ทำงานยังไงไม่ให้ burn out

เดือนนี้งานผมค่อนข้างเยอะเอาการ ทำให้หลังเลิกงานแทบไม่อยากทำอะไร เหนื่อยไม่อยากออกกำลัง เหนื่อยไม่อยากอ่านหนังสือ หรือแม้แต่ลุกจากที่นอนไปทำงานวันถัดไป เชื่อว่าหลายคนอาจเผชิญอาการแบบเดียวกัน และถ้าเป็นแบบนี้ ’ทุกวัน’คงส่งผลต่อระยะยาว นี่อาจเป็นสัญญาณของภาวะหมดไฟหรือ burn out ปล่อยไว้ไม่ดีแน่

😔ภาวะ burn out เกิดจากปัญหาเรื้อรังจากที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็น work load มากเกินไป การแก้งานบ่อย ความสัมพันธ์กับคนในที่ทำงานไม่ดี เป็นต้น จนทำให้เกิดผลทางอ้อมต่อประสิทธิภาพและ performance ของเรา

🤕อาการก็อาจสังเกตได้จากไม่อยากไปทำงาน หมดแรงหลังเลิกงาน เมื่อไม่พอใจ 8 ชั่วโมงที่ทำงานก็นั่งไถโทรศัพท์ ดูซีรีย์ เพื่อเราจะได้รับความบันเทิงบ้าง แต่เช้าวันทำงานต่อมาก็วนอยู่กับลูปเดิม! ขณะทำงานก็ไม่มีสมาธิ ไม่อยากทำแล้วอยากหนีปัญหา เมื่อไม่สมาธิเราก็จัดลำดับงานไม่ได้ และทำให้การบริหารเวลาของเราแย่ output ออกมาไม่ดีก็ลดความมั่นใจในตัวเองลง

💪🏻เอาล่ะ เรื่องเรียลๆนี้ จะจัดการยังไงได้บ้าง

🔋1.ถัามี workload มากก็ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นที่พอถ่ายงานได้ และรู้จักปฏิเสธงานที่ไม่สำคัญ ให้เหตุผลตามควร

🔋2.หาคนที่คอยรับฟังเราไว้สักคน เพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนเรา พี่น้องเรา

🔋3.”ปัญหาเยอะขนาดนี้ ถ้าแก้ไขได้เราก็พัฒนาไปอีกขั้น” สร้างภูมิให้ตัวเอง แล้วเราจะโตขึ้นอีกวัน

🔋4.แบ่งเวลางาน เวลาพัก ไม่แตะงานหลังกลับบ้านถ้าไม่จำเป็นและเร่งจริงๆ

🔋5.รู้ว่าอะไรควบคุมได้ ควบคุมไม่ได้ เราจะได้ไม่ต้องทุกข์ใจกับอะไรที่นอกควบคุมไม่ได้นั้น

🔋6.ตื่นเช้ามารับพลังบวกด้วย podcast จากบุคคลที่สร้างกำลังใจได้ดี

🔋7.ออกกำลังกาย ระบายความพลังลบออกไป เช่น วิ่ง ยกเวท คาร์ดิโอทั้งหลาย

🔋8.เปิดโลก ไปที่ที่ไม่เคยไป random คุยกับคนแปลกหน้า(ที่คุยรู้เรื่องนะ) จะรู้ว่า ในหัวเราแม่งเรื่องกะจึ๋งนึง มันมีอะไรให้ explore อีกเยอะะ 🤩

#รีวิวชีวิตทำงาน #ประสบการณ์ทำงาน #จิตใจ #พนักงานออฟฟิศ #จิตบำบัด #รีวิวชีวิตผู้ใหญ่