Lemon8 Video Downloader

The easiest way to download video and gallery from Lemon8 app

Eating Disorder || Recovery diary pt. 1

Eating Disorder || Recovery diary pt. 1

Desktop: Right-Click and select "Save link as..." to download.

PHOTOS
Eating Disorder || Recovery diary pt. 1 JPEG Download
Eating Disorder || Recovery diary pt. 1 JPEG Download
Eating Disorder || Recovery diary pt. 1 JPEG Download
Eating Disorder || Recovery diary pt. 1 JPEG Download
Eating Disorder || Recovery diary pt. 1 JPEG Download

👏🏻🎬 มาค่ะ! เล่านิทานกันต่อ!!! >> หลังจากที่คราวที่แล้ว (โพสต์ก่อนหน้า) ทุกอย่างมันพังมาก ๆ ช่วงประมาณปลายเมษาต้นพฤษภา เราพักออกไปจากแอปนี้นานมากค่ะแบบแนว ๆ แอบไม่กล้าสู้หน้า แล้วก็เพราะไม่มีความคืบหน้าเป็นชิ้นเป็นอันมารายงาน ในช่วงที่ผ่านมานั้นเรากลับมาทำความรู้กกับตัวเองใหม่ค่ะ มีหลาย ๆ interventions เกิดขึ้นจะมาเล่าให้ฟังนะคะ 😚😋 —

1. แรกสุดเราลองแก้ปัญหาด้วยตัวเองค่าาา อันนี้ดีมาก ๆ แต่ต้องเปิดใจหน่อย ให้เวลากับตัวเองทุกวันวันละประมาณ 30 นาทีช่วงมื้อหาร 1 ใน 3 มื้อของเรา เป็น challenge 20 วันของเว็บ healthline ค่ะ ส่งเป็นเมลมทชอบทุกเช้า ชอบมากกกกกก 100/10!!! ตัวอย่างก็จะมีเช่นการกระตุ้นให้เราดื่มด่ำกับอาหารตรงหน้า enjoy food as nourishment, rather than a mass of caloric intake 😖🍨🍦🍮💖🤏🏻 เค้าจะสอนเราเอนจอยรสสัมผัส กลิ่น ที่มาที่ไปของวัตถุดิบ กรรมาวิธีการปรุง ฯลฯ มันทำให้เรากินช้าลง ลดความตบะแตกได้ แนะนำจริง ๆ !!

2. เราลองไปหานักจิตของโรงเรียนเพิ่มดูหลังจบข้อ 1. ค่ะ เพราะมันแค่ 20 วัน เรายังฝึก mindful habit ไม่โปรเลยอยากหา solution อื่นเสริมดูค่ะ …ทว่าอันนี้ไม่ชอบ รู้สึกเค้ากับเราคุยไม่คลิก เราเลยไปหาแค่ครั้งเดียวแล้วก็เลิกเลยค่ะ

3. ต่อมาเราลองหาจิตแพทย์ เค้าวิเคราะห์ออกมาว่าอาหารเป็นหนึ่งใน stress coping mechanisms ของเราค่ะ แนว ๆ ว่าแต่ละคนเวลาเครียด รู้สึกคุมตัวเองหรือสถานการณ์รอบตัวไม่ได้จะไปลงที่เรื่องต่างกันค่ะ ซึ่งของเราไปลงที่การหมกมุ่นเกี่ยวกับอาหาร (อย่างคนอื่นที่เรารู้จักก็ลองมอง ๆ แล้วมีเจอเป็นเครียดลงกระเพาะ ปวดท้องกินไม่ลง อะไรแบบนี้ค่ะ แต่ละคนมีแพทเทิร์นตัวเองที่พอเครียดทีเศร้าทีจะมาออกที่อาการนั้น) อันนี้เราเพิ่งมาคิดได้เสริมตอนหลังนะคะ แต่เราว่าที่เราเป็นแบบนี้มันสอดคล้องกับว่าตอนเด็ก ๆ เวลาเราร้องไห้เสียใจอะไร ญาติเกือบทุกคนคือปลอบเราด้วยอาหาร/ขนมตลอดเลยอ่ะ แบบ every minor discomfort >> FOOD!!! มันเลยผูกกับจิตเรามา …💊 ช่วงแรกหมอให้ยามาช่วยลดความย้ำคิด (OCD) ของเราค่ะเป็น fulox 20mg (ช่วยให้เลิกคิด หมอบอกช่วงแรกสุดนี้ถ้ารู้ตัวว่ากำลังคิดเรื่องกิน/อาหารให้เปลี่ยนเรื่องทันที จะร้องเพลงกาว ๆ เต้นบ้า ๆ หรือทำไรอย่างอื่นก็ได้) หมอจ่ายยาให้กินวันละ 1 เม็ด เรากินไป 10 วัน+ทำตามหมอมันก็เลิกเครียดเรื่องกินเลยหยุดยา (หมอบอกรู้สึกดีขึ้นหยุดได้เลย) แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะมันตรงกับได้ปิดเทอมพอดี พ่อพาไปเที่ยว ไม่มีงานด้วยมันเลยอาการเพลา ๆ ไปเองมั้ย …นัดเจอหมอหนหลังหมอให้การบ้านดู trigger ของเราค่ะว่าอะไรทำให้อาการ ED/OCD เรากำเริบ >> เราเฝ้าสังเกตนานมากจนเจอว่ามี 3 ปัจจัยหลักค่ะ ได้แก่

3.1 ความเครียด เวลาใกล้ ๆ สอบวิชาที่เราไม่มั่นใจ เราจะเริ่มคุมสติไม่ได้ กิน ๆๆๆๆๆ กดความเครียดแล้วก็ชอบนั่งแช่กินนาน ๆ คิดเรื่องเคี้ยว ๆ กลืน ๆ ตักอาหารยัดปากจะได้ไม่ต้องเอาใจ/สมองไปกังวลเรื่องอ่านสอบค่ะ ข้อนี้ชัดสุดเลย หมอนัดห่างผ่านช่วงสอบเรา 2 ครั้ง เป็นช่วงที่เป็นหนัก 2 ครั้งเลยค่ะ 😖😭😵🫠🥲

3.2 ประจำเดือนจะมา อันนี้คงไม่ต้องอธิบายไรมาก 555 ฮอร์โมนทำพิษค่ะ 😅 อันนี้เราเป็นเดือนเว้นเดือน งงเหมือนกันว่าลำดับอนุกรมอะไร 555 🗓️✍🏻

3.3 อันสุดท้ายคือความเบื่อค่ะ อันนี้นาน ๆ เป็นที แบบถ้าเราไม่รู้จะทำอะไรจริง ๆ สังเกตว่านาน ๆ ทีก็มีเดินเข้าครัวเปิดตู้เย็นหาอะไรกินไปเรื่อยค่ะ อันนี้เกิดน้อยเพราะเราไม่ค่อยมีเวลาว่างให้มาเบื่อ 555 อันนี้พยายามแก้ด้วยการไม่สต๊อก junk food เพราะจะได้เผลอหลุดก็ยังไม่แย่มาก แต่ก็นะคะ เราอยู่บ้านกับคนอื่น บางทีมันก็มีขนมที่เราไม่ได้ซื้อมาปรากฏขึ้นมาล่อเรา 555 [ 🍪🍫🍟 >> 🍎🍊🍌🫐 ]

เราว่า 3 ปัจจัยนี้น่าจะเป็นกันหลายคน / common พอสมควรเลยเอามาแชร์นะคะ เผื่อใครจะเอากลับไปสังเกตตัวเอง เราว่า 3 ข้อนี้ทำให้เราชิลกับเรื่องการกินตัวเองขึ้น รู้ root causes ของปัญหาต่าง ๆ ขึ้น ไม่เกลียดตัวเองคิดว่าตัวเองแปลกประหลาดที่จู่ ๆ ก็มามีแนวคิดหมกมุ่นลดน้ำหนัก I wasn’t crazy ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไปจากชีวิตที่ผ่านมาของเราค่ะ

➕4. จริง ๆ มันมีช่วงนึงที่เรากลัวมาก ๆ ว่าเราเป็นโรคจิตเป็นบ้า ป่วยทางจิตถึงกลายเป็น OCD/ED แบบนี้ ทั้ง ๆ ที่หมอก็บอกว่าอาการเราเบามาก ดีที่ไหวตัวเร็ว อันนี้ต้องยกให้คุณแม่เราเลยค่ะ มาช่วยปลอบเราได้ดีมาก ๆ จนเราช็อค (เพราะปกติเวลาพูดเรื่องแนวนี้แม่เราค่อนข้างแข็ง ๆ เย็นชาหน่อย ๆ ด้วยซ้ำ แหะ ๆ 🧸) แบบแม่บอกเราว่าการมองกระจกเช็คหุ่นตัวเองบ้าง ลองเอามือกำข้อมือตัวเองบ้างดูว่าบวมมั้ย ไรงี้ปกติมาก ๆ ค่ะ แบบตอนนั้นเราหลุดไปในโลกโซเชี่ยลด้านที่เจอคนมาเล่าอาการของคนเป็น ED แล้วมันมีบางข้อคาบเกี่ยวกับเรา เราเลยกลัวมาก ๆๆๆๆๆๆ แบบไม่อยากป่วยเป็น ED หนัก ๆ แบบในสารคดี กลัวว่าที่ตัวเองมีดูทรวดทรงตัวเองบางครั้งคืออาการเริ่มต้น!! >> 😇🧚‍♀️ แม่เราสอนว่าทุกอย่างมันมี level/degree อย่างเราแม่มองแล้วว่ายังปกติ ดูกระจกเช็กต้นขาเช็คพุงเวลาเข้าห้องน้ำใคร ๆ ก็ทำกัน (เออก็จริงค่ะคุณเธอ! ไม่งั้นจะมีกระจกไปทำไม!!! แต่บับก่อนแม่พูดเราคิดไม่ได้เลย บางครั้งคนเราก็จมในสถานการณ์จนตาบอดค่ะ)— ป.ล. แม่เราจบสายวิทย์สุขภาพคณะหนึ่งค่ะ เชื่อได้ ๆๆๆๆ 💉 คนใกล้ตัวมา comfort / เข้าใจเราฟินกว่าหมอมาก!

💁‍♀️💁‍♀️ อาเคคคค สรุปก็คือเราใช้เวลาเกือบ 4 เดือน crack code ตัวเองจนตอนนี้เราว่าก็กระจ่างพอสมควรมาก ๆ ค่ะ —🍼👶🏻 ทุกอย่างเริ่มจากเด็ก ๆ สะสมมาจนโตว่า cope สถานการณ์ที่เราคุมไม่อยู่/อารมณ์เศร้าต่าง ๆ ด้วยอาหาร >> 😵‍💫 อาการ/สภาพ accelerate เพราะลดน้ำหนักไม่สำเร็จจากที่ทำผิดวิธี บลา ๆๆๆ เลยยิ่งเครียด/ผิดหวังละมาลงที่กิน ๆๆๆๆ กดอารมณ์ตัวเอง เป็นซ้ำ ๆ เพิ่มดีกรีความแรงจนมันกระทบชีวิตประจำวัน >> 😭 crashed >>>>>> RECOVERING!! 💪🔥

How’s life?

ที่ผ่านมาเราปล่อยชิลเรื่องกินค่ะ 🍱 น้ำหนักขึ้นมาแต่ไม่ได้ซีเรียสมากเพราะอยากเน้นโฟกัสเรื่องหาที่มาที่ไปต้นเหตุของ mindset แบบเก่าของตัวเอง ค่อย ๆ ปรับมันและกลับมารักตัวเอง ไม่ใจร้อน ทำไรค่อยเป็นค่อยไป น้ำหนักเราค่อย ๆ ขึ้นจากตอนต่ำสุดที่ลงไปตอนปีที่แล้ว [ 56.8>>59.5>>60.5>>62.4 ] มันดูขึ้นเยอะอยู่แต่คือ 62.4 ตอนนี้ก็คือน้ำหนักเติมแรกเริ่มสุดของเราตอน 2 ปีก่อนค่ะ จาก 56.8 ค่อย ๆ ขึ้นเป็นขั้นตามสภาพอาการ ED/OCD/etc. หลายปัจจัย (มีแกว่งขึ้นลงไปมาแต่เทรนด์หลักตามนี้ค่ะ) ใช้เวลาทั้งหมดปีนิด ๆ ไม่ได้โยโย่ตู้ม!! 💪🔥 โดยเฉพาะเราหันมาเล่นเวทด้วยค่ะ 🏋️‍♀️🏋️‍♀️🏋️‍♀️ ชดเชยกล้ามที่หายตอนนกินน้อย ๆ ตอนนี้อีก 1 เหตุผลที่ไม่ได้แพนิคเรื่องน้ำหนักเพิ่มเราเราไม่ได้เผละขนาดนั้นอ่ะ มันดูกระชับพอ ๆ กับตอน 58 กก. เลยค่ะ — เราทำอาหารเองไม่ใช่เพราะคุมแคลเป็นหลักแต่เพราะเราชอบค่ะ พื้นเพเป็น foodie รักที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมการกิน/วัตถุดิบ/กรรมาวิธีการผลิตอาหารอะไรแนวนี้มาตลอดอยู่แล้ว เราแค่กลับมาเอนจอยมันหลังกดความสุขนี้ไปช่วงลดน้ำหนักเพราะคิดว่ามันจะทำให้เราลดน้ำหนักไม่สำเร็จค่ะ เอาความรู้เรื่องสารอาหารจากสมัยบ้าสุขภาพหาข้อมูลเยอะ ๆ มาใช้บ้างบางที ตอนนี้เราออกกำลังกายน้อยลงมากเพราะปี 2 คณะเราเรียนหนักมาก (แบบมาก ๆๆๆๆๆๆๆ 😀🔫) ว่างก็ออก อ่านสอบก็พัก (แต่ก็นะ ชั้นมีสอบทุกเดือน 555) นอกจากนี้ก็เที่ยวคาเฟ่กับคนรอบตัว มีความสุขค่าาา กำลังคิดว่าจะกลับมาลีนหุ่นนิด ๆ แต่ยังไม่รีบค่ะ พอดีมีกางเกงโปรด 2 ตัว เล่นกล้าม lower body เยอะไปหน่อยมันเริ่มตึงเกินใส่สบาย โอ้ย! ชั้น. เสีย. ดาย. ค่ะ. 😃

🍮🍦🫐🍠🍅🥭🧇🌯🍲🍵☕️ << my fav!

ที่กินก็มีผสม ๆ สุขภาพกายบ้างจิตบ้างไม่เคร่งค่าาา

ใครอ่านมาถึงตรงนี้เก่งมาก 👏🏻👏🏻 เรามาเขียนทีไรคือยาวมาก พันรอบโลกได้ 3 ทบ! อยากให้โพสต์นี้เป็นทั้งกำลังใจและตัวช่วยให้กับทุกคนที่อยู่ในเส้นทางเดียวกันนี้ไม่เคว้ง/เหงาค่าา มีเราอีกคน มาสู้ไปด้วยกัน! ฮึบ ๆ 💖💖💖