จะสมัครทุน GKSใช้อะไรบ้าง?

สวัสดีค่ะทุกคน จากโพสต์ก่อนหน้า แพรเคยพูดถึงทุน GKS ไว้นะคะ ซึ่งเป็นทุนที่รัฐบาลเกาหลีมอบให้กับชาวต่างชาติ รายละเอียดทุนที่ว่าให้อะไรบ้าง ทุกคนสามารถอ่านจากโพสต์ก่อนนี้ได้นะคะ จะไม่พูดในโพสต์นี้แล้วเน้อ 😃😃

วันนี้แพรก็จะมาแชร์การเตรียมตัวทั้งหมดก่อนจะสมัครกันนะคะ โดยปกติไกด์ไลน์จะออกประมาณก.พ.นะคะ ซึ่งเราสามารถเตรียมเอกสารได้ โดยดูจากไกด์ไลน์ปีก่อนๆได้ค่ะ ไม่ต่างกันมาก 😍😍

เกณฑ์ไม่ยากเลยค่ะ ถ้าเกรดไม่ต่ำกว่า 2.64 ก็ลุยโลดดด

ไม่รอช้า ไปดูกันเลยมั้ยคะ ว่ามีอะไรบ้าง?😜

เอกสารประกอบการสมัคร (สำหรับป.โทนะคะ)

พาร์ทแรก : เอกสารที่ไม่ต้องนำไปรับรองที่กงสุลและสถานทูตนะคะ ประกอบด้วย

1.ใบปะหน้า (เป็นใบเช็คลิสต์นั่นเอง ก่อนส่งทุกคนต้องเอาใบนี้ปะหน้า พร้อมเช็คลิสต์ให้ด้วยนะคะว่าเรามีเอกสารอะไรบ้าง เค้าจะให้ติ๊กว่าเราสมัครรอบสถานทูตหรือมหาลัยเน้อ แล้วก็ให้กรอกนามสกุล ตามด้วยชื่อ และสัญชาติค่ะ

2.ใบสมัคร ก็กรอกตามฟอร์มเลยค่ะ เลือกระดับที่จะสมัคร คณะ (อันนี้ให้ดูนะคะว่าวิชาที่เราอยากเข้าอยู่ในคณะไหนในมหาลัยนั้น ห้ามพลาดน้า)

3.personal statement หรือจดหมายแนะนำตัว จะต้องเขียนภายใน 3 หน้ากระดาษ โดยจะต้องครอบคลุมเรื่อง แรงจูงใจที่ทำให้เราสมัครทุนนี้ เลือกคณะนี้? ภูมิหลังการศึกษา ว่าเราเรียนอะไรมา ตอนนั้นเป็นยังไง ประสบการณ์ที่เราเคยมี เหตุการณ์หรือคนที่มีอิทธิพลต่อตัวเรา สกิลหรือรางวัลที่เคยได้รับ อื่นๆ เช่น ชมรม หรือกิจกรรมที่เคยทำ ประสบการณ์การทำงาน

4.study plan ให้เขียนใน3หน้ากระดาษาเช่นเดียวกันค่ะ โดยมีหัวข้อว่า เราจะพัฒนาสกิลภาษาอังกฤษและเกาหลีก่อนและหลังที่จะมาเกาหลียังไงบ้าง เป้าหมายในการเรียนของเรา แพลนในอนาคตหลังเรียนจบ

5.จดหมายแนะนำ : โดยผู้เขียนควรจะเป็นอาจารย์ในหาลัยที่เราเรียนจบมา คนที่เคยประเมินเรานะคะ ให้อาจารย์เขียนถึงความสามารถในการทำงานร่วมกับคนอื่นของเรา ทักษะ สกิล จุดอ่อน จุดแข็ง ศักยภาพต่างๆ การปรับตัว (อันนี้สำคัญน้า ถ้าจะให้อาจารย์เขียนง่ายขึ้น ลองส่งจดหมายแนะนำตัวให้อาจารย์อ่านดูนะคะ ว่าเราอยากเข้าคณะไหน บอกอาจารย์ให้เขียนเชื่อมโยงถึงคณะที่เราจะเรียนหน่อย ว่าจุดเด่นของเราเข้ากับการเรียนในคณะที่จะเรียนต่อยังไง จุดอ่อนของเราเป็นไง แล้วเราปรับปรุงหรือพัฒนายังไงบ้าง ให้อาจารย์เขียนเล่าให้เค้าเห็นภาพก็ได้ค่ะ อันนี้ค่อนข้างสำคัญในการคัดเลือกเหมือนกันน้า

6.ใบยินยอมการสมัคร ใบประเมินสุขภาพ หนังสือยินยอม อันนี้กรอกตามฟอร์มได้เลยนะคะ

พาร์ทที่สอง : เอกสารที่ต้องเอาไปรับรองที่กงสุล และสถานทูต

1.เอกสารแสดงสัญชาติ และความสัมพันธ์กับครอบครัว : สูติบัตร หรือสำเนาทะเบียนบ้านก็ได้ค่ะ แพรแนะนำให้ไปคัดเอกสารเป็นภาษาอังกฤษได้ที่เทศบาล ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตได้เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องไปจ้างแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ เพราะบางทีคนตรวจที่กงสุลอาจจะให้แก้คำศัพท์อีก เสร็จแล้วก็เอาไปรับรองที่กงสุลเลย จองคิวออนไลน์ไปก่อนนะคะ ใช้เวลาการรับรองเอกสาร 2-3วันทำการค่ะ

2.ใบจบการศึกษา (ใบปริญญาหรือหนังสือรับรองคุณวุฒิ) ฉบับภาษาอังกฤษ ก็ให้ขอกับกองกิจการของมหาวิทยาลัยได้เลยค่ะ

3.transcript ฉบับภาษาอังกฤษขอกับทางมหาลัยที่จบได้เช่นเดียวกัน

เสร็จแล้วนำเอกสารทั้งสามอันนี้ไปรับรองที่กงสุล แล้วนำไปรับรองเอกสารอีกทีที่สถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทยน้า เตรียมเงินสดค่ารับรองเอกสารไปด้วยนะคะ

พาร์ทที่สาม : เอกสารอื่นๆ หมายถึงเราจะส่งหรือไม่ส่งให้ทางนู้นก็ได้ค่ะ เป็น optional เน้อ

1.คะแนนสอบ topik หรือคะแนนสอบtoefl/ielts เราสามารถปริ้นท์จากหน้าเว็บได้เลยนะคะ สำหรับผลสอบ topik ส่วนผลสอบอิ้ง สามารถถ่ายเอกสารจากต้นฉบับได้ค่า แนะนำให้ส่งกันนะคะ เพราะคะแนนที่เราได้จากการสอบนี้จะเอาไปคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เทียบอีกที เพิ่มจากคะแนนรวมเรื่องเอกสารไปอีก 10% ค่ะ

2.รางวัลที่เคยได้รับ พวกเกียรติบัตร งานวิจัยหรือสิ่งตีพิมพ์ได้หมดเลยค่ะ ถ้าใครมีเขียนว่าเคยได้ทำอะไรมีผลงานอะไรใน personal statement หรือ study plan ก็แนบเป็น other document เพิ่มได้นะคะ

3.สำเนาพาสปอร์ต : อันนี้ไม่บังคับค่า ถ้ายังไม่มีพาสปอร์ตก็ไม่ต้องส่งนะคะ ไม่ได้มีผลอะไรน้า

พอเตรียมเอกสารครบทั้งหมดแล้ว ก็ให้ทุกคนพิมพ์ว่าเอกสารนั้นคืออะไร แล้วก็มาตัดแปะหัวมุมด้านขวาของเิกสารนะคะ อย่าลืมเรียงเอกสารตามลำดับพร้อมเซ็นต์ชื่อตัวเองตรงช่องเซ็นต์ชื่อทุกหน้าด้วยนะคะ เรียงเสร็จก็เอาคลิปหนีบตรงหัวมุมได้เลยค่า อย่าใช้แม็กซ์น้า

สำหรับคนสมัครรอบสถานทูต จะต้องเตรียมต้นฉบับ1ชุด และแบบถ่ายเอกสารอีก 3 ชุด

รอบมหาลัย เตรียมต้นฉบับชุดเดียวนะคะ แต่เราแนะนำถ่ายเอกสารไว้อีกซักชุดด้วยน้า บางที่ให้ส่งชุดก็อปปี้เพิ่มด้วย

สุดท้ายนี้ใครมีแพลนจะสมัครเร็วๆนี้ก็ขอให้โชคดีกันทุกคน

เร็วๆนี้เดี๋ยวจะมาเขียนการกรอกเอกสารอย่างละเอียด และทริคในการเขียน personal statement และ study plan ค่า วันนี้พอแค่นี้ก่อน บ้ายบาย #ติดเทรนด์ #ภาษาเกาหลี #เรียนเกาหลี #เรียนภาษา #ฝึกภาษากับlemon8 #ฝึกภาษา #ทุนรัฐบาลเกาหลี #ทุนGKS #ทุนเรียนต่อต่างประเทศ