พิกัดรักษาสิว ฉบับคนงบน้อย

คืองี้นะ พอเราประมาณมัธยมต้นก็เริ่มเป็นสิว พอ ปวช.เริ่มแต่งหน้าก็เป็นสิวเพิ่มขึ้น เลยเริ่มหานู้นนี้มาใช้ตามรีวิว สรุปผลที่ได้คือหนักกว่าเดิม ฮือออ พี่ที่รู้จักเลยแนะนำให้ลองไปที่อุทัยคลินิคเราก็แบบเอาว๊ะ ลองมาได้ทุกอย่าง ลองไปกดสิวหน่อยจะเป็นไร

พอไปถึงหมอทักเลยว่าแบบ โอโฮ้ ค่อนข้างเยอะนะ (แต่เราว่าเยอะมากอันนี้หมอรักษาน้ำใจ) หมอบอกว่า เดะกดสิวแล้วก็เอาครีม กับยากินไปนะ ช่วงแรกให้กดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง 2 เดือน ก่อน แล้วหมอก็บอกต่อว่าไม่หายขาดนะ ก็มีขึ้นเรื่อยๆ แต่ดีขึ้นแน่นอน เพราะฮอร์โมนยังไม่นิ่ง สรุปวันนั้นค่าใช้จ่ายประมาณ 1000 - 1200 ส่วนหลังจากนั้นก็ 510 บาท (แต่ถ้าครีมหมดก็บวกเพิ่มไปนะจ๊ะ) ไม่ต้องซื้อเป็นคอร์ส ไปเมื่อไหร่ก็จ่ายตามนั้น

ความรู้สึกตอนกดก็คือเจ็บ แต่ทนได้ (เรากดทั้งหน้า) ส่วนใครทนไม่ไหวบอกพี่เค้าได้นะ เขาจะหยุดพักให้ แต่สำหรับเรา เราทนได้ เลยให้พี่เค้ากดให้หมดทั้งหน้า เพราะว่าผลลัพที่ได้หลังกดมันคุ้มมาก ส่วนทริคที่ทำให้เราทนเจ็บก็คือ สวย ท่องไปค่ะสาว ช่วยได้เยอะ

เริ่มเห็นผลแบบคนทักจริงๆเลยนะคือประมาณครั้งที่ 4 เพื่อนเราเองนี่แหละ เห้ยหน้าเนียนขึ้น เห้ยไปทำไรมา เราก็แบบยืนปลื้มปริ่มในใจว่าการที่เราทนเจ็บนิดหน่อยเพื่อกดสิว มันจึ้งใจมากเว่อร์

ตอนนี้เราก็ยังไปกดสิวเดือนละครั้ง บางทีก็ 2 เดือนครั้งไปกดสิวทำทรีทเมนต์จุ๊บจิ๊บ ใช้ครีมคลินิคทุกวัน ส่วนยากินเราไม่ค่อยกินแล้วค่ะ จะกินแค่ช่วงที่รู้สึกว่าหน้ามันมากไป ส่วนพวกครีม กับยากิน ถ้าเกิดอันนี้มันแมส จึ้งใจ เดะจะมารีวิวให้แบบละเอียดอีกทีละกัน

ปล.คลินิคนี้รีวิวในโซเชี่ยลเยอะมาก คิวก็เช่นกัน เราแค่มายืนยันอีก 1 เสียงว่าดีจริง

เดาว่าพวกแกน่าจะต้องถามมั้งนะ

- ปรึกษาหมอฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

- ต้องโทรจองคิวก่อนไป ไม่งั้นอาจเสียเที่ยว เด้อสาว

#lemon8ไดอารี่

#ดูแลสุขภาพตามช่วงวัย

#สุขภาพผู้หญิง

#ประสบการณ์เจ็บป่วย

#สุขภาพใจ

#แชร์ความรู้สุขภาพ

#รักษาสิว #Howtoรักษาสิว

#คลินิกรักษาสิว #เป็นสิวไม่หาย