แชร์ประสบการณ์มะเร็งไทรอยด์ 💪🏻

มะเร็งไทรอยด์ ใกล้ตัวกว่าที่คิด ตรวจเจอมะเร็งไทรอยด์ตอนอายุ 28 ปี 💪🏻

📌อาจจะยาวนิดนึงนะคะ ปกติแล้วเราเป็นคนที่ตรวจสุขภาพทุกปีค่ะ ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่เมื่อปลายปีที่แล้วตรวจสุขภาพ คุณหมอที่เราตรวจสุขภาพด้วยประจำ เค้าบอกว่ามีก้อนที่คอนะคะ อยากให้ไปตรวจเพิ่ม เราก็ไปตรวจเพิ่มตามที่คุณหมอแนะนำเลยค่ะ คุณหมอแนะนำให้ไปตรวจกับคุณหมอต่อมไร้ท่อและเบาหวาน ในตอนนั้นเองที่คุณหมอแนะนำให้ไปตรวจก็เริ่มมีความกลัวและกังวลเพราะมีพี่ที่รู้จักเค้าพึ่งเป็นมะเร็งกล่องเสียง ณ ตอนนั้นเริ่มคิดไปมากละ 5555 พอเจอคุณหมอต่อมไร้ท่อ คุณหมอก็บอกมีก้อนที่คอจริงๆ อยากให้อัลตร้าซาวด์เลย เราก็โอเค อัลตร้าซาวด์ได้เลยค่ะ พอไปอัลตร้าซาวด์จังหวะที่เราหันมาเห็นที่จอคุณหมอ เราก็เริ่มคิดละว่าใช้มะเร็งรึเปล่ามันมีความแปลกๆ (ปกติเราเป็นคนที่ชอบหาอ่านเรื่องสุขภาพเยอะมาก เพราะปัจจุบันมันมีอะไรแปลกๆใหม่ๆมาเยอะมากเลยอยากรู้ไว้นั่นแหละค่ะ) อะต่อ ทีนี้จังหวะที่หันมาเห็นในหัวก็คิดละเป็นมะเร็งรึเปล่านะ ใช่ไหมนะ (บวกกับกังวลเพราะพึ่งรู้เรื่องพี่ที่รู้จักว่าเค้าเป็นมะเร็ง) พอกลับมาจากห้องอัลตร้าซาวด์ คุณหมอบอกว่ามีก้อนขนาดใหญ่ หมอขอเจาะเอาชิ้นเนื้อไปตรวจต่อเลย เราก็โอเค เจาะได้เลยค่ะ เพราะตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากคิดแค่ว่ารู้เร็วก็รักษาได้เร็ว หลังจากเจาะชิ้นเนื้อ 3 วันก็ไปฟังผล ด้วยความแกร่งของตัวเอง และคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก ไปฟังผลคนเดียวแบบเทพๆ5555 ก่อนเจอหมอก็มีกังวลคิดนั่นนี่ไปตามประสาของคนชอบคิด555 พอเจอคุณหมอ คุณหมอก็ถามมาคนเดียวหรอคะ อะเอะใจละอย่าบอกนะว่ามะเร็ง (อันนี้คิดในใจ) ก็ตอบคุณหมอว่า มาคนเดียวค่ะ พอจบประโยคนี้แหละ คุณหมอก็พูดเลยจ้า ผลตรวจชิ้นเนื้อออกแล้วนะคะ ผลออกมาว่าเป็นมะเร็งไทรอยด์นะคะ ตอนนั้นอึ้งไปแปปนึง และถามคุณหมอกลับไปอย่างไวว่ารักษายังไงได้บ้างคะ คุณหมอก็เตรียมส่งต่อเราไปให้พูดคุยกับคุณหมอผ่าตัด ก็ขึ้นมาฟังคุณหมออธิบายในเคสของเราจะต้องรักษายังไง ทำอะไรบ้าง คุณหมอก็บอกว่าเคสของเราต้องผ่าเปิดเพื่อเอาไทรอยด์ออกทั้งหมด ไม่สามารถผ่าตัดแบบส่องกล่อง เพราะเป็นเคสที่จะต้องเอาออกทั้งหมดเลย เราก็โอเค พูดคุยนัดวันผ่ากันเรียบร้อย ให้โรงพยาบาลทำใบราคาให้ดู ทางโรงพยาบาลโทรไปเพื่อ pre claim กับทางประกัน พอติดต่อเรื่องเสร็จ เรารีบโทรหาครอบครัวเรา เพื่อนร่วมงาน แต่ที่ทุกคนตกใจคือไม่คิดว่าเราจะเป็นมะเร็งไทรอยด์ คิดแค่ว่าน่าจะเป็นไทรอยด์เฉยๆ เพราะเราไม่มีอาการอะไรเลยที่คุณหมอบอกมาสำหรับคนเป็นมะเร็งไทรอยด์ หลังจากกลับไปบ้าน คืนนั้นคุยกับที่บ้านคุยคนรอบตัว ร้องไห้จ้า กลัวตัวเองจะพูดไม่ได้ คิดฟุ้งซ่านมาก พอวันต่อมามาทำงาน มีพี่ผู้ใหญ่ของบริษัทแนะนำให้ไปพบคุณหมอที่รักษาพี่เค้า (พี่เค้าก็เป็นมะเร็งไทรอยด์เหมือนกัน) พี่เค้าแนะนำให้เราไปเจอคุณหมอท่านนึง เราก็ไปตามที่พี่เค้าแนะนำเลย เพราะเราก็เชื่อมั่นอย่างนึงเลยเพราะพี่เค้าก็รักษามาก่อนเราแล้ว การไปเจอหมออีกท่านก็ดีนะ เผื่อได้คำแนะนำที่ไม่ต้องผ่าหรือมีอะไรแนะนำให้เราทำ เราก็นัดไปเจอหมอค่ะ คุณหมอก็ถามเราบลาๆ ให้เราบอกรายละเอียดทั้งหมด (เรามีผลการตรวจชิ้นเนื้อและอัลตร้าซาวด์อยู่ในมือตอนนั้นเพราะว่าเราอัลตร้าซาวด์แล้วเราขอให้ทาง รพ. เอาผลใส่ซีดีให้เราไว้ค่ะ) หลังจากคุณหมอที่พี่ผู้ใหญ่แนะนำมา คุณหมอก็บอกว่าเคสเราต้องผ่าจริงๆ เพราะต้องเอาออกทั้งหมด ตอนนั้นในหัวก็คิดละว่าโอเค ผ่าก็ผ่า แล้วทีนี้ให้หัวก็คิดอีกว่า ต้องผ่ากับหมอท่านไหนดีละ เพราะหมอท่านแรกก็แนะนำแบบนี้เหมือนกัน ของเรา เราตัดสินใจเลือกผ่ากับคุณหมอที่พี่ผู้ใหญ่แนะนำมานะคะ และก็ตกลงคุยกับคุณหมอเรื่องวันผ่าตัดทันทีเลย (เคสเราเลือกย้าย รพ ตามคุณหมอนะคะ เป็นความสมัครใจของเราเองที่จะย้ายไปรักษาตามที่คุณหมออยู่ค่ะ)

📚การย้ายโรงพยาบาลไม่มีอะไรมากค่ะ ไปติดต่อ รพ เอาผลตรวจประวัติทุกอย่างที่ รพ เก่าไปให้ รพ ใหม่ค่ะ โดยมีใบส่งตัวจาก รพ เก่าค่ะ ไปพบแพทย์ที่ รพ ใหม่ เพื่อทำประวัติและทำการนัดผ่าตัดค่ะ (ถึงขั้นตอนนี้เราโทรไปแจ้งยกเลิกนัดผ่าตัดทาง รพ เดิมของเราแล้วนะคะ ทาง รพ ก็มีถามเหตุผลกรยกเลิก เราก็ตอบเค้าตามตรงค่ะ ว่าเราย้าย รพ การรักษาค่ะ)

📝หลังจากนำประวัติไปให้ รพ ใหม่เรียบร้อย ทางคุณหมอก็ทำการนัดวันผ่าตัด ทางโรงพยาบาลก็ให้เราแจ้งว่ามีประกันที่ไหนบ้าง ทาง รพ เค้าจะทำ pre claim ให้ค่ะ (ส่วนตัวเราเองมีประกันเหมาจ่ายและประกันโรคร้ายนะคะ) หลังจากจัดการเสร็จเรียบร้อย ก็รอผ่าตัดอีก 7 วันค่ะ (อาจจะดูสงสัยว่าทำไมเร็วจัง เราย้ายตามคุณหมอไปที่ รพ เอกชนค่ะ) ก่อนแยกจากคุณหมอ คุณหมอบอกว่าไม่ต้องกังวลนะ เจอเร็วรักษาเร็ว สบายใจได้เลยนะ เราก็สบายใจไปเปราะนึงแล้ว แต่ถ้าถามว่ากังวลไหม กังวลมากค่ะ มันมีทั้งเรื่องความกลัว เรื่องการรักษาระยะยาว ความกลัวต่างๆที่มันเกิดขึ้นในหัวของเราตอนนั้น ทุกคนรอบตัวของเราบอกว่า ห้ามไปเปิดอะไรอ่านใน google เยอะนะ เพราะกลัวว่าเราจะคิดมาก (ก็ตามที่ทุกคนรู้นั่นแหละเจ็บป่วยอะไร อ่านใน google ก็จะใกล้ ม่องเท่งทันที555)

🌈ความกังวลสิ่งนึงในฐานะผู้หญิงก็คือ ฉันจะมีรอยแผลเป็นที่คอ ไม่นะ กรี๊ดดดด แล้วความคิดในหัวก็ตบตีขึ้นมาว่า เธอแค่แผลเป็นนะจ๊ะ รักษามะเร็งก่อนจ้า แผลเป็นใส่สร้อย ใส่เสื้อคอคอเต่า เสื้อคอสูงหน่อยก็บังไม่เห็นแล้ว เลยดึงสติกลับมาได้ว่าเอ้อ แค่แผลเป็นเอง โชคดีแค่ไหนแล้วที่เจอเร็วได้รักษาเร็ว (อะหยุดมโนเรื่องแผลเป็นและ555)

❤️วันผ่าตัดก็ปฏิบัติตัวตามที่คุณหมอให้คู่มือมาทุกอย่าง นัดเข้าไปพบหมอที่จะต้องผ่าตัดเราเพื่อ mark จุดที่ต้องผ่าตัด ฉีดสีเข้าเครื่องสแกน เข้าห้องเปลี่ยนชุด เพื่อรอเวลาผ่าตัด วันนั้นเราไม่ยอมนอนหลับเลย เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็เข้าห้องผ่าตัดละไงก็ได้หลับอยู่ดี เลยคุยเล่นกับทุกคนเต็มที่เลยย จนคนที่บ้านพูดว่าง่วงก็นอนเถอะอย่าฝืนเลย555555 ละเราผู้สวนไปทันทีว่าเดี๋ยวเข้าห้องผ่าตัดก็ได้นอนแล้ว ทุกคนก็ขำกันหมด (ก่อนผ่าตัดก็ยังติดตลกคุยเล่นบลาๆอยู่จ้า) และแล้วก็ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่เคาะห้องมารับเราไปห้องผ่าตัด ณ ตอนนั้นมีความกังวลหน่อยๆ แล้วเค้าก็เข็นเราไปเตรียมรอผ่าตัดค่ะ ติดอุปกรณ์มากมาย แล้วคุณหมอก็มาคุยกับเราก่อนผ่าตัดเพื่อให้เราไม่ต้องกลัวและไม่ต้องกังวล พอคุยจบคุณหมอให้ดมยา ดมปุ๊ปหลับปั๊ป ยาเค้าดีจริงๆ5555555

🤣ตื่นมาเอื้อ เจ็บคอยกคอไม่ได้ ใช่จ้า ผ่าเสร็จแล้วและเรารู้สึกตัวแล้ว ณ ตอนนั้น เจ็บหน่อยๆ ไม่ได้ปวดอะไรมาก เจ็บแบบทนได้ โอเคฉันลืมตาขึ้นมาได้แปลว่าฉันยังรอดจ้า (ขอบคุณคุณหมอทีมหมอและพยาบาลทุกคน และพระเจ้า555) หลับต่อ หมดกังวล (ไม่ใช่อะไรนะ ยาสลบยังคงมีหลงเหลืออยู่แหละเลยหลับต่อบวกกับไม่ยอมนอนเลยสภาพพร้อมนอนก่อนผ่าตัดสุดๆ5555)

รู้ตัวอีกทีกำลังถูกเข็นกลับไปห้องพักแล้ว ตื่นขึ้นมาก็ใช่จ่ะ กินข้าว เรากินข้าวได้ปกติเลย แต่ก็มีอาหารที่เค้าควบคุมมาให้เลย enjoy eating มาก กินเสร็จหลับ good night😴

🥴ตื่นมา เอ๊ะยกคอไม่ขึ้น ลุกเองไม่ไหว เรียกพี่ที่ดูแลช่วยพยุงด้านหลัง และเราก็เข้าห้องน้ำเองได้ตามปกติเลย พอเห็นตัวเองในกระจก ก็คือคอถูกปิดด้วยผ้าปิดแผล มีกระป๋องเล็กๆสองกระป๋องห้อยออกมา คือกระป๋องระบายเลือดที่คุณหมอใส่ไว้ให้ เราก็มองๆดูตัวเองจากในกระจกทุกอย่าง แต่ตอนนั้นยังเงยหน้าไม่ค่อยได้เพราะคอยังถูกรั้งด้วยเทปแปะตรงแผลผ่าตัด หลังจากออกมาจากห้องน้ำก็มาเจอพยาบาลมารอเจาะเลือดเพื่อวัดค่าแซลเซียม และอื่นๆตามที่คุณหมอ (คุณหมอเคยแจ้งไว้ว่าหลังจากผ่าตัดเอาไทรอยด์แคลเซียมจะตก จึงต้องคอยตรวจเลือดและจะจัดยาให้ถูก)

เราพักรักษาตัวอยู่ รพ ทั้งหมด 3 คืน และก็ออกไปพักรักษาตัวต่อที่บ้าน ปฏิบัติตามที่คุณหมอแนะนำทุกอย่างเพื่อเตรียมตัวไปกลืนแร่ต่อค่ะ ขั้นตอนการปฏิบัติตัวก็จะมีเรื่องการงดไอโอดีน (เครื่องปรุงสามารถหาซื้อได้เลยนะคะ ตามที่ทางพยาบาลแนะนำมา) เราผ่าตัดเอาไทรอยด์ออกปลายเดือนพฤศจิกายน

หลังจากผ่าตัดเอาไทรอยด์ออกไปแล้ว ต้องมีการกลืนแร่ คุณหมอที่ผ่าตัดเรา เขียนส่งตัวให้เราไปพบกับคุณหมอที่แผนกเวชศาสตร์นิวเคลียร์ เพื่อปรึกษาเรื่องการกลืนแร่ คุณหมอก็ให้เราไปเจาะเลือดตรวจค่าต่างๆ

เราผ่าตัดเอาไทรอยด์ออกปลายเดือนพฤศจิกายน กลืนแร่เดือนกุมภาพันธ์ หลังจากผ่าตัดเราทำอาหารทานเองในระยะเวลาที่รอกลืนแร่ เพื่อให้ตัวเองได้ชินค่ะ เพราะปกติแล้วเราจะชอบหาของอร่อยๆตามรีวิว ใครว่าดีใครว่าดังเราก็ไปกินค่ะ

😎สิ่งที่สำคัญที่สุดจากการที่ตัดเอาไทรอยด์ออกไปแล้ว คือเราต้องทานยาฮอร์โมนไทรอยด์ตลอดชีวิต (อ่านไม่ผิดค่ะ ตลอดชีวิต)

หลังจากที่ได้มาพบหมอเวชศาสตร์นิวเคลียร์แล้วคุณหมอจะให้เราทานยาฮอร์โมนไทรอยด์ และมีมีวันหยุดกินยาฮอร์โมนที่ชัดเจนเพื่อเตรียมตัวกลืนแร่ค่ะ

ขั้นตอนการเตรียมตัวกลืนแร่ คุณหมอก็จะมีใบแนะนำให้เราเตรียมของใช้ ผลไม้รถเปรี้ยว และอุปกรณ์ที่เราต้องใช้เพื่อที่เราจะต้องอยู่ใน รพ

วันกลืนแร่ เราก็ไปปฏิบัติตัวตามที่พยาบาลเค้าแนะนำเลยค่ะ ขึ้นไปห้อง เปลี่ยนชุด รอคุณหมอนำแร่มาให้ ระหว่างที่แร่มาถึง ก็จะมีคู่มืออธิบายการกินต่างๆว่าต้องทำยังไงก็ปฏิบัติตามเลยค่ะ (ของเราได้แร่แบบเม็ดนะคะ เหมือนยา 1 เม็ดปกติเลยค่ะ แต่จะมีความใหญ่หน่อยค่ะ) กลืนปุ๊ป รีบนอนเลยค่ะ ไม่รู้ทำไมแต่คิดแค่ว่าคนเราปกติกินยาแล้วก็นอน55555 ตื่นมาจากการกินแร่เข้าไป ก็ปลอกกี่วี่กินเลยค่ะ (ผลไม้รสเปรี้ยวที่เตรียมมาเองนะคะ) ก็กินผลไม้กินข้าวได้ปกติเลยค่ะ กินเสร็จก็ดันถาดไปไว้ที่จุดที่เค้าแจ้งค่ะ เพราะระหว่างที่เรากินแร่เข้าไปแล้วจะไม่ค่อยมีใครเข้ามาพบเรามากค่ะ

🥳ครบวันที่กลืนแร่ ออกจาก รพ เก็บตัวอยู่ในบ้านตามที่หมอแนะนำไม่ใกล้คนแก่ คนท้องและเด็ก ปฏิบัติตามที่หมอแนะนำค่ะ เราออกจากบ้านมาวันที่ รพ นัดมาสแกนทั้งตัวเลยค่ะ เพราะว่าแถวบ้านเราเด็กเยอะเรากลัวว่าตัวเราจะไปเป็นอันตรายต่อเด็กๆ เราเลยไม่ออกจากบ้านค่ะ

😃จนถึงตอนก็จะครบ 1 ปี ของการเจอมะเร็งไทรอยด์และการรักษาของเราแล้วค่ะ คุณหมอก็มีนัดทุกเดือนเผื่อตรวจเลือดเช็คค่าต่างๆของเราค่ะ ทั้งคุณหมอที่ผ่าตัดเรา คุณหมอต่อมไร้ท่อ และคุณหมอเวชศาสตร์นิวเคลียร์ (คุณหมอเวชศาสตร์นิวเคลียร์จะนานๆนัดทีค่ะ จะนัดเป็นตามระยะเวลาของการรักษาค่ะ)

❤️ถ้าใครพึ่งเจอหรือกำลังรักษาตัวอยู่ เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะ อดทนกับการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับตัวให้กับตัวเองนะคะ สู้ๆนะคะ❤️

💪🏻👉🏻สิ่งนึงที่เราอยากแนะนำเพื่อนๆทุกคนเลยคือการซื้อประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายนะคะ เราเองไม่ใช่คนขายประกันค่ะ สำหรับบางท่านเราเข้าใจนะคะว่าอาจจะไม่มีเงินพอที่จะมาแบ่งจ่ายค่าประกันอันนี้เราเข้าใจดีมากๆค่ะ ตัวเราเองตอนที่เริ่มซื้อประกันก็ซื้อแบบจ่ายรายเดือนค่ะ เหตุผลที่ทำให้เราซื้อประกันคือเราเคยเข้า รพ ค่ะ แล้วที่บ้านเราหมดเงินกับการรักษาเรามากพอสมควรเราเลยคิดว่าถ้าเราพอจะมีเงินจ่ายรายเดือนได้เราจะซื้อประกันให้ตัวเองค่ะ ดีใจมากเหมือนกันค่ะที่คิดแบบนั้นไว้ ค่ารักษาจากการผ่าตัดมะเร็งไทรอยด์ การกลืนแร่ ประกันเราจ่ายให้หมดเลยค่ะ แต่จะมีส่วนต่างตรงค่าห้องนิดหน่อยค่ะ (ตอนนี้เราเองซื้อประกันเพิ่มไม่ได้ อาจจะด้วยการที่เราเป็นมะเร็งไทรอยด์ ประกันที่เรามีอยู่ตอนนี้เราจะต้องรักษาไว้ให้ดีอย่าให้ขาดเลยค่ะ)👈🏻💪🏻

🙏🏻หวังว่าเรื่องราวขั้นตอนการรักษาของเราจะเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆที่กำลังเจอเหตุการณ์แบบเรานะคะ เพื่อนๆจะได้ไม่ต้องวิตกกังวลมากเรื่องขั้นตอนการรักษานะคะ

📌เคสเราเป็นเคสที่ตรวจไม่เจอในเลือดนะคะ คุณหมอเลยขอเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจค่ะ

📌ในประวัติครอบครัวไม่มีใครเป็นมะเร็งค่ะ เราคนแรกค่ะ 😅

📌ตรวจเจอมะเร็งไทรอยด์ตอนอายุ 28 ปี

❤️คุณหมอที่ผ่าตัดให้เราและทุกท่านน่ารักมากๆค่ะ เราสามารถแนะนำเผื่ออยากปรึกษาคุณหมอได้นะคะ ❤️

#ต่อมไทรอยด์ #โรคไทรอยด์ #มะเร็งไทรอยด์ #สุขภาพ #มะเร็ง #ติดเทรนด์ #การรักษา