต้องเลือกผ่าคลอดในท้ายที่สุด แต่พอวินาทีที่ตื่นมาเห็นหน้าลูกแข็งแรงและปลอดภัยก็ดีใจจนลืมทุกอย่างไปเลยค่ะ

และการผ่าคลอดก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่แย่นะคะ เพียงแต่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกว่าจะคลอดเอง จริงๆการผ่าคลอดก็มีข้อดีเช่นกัน

ประสบการณ์ผ่าคลอดของแม่ๆท่านอื่นเป็นยังไงกันบ้างคะ ได้คลอดตามแบบที่วางแผนกันไว้ไหม ยังไงมาแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ ❤️❤️

#คลอดบุตร #คลอดธรรมชาติ #ผ่าคลอด #คลอดลูก #แม่และเด็ก #แม่มือใหม่ #ท้องแรก #ลูกคนแรก #ประสบการณ์คลอดลูก