เป็นมนุษย์เงินเดือน เริ่มต้นจาก 0 มีเงินเก็บ 7 หลักได้จริงๆหรอ?

桌面：右键单击并选择“将链接另存为...”进行下载。

PHOTOS
	JPEG	下载

ก่อนอื่นต้องเน้นย้ำว่าปัจจัยต่างๆของเเต่ละคน เเต่ละครอบครัวจะเเตกต่างกันออกไป วิธีการในการจัดการจะไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ อีกทั้งผมก็ไม่ได้เป็นกูรู หรือว่าไลฟ์โค้ชเเต่อย่างใด เเค่อยากจะมาเเชร์เล่าสู่กันฟังครับ

◾️ครอบครัวของผมก็เป็นครอบครัวคนจีนฐานะปานกลาง ประกอบอาชีพค้าขายสุจริตทั่วไป ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เเต่สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นข้อดีเเละเป็นสกิลติดตัวที่ดีสำหรับลูกหลานทุกคนก็คือ การถูกสอนให้อดทนเเละต่อสู้ ให้รู้จักคุณค่าของเงิน รู้จักการประหยัดอดออม เเละใช้จ่ายกับสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอยู่เสมอ ซึ่งผมเองก็มีความสุขเเละเเฮปปี้ดี ไม่ได้รู้สึกขาดอะไรไป ขอบคุณครอบครัวที่บ่มเพาะผมเเละเจ๊ๆเฮียๆให้เติบโตมาได้ดีเเบบนี้ ในเเบบที่ควรจะเป็น

◾️โดยพื้นฐานของตัวผมเองจะเรียกว่า Introvert ได้ไหม ไม่เเน่ใจ เเต่จะเป็นคนที่

1.ไม่เที่ยว หรือปาร์ตี้ (ไปได้ถ้าจำเป็น) ชอบอยู่บ้านมากกว่า

2.ไม่ใช่สายเเฟชั่น หรือตามเทรนด์ขนาดนั้น (เสื้อผ้าในสมัยเด็กๆก็ส่งต่อกันมาจากเจ๊ๆ เฮียๆซะส่วนใหญ่) ซื้อเท่าที่จำเป็น

◾️เพราะฉะนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งเเต่จำความได้ ผมจะโฟกัสกับเรื่องของเเผนการเงิน เเละการจัดการตัวเองในวัยเกษียณเป็นหลัก เเละสิ่งที่ผมทำอยู่เสมอตั้งเเต่เริ่มทำงานจนถึงตอนนี้ก็คือ

1.เงินเดือน

-หักออมก่อนใช้เสมอ (เอาเท่าที่ไหว เเละไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น)

2.ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย (เพื่อเช็คสภาพคล่อง เเละตรวจสอบสุขภาพทางการเงิน) * อันนี้สำคัญมากๆ

3.รับจ็อบเสริม เช่น ติวเตอร์ , หรืองานออกเเบบบ้าน (รายรับส่วนนี้จะมากจะน้อยก็ถือเป็นค่าขนมเเละเงินออม ผมสู้หมด)

4.พยายามเพิ่มทักษะให้กับตัวเองเช่น ภาษา , ความรู้ทางการเงิน , สกิลในการทำงานด้านต่างๆ (โชคดีที่สมัยนี้ช่องทางการหาความรู้เข้าถึงได้ง่ายเเละมีอยู่เยอะมาก ต่างจากเมื่อก่อน)

5.ดูเเลจัดการชีวิตตัวเองให้ได้ โดยไม่เป็นภาระให้กับทางบ้าน

◾️ปัจจุบันผมยังอาศัยอยู่กับที่บ้าน ยังใช้รถของที่บ้าน นั่นเท่ากับว่ายังไม่มีบ้านเเละรถเป็นของตัวเอง

* ถามว่าอยากมีไหม เเน่นอนครับ ผมอยากมี เเต่! ครับ เเต่! ผมมองว่าบ้านที่มียังอาศัยได้ รถที่มียังขับได้ เพราะเราดูเเลอย่างดี ส่วนอนาคตถ้ามันจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนก็คงต้องเปลี่ยน (เพราะผมเก็บเงินส่วนนี้เป็น Backup เอาไว้เเล้วระหว่างนี้)

◾️เสื้อผ้า หรือ ของใช้ต่างๆ ผมซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น จะมีให้รางวัลกับตัวเองบ้าง ก็เป็นเเบรนด์ทั่วๆไป ไม่ได้ซีเรียสเเบรนด์ครับ เเละจะไม่บ่อยครั้ง เพราะบางทีซื้อมาก็ไม่ได้ใส่หรือไม่ได้ใช้มันเลยก็มีเยอะ

◾️ปกติจะชอบอยู่บ้านซะมากกว่า ฉะนั้นเรื่องท่องเที่ยวก็จะไปในที่ๆอยากจะไปจริงๆ นานๆที เพื่อผ่อนคลายจากการทำงาน เพราะเอาจริงๆรู้สึกว่าพักผ่อนอยู่บ้าน ดูหนัง ฟังเพลง ทำงานอดิเรกอะไรไป อยู่กับครอบครัวก็มีความสุขอีกเเบบ (ความสุขของคนเรามันไม่เท่ากันเนาะ)

◾️สิ่งที่จะลืมไม่ได้เลยคือ ความไม่เเน่นอนของตำเเหน่งงานเเละค่าใช้จ่ายกระทันหันที่อาจเกิดขึ้นทุกเมื่อ รายรับเนี่ยไม่เเน่นอน เเต่รายจ่ายมีเเน่นอน ดังนั้นผมจึงเก็บเงินสำรองฉุกเฉินเอาไว้อย่างต่ำสุดคือ 6 เดือน ถึง 1 ปี เเล้ว เเละทยอยเก็บเรื่อยๆ

◾️การเก็บเงินให้นิ่งอยู่กับที่ กว่าจะไปให้ถึงเป้าหมายเเต่ละอย่างก็คงจะยาก เเต่ก่อนจะไปถึงในเรื่องของการลงทุน ควรจะจัดสรรเเละเเบ่ง Port เงินของเราให้ชัดเจน ส่วนตัวผมเองก็จะใช้เเอพตัว M สีฟ้าเขียว เเบ่งสัดส่วนไปเลยว่า “ส่วนไหนเก็บ” , “ส่วนไหนใช้จ่าย” , “ส่วนไหนลงทุน” กำหนดการใช้จ่ายไม่ให้เกินตัวเลขที่กำหนดในเเต่ละพอร์ต เเละถ้าทุกคนมองภาพตามอาจจะรู้สึกว่ามันดูตึงจนเกินไป เเละใช่ครับผมจึงต้องมีพอร์ต ”Flexible” เอาไว้ยืดหยุ่นอีกส่วนหนึ่ง

◾️ในส่วนของการลงทุนผมจะลงทุนในส่วนของ “ตัวเอง” เเละ “ครอบครัว”

1.กองทุน (เป็นหลัก)

2.หุ้น (ส่วนน้อย เนื่องจากไม่มีเวลาบริหารจัดการด้วยตนเองมากพอ)

3.ประกันชีวิต เเละ ประกันสุขภาพ ของตัวเอง

4ประกันสะสมทรัพย์

5.ประกันชีวิตของพ่อเเม่

6.PVD Fund

7.เริ่มทำช่อง Tiktok คอนเทนท์เเนะนำเพลง (ไปติดตามกันได้นะครับที่ช่อง “พศ.ครับ” 555 ขายของนิดนึง)

ซึ่งหลายๆคนในสังคมก็อาจจะมองว่า ในวัยเท่านั้น เท่านี้ ควรจะมีนู่นนี่ได้เเล้ว เเต่สำหรับผมเเล้ว เราควรที่จะมองสภาพตามความเป็นจริงก่อนว่า เราศึกษามาดีพอหรือยัง , มีความพร้อมขนาดไหน , ต้องมองถึงเคสที่ลงทุนเเล้วเสียหายขาดทุนด้วย เรายอมรับหรือมีอะไร Backup หรือยัง ส่วนตัวของผมตอนนี้คงต้องบอกว่าขอไปทีละสเต็ปก่อน เรารู้ศักยภาพของตัวเองดี ไม่ต้องเร่งรัด ถึงเวลาถ้าพร้อมในทุกๆด้าน มันจะขยับขยายไปเอง

◾️มาพูดถึงในส่วนของรายจ่ายเเต่ละเดือนบ้าง ก็จะมี

1.ค่าเดินทาง (เดินทางไปทำงาน)

2.ค่ากิน (ห่อไปจากบ้าน เนื่องจากเเม่ผมทำกับข้าวใส่บาตรทุกเช้า จะไม่เสียค่าอาหารในส่วนนี้) ส่วนจะกินนอกเหนือจากนั้นก็เเล้วเเต่วันครับ

3.ค่าประกันต่างๆจากเนื้อหาข้างบน

4.ค่าใช้จ่ายที่บ้าน (ค่าน้ำ ,ค่าไฟ , อินเตอร์เน็ต บลาๆ)

หลักๆจะมีอยู่ประมานนี้เพราะไม่มีหนี้ก้อนใหญ่ใดๆ ของใช้ส่วนตัวจะไปอยู่ในส่วนของพอร์ต Flexible ส่วนโบนัสประจำปีก็จะให้ที่บ้านส่วนหนึ่ง เเละส่วนที่เหลือจะเก็บออมหรือนำไปลงทุนตามความเหมาะสม

◾️เเละที่สำคัญเลย เรื่องการเงินภายในครอบครัว เเละเเฟนของผม จะมีการพูดคุยกันเสมอจะจัดสรรปันส่วนยังไง ต้องวางเเผนกันให้ดี ไม่อย่างงั้นถ้าคุยกันไม่ลงตัว จะมีผลกระทบเเน่นอนทั้งกับเค้าเองเเละเราด้วย

◾️จริงๆเเล้วผมมีเงิน 7 หลัก น่าจะประมานช่วงอายุ 26-27 เเต่ช่วงนั้นนำเงินบางส่วนไปปิดลบกลบหนี้ต่างๆในบ้าน, ช่วยเหลือที่บ้าน ,รีโนเวทบ้านส่วนหนึ่ง เเละพยายามเก็บหอมรอมริบใหม่อีกครั้งจนกลับมาอยู่จุดเดิม เเละจะเดินหน้าต่อไป เพราะผมมองว่ามันเป็นสิ่งดีๆที่เราอยากจะทำ ถ้าคนที่บ้านเราเเฮปปี้ เราก็จะเเฮปปี้ไปด้วย

◾️ซึ่งถ้าพิมพ์มาถึงตรงนี้ หลายๆคนคงเจอว่า บางครั้งการที่เป้าหมายมีเเต่ตัวเลขมันก็ดูจะล่องลอย ถ้าถามความรู้สึกผมเอง ผมคิดว่าเราควรจะมีเป้าหมายอะไรบางอย่าง จะเล็กจะใหญ่ไม่สำคัญ เเละของเเต่ละคนก็เเตกต่างกันไป เเต่อย่างน้อยการมีเป้าหมายก็จะเป็นเเรงผลักดันของเรา อาจจะเป็นเป้าหมายที่เป็นประโยชน์กับเราเองในตอนนี้หรืออนาคต เพื่อมาเติมเต็มความสุขหรือความมั่นคงในชีวิตได้ โดยใช้ Passion เเละ เงินที่มี มาช่วยผลักดัน เเต่ถึงอย่างนั้นผมก็มองว่าการที่เป้าหมายมีเพียงตัวเลขก็ไม่ได้ผิดอะไร อย่างน้อยคุณก็ปลอดภัยในเรื่องของการเงินเเน่นอน

◾️เเละถ้าสังเกตุรูปเเบบของผมคือ ผมคิดเเค่ว่าในวันที่เรายังมีเเรง เรายังไหว ผมจะพยายามปิดจุดเสี่ยงในตอนนี้เเละในอนาคตให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ตามกำลัง

◾️สรุปการใช้ชีวิตของผมที่มีเงิน 7 หลักก็คือ

1.การมีวินัยเเละอดทนกับตัวเองอยู่เสมอ ทำดีเเล้วจงทำต่อไป ไม่ต้องไปสนใจคำกดดันใดๆ อะไรที่คนอื่นพูดเเล้วดีก็เก็บมาปรับใช้ อะไรที่รู้สึกว่าฟังเเล้วมันเเปลกๆก็ปล่อยผ่านไป

2.พยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ หาความรู้ให้เยอะ ถ้าทำอะไรได้หลายๆอย่างจะเป็นผลดีกับเรา ได้ใช้สกิลเเน่นอนในซักวัน

3.ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นจริงๆ อย่าฟุ่มเฟือยจนเกินเหตุ ให้รางวัลกับตัวเองอย่างเหมาะสมในการเติมเต็มความสุข

4.หากจะไปถึงเป้าหมายได้ บางทีการเก็บเงินนิ่งๆไว้อาจจะใช้เวลามากไป ควรเริ่มจะศึกษาการลงทุนตามความเสี่ยงที่เรารับไหว ศึกษาให้มากให้เข้าใจ หรือไม่ก็หารายได้จากช่องทางอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อให้เงินงอกเงย

◾️เเละทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวที่อยากจะมาเเชร์ เเละเน้นย้ำคำเดิมคือ เรื่องการเงิน การวางเเผน เเต่ละคนจะมีปัจจัยที่ไม่เหมือนกัน เปรียบเทียบกันไม่ได้ จะเก็บได้มากน้อย หรือ จะช้าจะเร็วยังไง ไม่สำคัญ เเต่ถ้าหากว่าเราเริ่มจัดการได้เเล้ว ยังไงก็จะไปถึงเป้าหมายอย่างเเน่นอน เเละหวังว่าข้อความทั้งหมดที่ผมพิมพ์จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ 🙏🏻🫶🏻

#มนุษย์เงินเดือน #เก็บเงิน #เก็บเงินล้านแรก #ประหยัดเงิน #ออมเงิน #เกษียณเร็วเกษียณรวย #วางเเผนการเงิน #ป้ายยากับlemon8 #ติดเทรนด์ #Lemon8Men