Téléchargeur vidéo Lemon8

Le moyen le plus simple de télécharger des vidéos et des galeries à partir de l'application Lemon8

การตัดมดลูกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด 💙

การตัดมดลูกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด 💙

Bureau : cliquez avec le bouton droit de la souris et sélectionnez "Enregistrer le lien sous..." pour télécharger.

PHOTOS
การตัดมดลูกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด 💙 JPEG Télécharger
การตัดมดลูกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด 💙 JPEG Télécharger
การตัดมดลูกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด 💙 JPEG Télécharger
การตัดมดลูกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด 💙 JPEG Télécharger

🌈 ปีกว่าๆ ที่ตัดมดลูก ถามว่ามีความรู้สึกยังไงบ้าง มีความสุขมาก ที่ไม่ต้องทนเจ็บท้อง เวลามีประจำเดือน มีคนเคยบอกว่า แค่เจ็บท้องเอง ไม่เห็นจะทรมานอะไรเลย อยากให้คุณเป็นจัง อยากรู้ว่าจะทนได้ครึ่งที่เราทนไหม การไม่มีเมนเป็นพรอันประเสริฐ ไม่ต้องกังวลว่าวันนี้จะเลอะกระโปรงหรือกางเกงไหม ไม่ต้องกังวัลว่าวันนี้จะเหวี่ยงใครไปแล้วบ้าง 😂 (กราบขออภัยด้วย)

จะพูดถึงอาการที่เกิดให้ฟังคร่าวๆ นะคะ ก่อนที่จะพบก้อนเนื้อ เจ็บท้องประจำเดือนมาก กินยาทุกอย่างก็ยังเอาไม่อยู่ แล้วประจำเดือนมาเดือนละ 2 ครั้ง มาเยอะมากกว่าปกติ บางครั้งหลุดออกมาเป็นก้อนเลือด ทะลุผ้าอนามัยออกมาเลยก็ยังมี และสังเกตตัวเองมาสักพักว่าทำไมเราเริ่มมีพุง น้อยๆ น้ำหนักเริ่มไม่ปกติ ปกติจะมีหน้าท้องก็ช่วงประจำเดือนมาเท่านั้น พอประจำเดือนหมดพุงก็ยุบปกติเป็นเลย จึงอยากตรวจภายในว่าเป็นอะไร หมอก็นัดอัตราซาวด์คร่าวๆ ว่ามดลูกโตผิดปกติแล้วก็นัดมาอัตราซาวด์แบบละเอียดอีกครั้ง เมื่อวันนัดมาถึง หมอก็บอกข่าวดีว่า เจอเนื้องอกในมดลูก 2 ก้อน ก้อนนึงเจออยู่ในมดลูกขนาด 3.2 เซ็น อีกก้อนนึงเจอนอกมดลูกมขนาด 4.2 เซ็น ซึ่งก้อนที่อยู่นอกมดลูกอาจจะเป็นสาเหตุที่ให้เกิดอาการเจ็บท้องมากกว่าปกติ และอาจจะกลายเป็นช็อคโกแลตซีสหรือมะเร็งได้ และหมอก็บอกขนาดมดลูก ซึ่งหมอแนะนำวิธีรักษา 2 วิธี คือ

1.ตัดมดลูกทิ้ง

2.ตัดก้อนเนื้อทิ้ง

แต่หมอบอกว่าถ้าตัดก้อนเนื้อทิ้ง ก็อาจจะกลับมาเป็นได้อีก แต่ถ้าตัดมดลูกทิ้งจะไม่มีโอกาสเป็นอีก แต่ก็จะไม่สามารถมีลูกได้ และจะไม่มีประจำเดือนด้วย ก็เลยขอเลือกที่แบบเจ็บครั้งเดียว นั้นคือ การตัดมดลูกทิ้ง แต่ให้รอนัดผ่าอีกครั้ง เพราะช่วงนั้นคนติดโควิดเยอะ และตอนนี้หน้าท้องเริ่มขยายเหมือนคนกำลังท้องสัก 3 เดือน และน้ำหนักตอนนี้อยู่ที่ 47 กก. จากคนที่หนักสุดแค่ 43 กก.

แล้ววันที่หมอนัดผ่าตัดมดลูก คือ วันที่ 15 ธค. 64 (ดีใจมาก เพราะก่อนจะผ่าตัด ประจำเดือนเดือน พย. 64 มาทั้งเดือน มาแบบไม่หยุดพักเลย เหมือนรู้ว่าต่อไปจะไม่มีประจำเดือนแล้วนะ (จากเดือนมิถุนายน 64 ที่ตรวจเจอ)

วันที่ 15 ธ.ค. 64 วันนัดผ่าตัด หมอแจ้งวิธีการรักษา โดยจะเป็นการผ่าตัดโดยวิธีการเปิดหน้าท้องบริเวณขอบบิกินี ซึ่งฟังเสร็จแล้ว สิ่งที่คิดเรื่องแรกคือ กลัวที่สุดไม่ใช่ตอนผ่าตัดนะเพราะรู้ว่าหมอต้องทำให้เราสลบก่อนผ่าตัดอยู่แล้ว แต่ที่กลัวคือ การเตรียมตัวก่อนจะผ่าตัดนะสิ 🥹

ขั้นแรกหมออัตราซาวด์เป็นครั้งสุดท้าย และแจ้งว่าตอนนี้ก้อนเนื้อน่าจะอยู่ที่ 7.7 กับ 4.8 เซ็น

ขั้นตอนที่ 2 คือ ต้องตรวจโควิดก่อน รอผลตรวจ นอนรอผลตรวจประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างที่รอฟังผล และรอผ่าตัดพยาบาลก็จะมาเตรียมร่างกายของเราก่อน อย่างแรก คือ การสวนทวาร เพื่อเอาของเสียต่างๆ ที่อยู่ในร่างกายออก นั้นคือการสวนตูด (จริงๆ ไม่ได้กินอะไรมาหลายชั่วโมงแล้ว เพราะหมอแจ้งว่าห้ามกินอะไรก่อนมาผ่าตัด ก็นับตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนผ่าตัดตอนบ่าย 2 โมงกว่าๆ เกือบๆ 20 ชม. ที่ไม่ได้ทานอะไรเลย)

ขั้นตอนที่ 3 พยาบาลจะทำการเจาะหลังมือเพื่อให้น้ำเกลือ ซึ่งเราโดนเจาะหลายรอบมาก เพราะเจาะไม่เจอเส้น เจอเส้นแต่เส้นแตก จำได้ว่า โดนแทงไป 4 รอบ ถึงจะได้ ตรงนี้แทบจะถอดใจแล้ว เพราะเจ็บจนน้ำตาไหลจริงๆ แล้วมันก็ทำให้เรากลัว ไม่อยากทำอะไรต่อเลยเอาจริงๆ

ขั้นตอนที่ 4 เวลา 14.00 น. บุรุษพยาบาลก็มาเข็นเตียง เพื่อพาขึ้นไปเตรียมตัวผ่าตัด ในห้องผ่าตัดนั้น จะมีพยาบาล เจ้าหน้าที่ ประมาณ 4-5 คน เตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมผ่าตัด ซึ่งของเราจะผ่าตัดแบบดมยาสลบ แต่จะมีการฉีดยาบล็อคหลังด้วย การบล็อคหลังเราต้องทำตัวให้งอเหมือนกุ้ง เพราะหมอจะต้องฉีดยาที่สันหลัง จำได้ว่าน่าจะโดนไป 4 เข็ม เข็มแรกรู้สึกเจ็บจนสะดุ้ง สำหรับเข็มที่ 2 3 4 ไม่เจ็บเลย แต่จะแค่รู้สึกเย็นๆ ตอนหมอมาจับที่หลัง จากนั้นทุกอย่างก็เงียบสงบ

...จากนั้น ประมาณ 5 โมงเย็น เราถึงจะรู้สึกตัว...

วันแรกของการผ่าตัด แทบจะกระดุกกระดิ้กไม่ได้เลย เพราะปวดร้าวไปทั้งตัว เจ็บบริเวณแผลมาก แล้วเรายังมีอาการคันด้วย คันทั้งตัวเลย อาจจะแพ้ยาบล็อคหลัง (พยาบาลบอกมาค่ะ) ทำให้เราเกาจนเลือดออกซิบๆ เลย เพราะคันมากจริงๆ และวันแรกก็ต้องอดข้าวอดน้ำ (เราอดมาแล้วก่อนผ่าตัด 20 ชั่วโมง แล้วต้องอดต้อไปอีกวันนึง รู้ตัวเลยว่าหิวมาก แต่กินไม่ได้) คืนแรกหมอบอกว่าให้พักผ่อนเยอะๆ แต่หมอก็เข้ามาวัดไข้ ตรวจนู้นนี่นั้นทุก ชม. เลย หลับตอนไหนก่อน 😕

วันที่สองได้กินแล้ว แต่ได้กินแค่น้ำซุปไปก่อน อดทนอีกวันนึง คืนนี้หมอก็ยังคงแวะเวียนมาวัดไข้เหมือนคืนแรกเลย ดูแลดีมากๆ เลยค่ะ แต่คืนนี้เรามีอาการหน้ามืด จะเป็นลม จะอ้วก รู้สึกร้อนมาก ทั้งๆ ที่เปิดแอร์ ไม่แต่ใจว่าเกิดจากอะไรนะคะ ไม่น่าจะเกี่ยวกับการที่ไม่ได้กินข้าว แต่อาการแบบนี้เราเคยเป็นค่ะ

แล้วความทรมานของคนผ่าตัด คือ เวลาที่มีอาการอยากจะจาม อยากจะไอ โคตรทรมานมาก เพราะจามหรือไอทีนึงมันสะเทือนถึงแผลผ่าตัดเลยนะ ต้องกลั้นไว้ ห้ามจามห้ามไอเด็ดขาด หรือถ้าทนไม่ไหวก็ต้องหาหมอนมาวางทับแผลไว้ แล้วค่อยๆ จามหรือไอเบาๆ

สำหรับการพักฟื้นหลังผ่าตัด กิจกรรมที่เคยทำ หมอจะให้งดก่อน ห้ามยกของหนัก ห้ามเดินไว แต่ให้เดินบ่อยๆ ห้ามมีเพศสัมพันธุ์ ห้ามกินของแสลง อื่นๆ (พักฟื้น 1 เดือน)

หลัง 1 เดือน นัดตัดไหมและฟังผลชิ้นเนื้อ หมอแจ้งว่าแผลผ่าตัดแห้งดี สำหรับแผลข้างในต้องรออีก 2 เดือน แผลถึงจะหายดีและติดกันสนิท สำหรับไหมจะละลายเอง หมอเย็บแผล 2 ชั้น ส่วนชิ้นเนื้อเป็นเนื้อดีไม่เป็นอันตราย และหมอไม่ให้ยาฮอร์โมนเพราะการตัดมดลูกทิ้ง แต่ยังมีรังไข่ที่ผลิตฮอร์โมนอยู่จึงไม่จำเป็นต้องกินยา

.

📌📌สุดท้ายเลย อยากให้ผู้หญิงลองสังเกตร่างกายตัวเองบ้าง ว่าร่างกายของเรามีความผิดปกติอะไรบ้างไหม จะได้รักษาก่อนจะเป็นอะไรไปมากกว่าเดิม หวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ คน นะคะ📌📌

.

ปล. การตัดมดลูกออกไปนั้น ข้อดีที่เราคิดว่าดีมากๆ คือ เราไม่มีประจำเดือนอีก และไม่ต้องปวดท้องแบบทรมานด้วย แต่มันก็จะมีอยู่อย่างนึง อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นข้อเสียหรือเปล่านะไม่รู้ว่าคนที่เคยตัดมดลูกเป็นเหมือนกันบ้างไหม คือ น้ำหนักขึ้น จากเดิม 42 ณ ปัจจุบัน 46 แล้วววว 🥲 มีหน้าท้องน้อยๆ ด้วย ทำยังไงก็ไม่ลงเลย ใครใจดีบอกวิธีลดหน่อยคร้าาาา 🧡🧡

#ผ่าตัดมดลูก #เนื้องอกในมดลูก