Lemon8 Video Downloader

The easiest way to download video and gallery from Lemon8 app

6 วิธีฝึกภาษาให้ง่ายใช้ได้ตลอดชีวิต

6 วิธีฝึกภาษาให้ง่ายใช้ได้ตลอดชีวิต

Desktop: Right-Click and select "Save link as..." to download.

PHOTOS
6 วิธีฝึกภาษาให้ง่ายใช้ได้ตลอดชีวิต JPEG Download

1. ยอมรับว่าคุณยังรู้น้อย🤔

ขั้นแรกของการเติมความรู้ใดก็ตาม ยิ่งความรู้ที่คุณต้องการจะได้รับมากเท่าไรแล้ว คุณยิ่งต้องทำตัว “โง่” มากเท่านั้นครับ เพราะหากคุณเข้าข้างตัวเองว่า ฉันเก่งแล้ว ฉันแม่นแล้ว ฉันดีแล้ว คุณก็จะขยับไปจุดต่อไปได้ยากหรือแทบไม่พัฒนามากนัก

ตัวอย่างเช่นนี้มีให้เห็นมาเยอะในการฝึกภาษา หลายครั้งเรามักพบว่าคนที่โฆษณาตัวเองดิบดีหรือเกทับว่าตนมีความรู้ด้านภาษามากกว่า สุดท้ายเมื่อต้องเจอสถานการณ์ที่ต้องใช้ภาษาจริงกลับเงียบเป็นใบตองแห้ง หรือตัวเราเองก็ยังเคยจะบอกตัวเองว่าเพียงเท่านี้เกินพอแล้วและกลับกลายเป็นตัวเราในวันนี้ที่จะกลับมาตั้งใจพัฒนามันใหม่

“ถ้าคุณถามแล้วดูโง่ คุณก็โง่แค่ตอนนี้ แต่ถ้าคุณไม่ถามเพราะกลัวโง่ คุณก็จะโง่ตลอดชีวิต”

.

2. ทำให้ภาษาเป็นเรื่องสนุก🎉

ผมไม่สนับสนุนให้คุณฝึกภาษาด้วยการเรียนแบบเข้มงวด ไม่สนับสนุนให้คุณไปลงคอร์สแพง ไม่สนับสนุนให้คุณจัดตารางแน่นเพื่อภาษา ไม่เอาสนับสนุนแน่นอน

การฝึกภาษาสักภาษาไม่ได้เกิดจากการถูกบังคับนะครับ มันเกิดจากการเรียนรู้จากประสบการณ์และการขัดเกลาทางสังคม นึกตอนตัวเองหัดภาษาไทยครั้งแรกสิ มีใครไปบังคับให้คุณพูดว่า “พ่อ แม่” รึเปล่า แล้วคำว่า “OK” ล่ะ มีใครไปบังคับให้คุณรู้จักใช้มันไหม แล้วคำว่า “I get it” ล่ะ ไม่มีใครบอกหรือบังคับให้คุณเรียนรู้วิธีใช้มัน หากแต่คุณเรียนรู้มันจากประสบการณ์ของคุณเองว่า “OK แปลว่า ตกลง” และ “I get it. แปลว่า ฉันเข้าใจ” แล้วเราก็ใช้มันเรื่อยมาโดยลืมไปแล้วว่าต้องใช้คำพวกนี้ในบริบทไหนเพื่อสื่อความหมายอะไร เพราะเราใช้มันโดยธรรมชาติ ไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าคำว่า “OK” เป็นคำที่ถูกบังคับให้เด็กๆเรียนในวิชาภาษาอังกฤษและจริงจังว่าต้องใช้ในเวลาไหนหรือสถานการณ์ใด ทุกวันนี้คำว่า “OK” คงไม่แพร่หลายในภาษาไทย เหมือนกับคำว่า “I no have something.” ซึ่งผิด! ทั้งที่เป็นคำง่ายๆ แต่ระบบการศึกษาเข้มงวดกับการสอนเรื่อง “Have” จนคำง่ายๆอย่าง “มี” หรือ “ไม่มี” กลายเป็นเรื่องที่หลายคนใช้ผิดและไม่อยากจะแก้

การฝึกภาษาที่ดี คือ การฝึกด้วยความสนุกโดยไม่ถูกบังคับหรือกดดันจากสิ่งแวดล้อม ตรงกันข้าม สิ่งแวดล้อมรอบตัวควรเป็นบันไดช่วยส่งเสริมการฝึกภาษาของเรามากกว่า เช่น เล่นมุกตลกภาษาอังกฤษกับตัวเอง ทายคำศัพท์จากสิ่งของรอบตัว หยอดบทสนทนากับเพื่อนสักหน่อย หรือถ้าจะลงคอร์สเรียนก็ขอให้หาคอร์สที่มั่นใจว่าทำให้เราสนุกไปกับมัน ไม่ใช่ค่อยพะวงว่าจะเรียนไม่ทันเนื้อหา

.

3. ฟัง พูด อ่าน เขียน🎧🗣️📖✍️

ไม่ว่าคุณจะฝึกภาษาอะไรก็ตาม ทุกภาษาล้วนต้องผ่านกระบวนการ “ฟัง พูด อ่าน เขียน” จึงจะให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

นึกภาพตอนคุณยังเด็กตัวเล็กไม่ถึงชั้นหนังสือ คุณในเวลานั้นเริ่มต้นจากการฟังพวกผู้ใหญ่คุยกัน ผ่านไปหลายเดือนก็เริ่มพูดเพื่อเรียกร้องหรือร้องขอ เช่น “แม่!!!!” พอเริ่มถึงวัยเข้าเรียนได้ ครูในชั้นอนุบาลจะเริ่มสอนคุณอ่านพยัญชนะ ตามด้วยสระ ตลอดจนการออกเสียงในภาษาไทย รวมถึงพวกมาตราตัวสะกด สุดท้ายคุณก็จะได้รับแบบฝึกหัดคัดลายมือภาษาไทยติดตัวกลับมาบ้านให้เขียนทุกวัน

จะเห็นได้ว่า การเรียนภาษานั้นต้องใช้เวลาและมีกระบวนการเรียนรู้ของมันเอง คุณเพียงต้องให้เวลาตัวเอง อย่าไปรีบร้อน เริ่มฝึกไปตามขั้นตอนที่เป็นธรรมชาติการเรียนรู้ของมนุษย์ ถ้าวันนี้เริ่มต้นภาษาอังกฤษคุณเพียงเริ่มฟังภาษาอังกฤษให้มากขึ้น ฟังข่าว ฟังเพลง ดูหนัง/ซีรีส์ (โฟกัสไปที่ภาษาอังกฤษมากกว่าซับไทเทิล) เมื่อการฟังเริ่มง่ายและคุณเริ่มจับจังหวะได้ก็ให้ลองพูดตาม พูดภาษาอังกฤษออกมาให้มากและบ่อยขึ้น จนการฟังและการพูดภาษาอังกฤษกลายเป็นเรื่องปกติของคุณแล้วมันจะเริ่มซึมซับลงไปในสมอง หลังจากนั้นให้ลองอ่าน จะหนังสือหรือบทความ จะสั้นหรือยาวได้หมด และสุดท้ายคุณจะพบว่าตอนนี้คลังคำศัพท์คุณมากพอสมควร เมื่อคุณฝึกเขียนภาษาอังกฤษมันจะไม่ยากในการนึกคำที่จะเขียนลงไปอีกเลย

.

4. หาเพื่อนคุย (คุยกับอะไรก็ได้)🗨️🤝

การฝึกภาษาจะง่ายขึ้นเป็น 10 เท่า หากคุณมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่ยินดีจะช่วยคุณในการฝึกภาษาผ่านบทสนทนา ลองหาเพื่อนรอบตัวของคุณหรือคนรู้จักสักคนก็ได้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเจ้าของภาษาเสมอไป อาจเป็นคนที่ไม่แม่นภาษาแต่มีความต้องการพัฒนาทักษะภาษาก็ได้ ขอเพียงพวกคุณได้ลองมีบทสนทนาในภาษาที่สนใจร่วมกัน เรื่องง่ายเช่นวันนี้เป็นยังไงบ้างก็จะกลายเป็นหัวข้อที่คุณได้สนุกสนานขึ้นมาเป็นเท่าตัว

ถ้าคุณไม่มีใครจะคุยด้วยเลยในภาษาที่สนใจ ทุกวันนี้มีแอปดีๆและช่องทางมากมายให้ได้มีบทสนทนากับผู้คนที่ยินดีจะใช้ภาษานั้นคุยกับคุณ เช่น HelloTalk แอปพลิเคชันพูดคุยกับชาวต่างชาติ หรือใช้โซเชียลมีเดียช่วย เช่น Reddit เว็บบอร์ดที่นิยมในสหรัฐอเมริกา ผมชอบใช้พิมพ์ถามตอบกับชาวต่างชาติในนั้น

อีกกรณีคืออยู่คนเดียวไม่มีเทคโนโลยี ถ้าเป็นกรณีนี้ผมมักจะเล่นโรลเพลย์คุยสถานการณ์ขึ้นคล้ายกับเล่นละครคนเดียวอะไรแบบนั้น จะว่าน่าขำก็ได้ครับ แต่ทำไปทำมามันให้ประโยชน์มากเลยนะ ทำให้เราสนุกกับการใช้ภาษาในสถานการณ์ที่เราจำลองขึ้นมา ยิ่งอยู่คนเดียวแล้วยิ่งกล้าพูดโดยไม่เขินทำให้บางครั้งก็เผลอใช้ประโยคที่ดูตลก แต่ก็ช่วยพัฒนาความคล่องได้ดีเลย

.

5. เลิกยึดติดกับแกรมม่าเถอะ pls…📏✏️

มีใครเคยสอนแกรมม่าในภาษาไทยไหม อ๋อ เผื่อไม่ทราบ ภาษาไทยเราก็มีแกรมม่านะแต่เราเรียกว่า "ไวยากรณ์" หมายถึง หลักการและกฎที่ใช้เพื่อสร้างประโยคและการใช้คำให้ถูกต้องตามแบบแผน แน่นอนว่า มีครูภาษาไทยที่สอนเราแน่ๆ แต่พวกคุณจำมันได้ไหมล่ะ?

ภาษาอังกฤษเช่นกัน แกรมม่านั้นจำเป็นแน่หากคุณต้องเขียนรายงาน เรียนต่อต่างประเทศ ต้องนำเสนอต่อเจ้านายต่างชาติ และอื่นๆที่เป็นทางการ แต่หากคุณเป็นผู้ที่เริ่มต้นหรือมีเป้าหมายเพียงแค่อยากสื่อสารกับชาวต่างชาติเท่านั้น แกรมม่าก็ไม่ได้จำเป็นมากมายขนาดนั้นเลย

การจำกัดตัวเองเอาไว้ว่า “ที่ฉันพูดไปจะถูกต้องไหมนะ” ถูกต้องจากอะไรกันล่ะ? แกรมม่าหรอ? ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก ภาษาถูกใช้เพื่อสื่อสาร ขอแค่คุณพูดออกไปแล้วสื่อความหมายได้เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว หากมีข้อผิดพลาดในการสื่อสารเช่นใช้คำผิดก็แค่พูดใหม่เท่านั้นเอง ขนาดเราคนไทยหลายครั้งยังใช้ภาษาโดยไม่คิดถึงหลักไวยากรณ์เลย เช่น “เดี๋ยวนี้เที่ยวยับเลยนะ” คำว่า ‘ยับ’ ไม่ถูกต้องตามไวยากรณ์ แต่เราก็เข้าใจว่าจะสื่ออะไร ขณะที่ภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน เช่น “She real nice.” แทนที่จะเป็น "She is really nice."

.

6. เน้นใช้จริง ไม่เน้นท่องศัพท์💪🌱

กว่าจะพูดถึงการท่องศัพท์ได้ก็เล่นมาซะข้อสุดท้ายเลย ไม่ใช่ว่าผมไม่ให้ความสำคัญต่อการท่องศัพท์แต่อย่างใดเลยนะ เพียงแต่การจะจดจำศัพท์นั้นได้ยั่งยืนหรือถาวรมันอยู่ที่เราใช้มันบ่อยแค่ไหนมากกว่าจำเอาไว้เพื่อใช้เพียงสอบเท่านั้น

“พาณิชย์” หมายถึงอะไรครับ? ผมเชื่อว่าหลายคนรู้ถึงความหมายของคำนี้แน่ แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ใช้หรือได้เขียนมันมานานแล้ว ลองถามตัวเองดูสิครับว่าครั้งสุดท้ายที่เขียนคำว่า “พาณิชย์” คือเมื่อไร แล้วทำไมถึงยังจำมันได้อยู่ อีกกรณีคือคำว่า “zebra” ไม่ต้องเขียนความหมายคุณก็น่าจะแปลออกตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว ทั้งที่คุณแทบไม่ได้เจอสัตว์ตัวนี้หรือสนใจเกี่ยวกับมันเลย

แน่นอนว่าการฝึกคำศัพท์เป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างประโยค แต่การท่องคำศัพท์ไปเรื่อยๆ เอาแต่ยัดเข้าไปไม่หัดใช้ สุดท้ายมันไม่ยั่งยืนและลืมไปในที่สุด การนำคำศัพท์ใหม่ๆออกมาใช้เรื่อยๆจนเป็นคำคุ้นปากจะช่วยให้การท่องจำศัพท์กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย

.

💡แถม: แม้สุดท้ายแล้วการฝึกภาษาของเราจะคล่องแคล่วมากแค่ไหน เราจำเป็นต้องหมั่นทบทวนหรือใช้เวลากับภาษานั้น ไม่เช่นนั้นจะล้างลาหายจากภาษานั้นไปจนสุดท้ายเราลืมได้ เช่น "อริยชน" ภาษาไทยเราแต่หากเราไม่ได้ใช้เลยก็ไม่รู้จักคำนี้และลืมไป กระทั่งคนที่เรียนจบจากต่างประเทศแล้วกลับมาไทยก็ยังมีเวลาให้กับการอ่าน ฟัง หรือหาเพื่อนคุยภาษาให้ตัวเองไม่ลืม ดังนั้น การจะฝึกภาษาอะไรอย่าคิดแค่ตอนสำเร็จ แต่ให้คิดถึงการรักษาภาษานั้นเอาไว้กับเราด้วย

.

เขียนโดย: ซอค

#ภาษาอังกฤษ #ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง #ฝึกภาษาอังกฤษ #พัฒนาตัวเอง #เรียนภาษาอังกฤษ