แชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์งานแย่ๆ ver.เด็กจบใหม่ ☹️

อันยองฮาเซโย สวัสดีค่าทุกคนนน 🙇‍♀️ ~ วันนี้เราจะมาแชร์ปสก.การสัมภาษณ์งานฉบับเด็กจบใหม่ค่ะ โดยเป็นปสก.ส่วนตัวของเราเองนะคะ ขอเกริ่นก่อนว่าตัวเราได้มีโอกาสเป็น first jobber ทั้งหมด 2 ครั้งค่ะ (อย่าเพิ่งงงนะคะ 🤣) ครั้งแรกคือตอนเราเรียนจบป.ตรีค่ะ และครั้งที่2 ล่าสุดเลย คือเราเพิ่งเรียนจบป.โทค่ะ ก็คือว่าเจอสัมภาษณ์งานแย่ๆเลยกลับมาเรียนซะเลยค่ะ แบคกราวน์คือเราจบวิศวะทั้ง2ใบนะคะ

ครั้งที่ 1 : เกิดขึ้นตอนเราเพิ่งเรียนจบป.ตรีค่ะ เราก็หว่านใบสมัครไปตาม website หางานต่างๆ ซึ่งตอนนั้นเรากำลังจะออกจากที่แรก(หลังจากทำได้1เดือน) ก็มีบริษัทนี้โทรมานัดสัมภาษณ์ เราตอบตกลงไป บ.นี้เป็นบ.กลางๆค่ะ ไม่ใช่ home office ตอนนั้นมีคนมาสัมภาษณ์เราคนเดียวค่ะ มาถึงเค้าก็ถามนู้นนี่นั่น จนเริ่มเข้าบรรยากาศไม่พึงประสงค์ เค้าก็ถามจำลองสถานการณ์ต่างๆ เราก็ตอบไปเท่าที่ทราบ เราโดนตอบกลับมาว่า อะไรๆก็ใช้โปรแกรมนี้หรอ (โดนไป1) เรารู้สึกว่าสิ่งต่างๆที่เค้าถามมันเกินความสามารถที่เราเขียนลงไปในเรซูเม่ เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเค้าจะเรียกเรามาทำไม ในเมื่อสิ่งที่เค้าต้องการ เราไม่ได้เขียนลงในเรซูเม่เลย หลังจากนั้นเค้าก็เริ่มแสดงทัศนคติแย่ๆค่ะ เค้าก็พูดว่า "ดูบางคนสิ จบวิศวะมาขายก๋วยเตี๋ยว แล้วจะเรียนมาทำไม" แล้วเค้าก็บูลลี่เราประมาณว่าอะไรๆก็ไม่ได้ เค้าบอกเราว่า "ความสามารถคุณเหมือนคนเงินเดือน15000เลยเนอะ555" ใช่ค่ะ เค้าขำด้วย แล้วเค้าก็บอกเราว่า "ไม่ต้องรอนะ หาที่อื่นได้ก็ไปเลย" ตอนนั้นเราเดินออกมาน้ำตาแทบจะไหล เราไม่เคยรู้สึกโง่เท่าวันนั้นเลย เราเฟลมาก เหมือนคนล่องลอย เฟลๆซึมๆอยู่เกือบวีคเลยค่ะ ตอนนั้นเรายังไม่กล้าสู้ เรารู้สึกว่าเหมือนเราไปนั่งให้เค้าดูถูกเลย ทั้งๆที่เราไม่ได้ผิดอะไร แต่ถ้าเป็นตอนนี้เราจะขอยุติการสัมภาษณ์แล้วเดินออกมาเลย จริงอยู่ที่เราอยากได้งาน แต่ถ้าเค้าด้อยค่าเราเกินไปก็ไม่มีความจำเป็นต้องอดทนค่ะ คำพูดเค้าทุกคำยังremindอยู่ในหัวเราตลอดเวลา แล้วนั่นเป็นสาเหตุที่เราตัดสินใจเรียนต่อป.โทแบบไม่ลังเลเลยค่ะ

ครั้งที่ 2 : ล่าสุดสดๆร้อนๆเลยค่ะ เป็นเหตุผลของการอยากทำคอนเท้นนี่เลยก็ว่าได้555 ตามฟอร์มเดิมค่ะ ตอนใกล้จบโทก็ไปฝากประวัติในเว็บ จนมีที่นึงติดต่อมา เราก็ตอบรับไปตามปกติ บ.นี้เป็น home office ค่ะ ตอนไปสัมภาษณ์ เค้าก็มีข้อสอบให้เราทำก่อน 1 ชม. จากนั้นก็เข้าสู่โหมดสัมภาษณ์ค่ะ มีทั้งหมด 3 คน เป็นเจ้าของและก็พนง.อีก2คนค่ะ เริ่มจากเค้าก็บอกว่าเราทำข้อสอบได้น้อยเกินไป บางอย่างมันเบสิคน่าจะทำได้ แล้วเค้าก็เริ่มเปิดใบสมัคร พนง.1ก็ทักเลยค่ะ "จบเกรดน้อยจัง" เจ้าของเลยต่อขึ้นมา "จบเกรดไม่ถึง3 เค้ารับเข้าเรียนโทด้วยหรอ" พนง.2ต่อเลยค่ะ "น้องต้องไปทดลองเรียนก่อนปีนึงป่ะ" ทั้งนี้เราเลยตอบไปตามความจริงว่าเราสอบเข้าเรียนตามปกติและไม่มีทดลองเรียนแต่อย่างใด อันนี้คือพีค1ค่ะ ต่อที่2ก็คือเค้าก็ยังย้ำคำเดิมว่าเราทำข้อสอบได้น้อยมากเลย แต่เรามีข้อดีอย่างนึงคือเราเรียนจบแล้ว (เหมือนอันนี้คือข้อดีเดียวของเรา) แล้วก็เข้าต่อที่3ค่ะ เค้าพูดถึงเรื่องเงินเดือน เค้าบอกเราว่า "พี่ให้เงินตามที่น้องขอไม่ได้หรอก เพราะน้องไม่มีประสบการณ์เลย ถึงน้องจะจบโทแต่ก็เหมือนจบปตรี เพราะเริ่มใหม่เหมือนกัน ถ้าให้เยอะมันจะไปเกิดการเปรียบเทียบกับอีกคน(ที่จบปตรี)" อันนี้เรารู้สึกไม่ค่อยเก็ทหน่อยๆ เพราะเราไม่มีปสก.ก็จริงและเราเริ่มใหม่เหมือนกับคนอื่นที่เค้าว่าก็จริงค่ะ แต่ด้วยวุฒิเราว่ามันก็เทียบกันไม่ได้อยู่ดี แต่ว่าบรรยากาศโดยรวมของที่นี่ก็ไม่แย่เท่าครั้งแรกค่ะ555 เคยสัญญากับตัวเองไว้ว่าถ้าเจอแบบครั้งแรกอีกจะออกมาเลย พอสัมภาษณ์จบเค้าก็บอกให้เรารอ 2 วีค จะโทรกลับ แต่เราก็ขอพูดตรงๆว่าเราจบตั้งแต่ทัศนคติที่เค้าบูลลี่เราแล้วค่ะ เพราะขนาดยังไม่ได้ร่วมงานกัน ยังโดนกดขนาดนี้เลย เราจบตั้งแต่ปิดประตูเดินออกจากบ.เค้าแล้วค่ะ อันนี้เป็นไฮไลต์ที่คัดมานะคะ จริงๆท่าทีและคำพูดอื่นๆก็ฟีลข่มค่ะ

เราเคยสัมภาษณ์กับบ.ต่างชาติมา2บ.ค่ะ บรรยากาศมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง 2บ.นั้นไม่มีทำข้อสอบและไม่พูดถึงเกรดหรือสถาบันที่เราจบมาเลยค่ะ ส่วนใหญ่คือฟีลชวนคุยและจำลองสถานการณ์ต่างๆเพื่อให้แสดงทัศนคติมากกว่าค่ะ ไม่มีการบูลลี่เกิดขึ้นเลยค่ะ ฟีลกู้ดมากๆ

ปล.

1. ทุกคนไม่ควรต้องอดทนกับอะไรที่ไม่จำเป็นต้องอดทนค่ะ

2. ทุกคนมีสิทธิ์ในตัวเอง การจบวิศวะมาขายก๋วยเตี๋ยวไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ ทุกคนมีหนทางของตัวเอง และไม่มีกฏหมายข้อไหนที่บอกว่าจบอะไรมาต้องทำวิชาชีพนั้น

3. หากใครประสบเหตุการณ์เดียวกัน อย่าเพิ่งหมดหวังนะคะ มันจะต้องมีซักวันที่เป็นของเราค่ะ และตัวเรามีค่าในตัวเองเสมอนะคะ :)

#สัมภาษณ์งาน #รีวิวประสบการณ์ #แชร์ประสบการณ์ #เด็กจบใหม่สมัครงาน #เด็กจบใหม่ #โดนดูถูก #โดนบูลลี่