แนะนำ เจาะลึกอาชีพ ”ช่างภาพฟุตบอล“ ชีวิตนี้ต้องถึก !!

#เจาะลึกการงาน #ตากล้อง #ช่างภาพ #ช่างภาพฟุตบอล

ประมาณปี 60‘ เราเปิดสายอาชีพใหม่ จากคนที่ใช้กล้อง DSLR ไม่เป็นสู่ช่างภาพฟุตบอล ⚽️

หลังจากออกจากงานประจำ มาทำธุรกิจส่วนตัว ก็หางานอดิเรกทำไปเรื่อย โดยเริ่มจากกล้องตัวแรก D3400 ของ Nikon หาถ่ายเล่น ถ่าย vlog กับเพื่อน เริ่มเรียนจากพี่ฉิมใน i love to go ด้านเบสิกกล้อง จนรู้สึก เออ เราชอบมันจริงๆ

.

🍋 แล้วมาสายกีฬาได้ยังไง ?

จากการเริ่ม Up รุ่นกล้องไป D500 รู้สึกเออ บอดี้มันเท่หว่ะ ด้วยความเรือธงตัวคูณของ Nikon ทำให้ความสามารถของมัน ถ่ายรูปได้อย่าง สัตว์ นก กีฬา ซึ่งเราชื่นชอบฟุตบอล และดูบอลอังกฤษตั้งแต่เด็ก (ปี 99 แมนยู 3 แชมป์)

เลย เออ อยากลองถ่ายดูสักตั้ง และ Test Performance ของกล้องด้วย เลยเริ่มจากหาโปรแกรมที่มีเตะใน กทม. (โปรแกรมเล็กๆ) แล้ว inbox ไปที่สโมสรเค้า ถามว่า “ถ้าหนูอยากเข้าไปถ่าย ทำยังไงบ้างคะ“ เว้าซื่อๆ งี้แหละ

เค้าก็บอกว่า เอาบัตร ปชช มาแลกเสื้อหน้าสนามได้เลย เย้ !

🍋 การเดินทางเริ่มต้นขึ้น

หลังจากนั้นก็หาถ่ายไปเรื่อยๆ เริ่มมีคนรู้จักเยอะขึ้น ทั้งนักบอลพากันมา Tag รูป แฟนบอลฟุตบอลไทยก็น่ารักมาก รวมถึงโค้ช และนักบอลทุกคน มาถ่ายรูปคู่ ดูแลห้องพักให้อย่างดี :)

จนเริ่มมีงานจ้าง ตั้งแต่ในลีก ยันทัวร์นาเมนต์ของโรงเรียน ศิษย์เก่าอื่นๆ ที่ให้โอกาสมาตลอด 2 ปีในวงการนี้

นึกแล้วยังอบอุ่นหัวใจกับอาชีพนี้เสมอมา

แม้ช่วงนี้จะไม่ได้รับงานสายกีฬาแล้ว เพราะยุ่งเรื่องงานหลัก ฯลฯ แต่ก็ยังพอได้เคาะสนิมไปถ่าย Event , Concert ต่างๆ จากคนรู้จักอยู่บ้าง 🫶🏻

แต่ไม่เคยลืมกลิ่นสนามหญ้าเขียวๆ นั้นเลย ทั้งประสบการณ์ พลังงาน ความสุข มิตรภาพ และคำขอบคุณ

ทุกชัตเตอร์คือความตั้งใจ เราดูบอลย้อนหลัง ทำการบ้าน ศึกษาก่อนมาถ่ายอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด และรอยยิ้มของเจ้าของภาพ

หากยังอยู่ในเส้นทางฟุตบอล เราคงได้เจอกันอีกครั้ง (และขอให้วงการฟุตบอลไทย ไม่ตกต่ำไปมากกว่านี้ด้วยเถิด)

.

🍋 อุปกรณ์ และการเตรียมความพร้อม

• body กล้อง : กล้องที่ถ่ายฟุตบอลได้ สเปค frame rate ของกล้องเราคือ 10 fps / 200 shot buffer ซึ่งสามารถครอบคลุมได้ทุกช็อตการเคลื่อนไหวของกีฬา

• lens : ควรมีเลนส์ระยะเทเล เช่น 70-300 , 70-200 , 300 f4 , 300 f2.8 เป็นต้น

เราเริ่มจาก tamron 70-300 แต่ด้วยความ F ไหลทำให้จัดการภาพไม่ได้เสถียร เลยอัพเป็นตัว 70-200 2.8 fl ed VRII

• lens ระยะอื่นๆ : เช่นไวด์ / เลนส์ซูมระยะ normal ควรมีติดกระเป๋าไว้บ้าง (เช่น 24-70, fix 50,35, 10-20mm) เพราะฟุตบอล ไม่ได้มีแค่ในสนาม

• memory card : ปกติเราใช้ Xqd แต่ถ้ากล้องใครใส่ได้แค่ sd ควรใช้การ์ดที่มีสเปคเขียน/อ่านสูงๆ อย่าง 95-150 mb/s และควรมีมากกว่า 3 ใบ เผื่อการ์ดพัง

• แบตเตอรี่ : โดยปกติ DSLR แบตก้อนเดียว ถ้าไม่ได้ถ่าย video อยู่ชิวๆ ได้วันกว่าๆ แต่ควรสำรองติดไว้ 2 ก้อน เผื่อมีความเสียหายคับ

.

นอกนั้นก็จะเป็นอุปกรณ์อย่าง เสื้อกันฝน ที่คลุมกล้อง เพราะฟุตบอลบ้านเราเตะหน้าฝนเป็นหลัก 😅

.

และเตรียมร่างกายให้พร้อม การแบกกระเป๋า 12 โล++ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย รวมถึงเตรียมตัวให้พร้อม ดูรูปฟุตบอล ศึกษากฎฟุตบอล ข่าวสารให้พร้อม ทุกอย่างเป็นผลต่อการจับจังหวะการถ่ายให้ได้ภาพที่ดีที่สุด

.

การสักแต่รัวมา แล้วมาคัดภาพที่ดีที่สุดไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ ถ้าหมดพักครึ่งคุณต้องส่งงานทันที

.

สำหรับเรา ไม่ว่าจะผ่านมากี่สนาม ก็ยังตื่นเต้นทุกครั้งที่เดินเข้าไปเจอเสียงกองเชียร์ กลิ่นหญ้า เพราะเราไม่อาจคาดได้เลยว่า ภายใน 90 นาทีต่อจากนี้ จะเกิดอะไรขึ้น

.

นี้แหละ.. ลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ 🫶🏻