ลงทุนกับตัวเองคือการลงทุนที่ดีที่สุด

วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การผ่าตัดตาครั้งแรกในชีวิตเนื่องจากเราเป็นตาเขหรือเรียกว่าตาขี้เกียจตั้งแต่กำเนิดเราเป็นมาตั้งแต่กำเนิดเลยค่ะแต่ว่าเพิ่งได้มีโอกาสมาผ่าตัดเมื่อปีครึ่งที่แล้ว ประมาณ 8 สิงหาคม 65 ค่ะบอกก่อนนะคะว่าส่วนตัวเป็นเด็กต่างจังหวัดแต่เราย้ายสิทธิ์มาใช้สิทธิ์ที่กรุงเทพฯค่ะแล้วก็มีผู้ใหญ่ใจดีเขาช่วย จริงๆเขาจะให้เราไปโรงพยาบาลตาวัดไร่ขิงค่ะหรือเรียกว่าศูนย์ตาวัดไร่ขิง แต่ตอนนั้นเราไม่มีเงินค่ะเราก็เลยบอกป้าเขาไปว่าขอเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิ์ละกันจะได้ไม่ต้องเสียตังค์เยอะก็ส่งตัวไปส่งตัวมาจุดจบที่โรงพยาบาลวชิระค่ะไปหาหมอครั้งแรกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ทำอะไรเยอะแยะมาก แอบใจถอดแล้วก็เริ่มลังเลว่าจะทำได้ไหมจนกระทั่งหมอใหญ่เขาบอกว่าทำได้เราก็เลยเชื่อใจเลยค่ะว่าหมอเขาจะทำได้แล้วหมอเขาก็นัดอีกทีเป็นสิ้นเดือนพฤศจิกายน 65 แต่ช่วงกลางปีทางโรงพยาบาลได้ติดต่อมาหาเราว่ามีคิว 1 เขา cancel ไป เราสะดวกไปผ่าตัดไหมเขาโทรมาในวันที่ 2 แล้วก็ให้เราไปตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัดวันที่ 5 เราก็เลยตัดสินใจสักพักนึงแล้วก็ไปค่ะ ใจสู้มากแล้วก็แอบกลัวอยู่เหมือนกันแต่ตอนนั้นเราคิดแค่ว่าเราทำมาเราจะได้สวยแฟนเราจะได้ไม่อายคนที่คบกับเรา เราได้ผ่าตัดเป็นเช้าวันที่ 8 สิงหาคมหมอใช้การผ่าตัดเป็นการยิงยาสลบตื่นขึ้นมาอีกทีก็คือเสร็จแล้วแล้วเราก็บอกหมอไปว่าเราฝันร้าย5555 วันแรกที่เปิดแผลตาออกมาคือความคิดแรกคือไม่น่าผ่าตัดเลยเพราะว่าความรู้สึกมันตามันจะถล่นออกมาเพราะว่ามันเย็บด้วยไหมละลายเข้าข้างในดวงตาถามว่าเจ็บไหมปวดไหมส่วนตัวปวดแค่ตอนที่เรารู้สึกตัวแรกๆประมาณ 3 นาทีได้ค่ะพอเราฟื้นตัวแล้วเราก็เรียกหมอหมอเขาก็จะฉีดยาแก้ปวดให้เลยแล้วก็จะหายปวดแต่ที่ปวดคือปวดตัวค่ะ5555 วันนั้นรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ทับฤดูด้วย555 ผ่าตัดได้ 1 วันหมอก็เช็คเช็คสภาพตาแล้วก็ให้ออกจากโรงพยาบาลเลยค่ะแล้วก็ให้เรามาดูแลสุขภาพตาเอาเองเป็นระยะเวลา 1 เดือนไม่ให้เราทำกับข้าวแล้วก็ไม่ให้เรายังจำไม่ให้เราไอแล้วก็ไม่ให้เราเดินก้มเยอะให้เราจ้องอะไรนานๆไม่เท่าเราอยู่ใกล้แสงเยอะๆ แต่เราคืออยู่คนเดียวไงทำกับข้าวฉ่ำ555 ประมาณ 16 วันหมอก็นัดดูอาการค่ะแล้วก็มีนัด 1 เดือนหมอก็แอบชอบว่าเออมันก็ดูแลดีนะแล้วก็มันมีหลายเคสเลยที่กลับไปดูแลเองที่บ้านแล้วตาเขาเอียงเหมือนเดิมอะไรอย่างนี้หรือว่ามีคนติดเชื้อกลับมาอะไรเนี่ยแต่ของเราคือไม่เป็นอะไรเลยคือดูแลดีมากแล้วเราก็มีนัดอีกรอบ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปีแล้วก็ปีนี้จะเป็นปีที่ 2 ที่ต้องไปตรวจสภาพตาค่ะจะบอกว่ามันเหมือนเป็นการเปิดโลกเหมือนได้ชีวิตใหม่เลยหลังจากผ่าตัดตามาเพราะว่าเมื่อก่อนน่ะพอเราตาเขเราจะรู้สึกว่าเราน่าโหดเวลาเราคุยกับใครหรือเราเล่นกับเด็กเด็กก็จะมาแล้วก็เด็กบางคนเขาไม่รู้เขาก็จะบอกว่าทำไมหนูเป็นอย่างนี้ทำไมเป็นอย่างนี้แล้วก็จะบอกว่าเออเราเล่นโทรศัพท์เยอะนะหนูต้องไม่เล่นโทรศัพท์เยอะเหมือนพี่นะคะ แต่พอหลังผ่าตัดตามาคือชีวิตดีขึ้นมากค่ะแล้วก็มีคนเข้ามาหามากมายแล้วก็ที่พีคที่สุดคือโดนนอกใจเฉย555 แต่พอเราโสดก็มีคนเข้ามาหามากมายเลยค่ะทำให้เราได้เจอผู้คนใหม่ๆทำให้เราเจอสังคมที่กว้างกว่าทำให้เราคิดว่าเออสำหรับประเทศไทยแล้ว beauty standard ก็ยังคงสำคัญอยู่ นี่ก็คือจะมาแชร์ประสบการณ์การผ่าตัดตาให้กับใครที่ตาเขยอยู่หรือว่าใครที่ยังไม่ได้รับการรักษาแต่ไม่กล้านะคะคือไม่ต้องกลัวเลยคือถ้าเรากลัวเราจะไม่สวยค่ะ555 เป็นกำลังใจให้สำหรับคนที่อยากจะผ่าตัดหรือว่าอยากจะดูแลตัวเองพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นนะคะ ปล.สำหรับใครที่อยู่ต่างจังหวัดหรือว่าเป็นเด็กต่างจังหวัดนะคะถ้าแบบไม่ได้มีโอกาสถ้ามันรักษาในกรุงเทพฯก็สามารถใช้สิทธิ์นั้นขอใบส่งตัวจากจุดแรกที่เป็นอาจจะเป็นโรงพยาบาลที่เราเกิดก็เขาจะส่งตัวไปเรื่อยๆจนถึงโรงพยาบาลที่สามารถที่จะผ่าตัดให้เราได้ค่ะ ลายสำหรับใครที่อยู่กรุงเทพฯแล้วก็อยากพาแต่ท่องกรุงเทพฯนะคะก็สำหรับเราคือย้ายย้ายสิทธิ์การรักษาออนไลน์เข้ามาในกรุงเทพฯค่ะแล้วก็หาจุดที่ใกล้เราที่สุดค่ะแล้วก็ไปขอทำเรื่องส่งตัว สู้ๆนะคะ #สู้ชีวิตฉํ่า