La forma más fácil de descargar videos y galerías desde la aplicación Lemon8
Escritorio: haga clic con el botón derecho y seleccione "Guardar enlace como..." para descargar.
PHOTOS | |||
JPEG | Descargar | ||
JPEG | Descargar | ||
JPEG | Descargar | ||
JPEG | Descargar | ||
JPEG | Descargar | ||
JPEG | Descargar | ||
JPEG | Descargar | ||
JPEG | Descargar |
สวัสดีค่ะทุกคนนนน หลังจากที่ นช ดองแพลนมานาน
วันนี้จะมารีวิวแพลนเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน พร้อมงบประมาณ
จะมีเรื่องตื่นเต้นอะไรเกิดขึ้น มาเริ่มกันเลยย
✈️Day 1
เราออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 18.10 ด้วยสายการบิน Philippines Airline
จะไปถึงที่สนามบิน Ninoy Aquino Airport ประมาณ 22.40 เพื่อรอต่อเครื่องประมาณ 9 ชั่วโมง
(Philippines จะเวลาเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงนะคะ)
ตอนนั้นได้มา 12,680 บาท ซึ่งเป็น Full service ที่ถูกสุดในช่วงนั้นค่ะ
ซึ่งบอกก่อนเลยว่าถ้าเดินทางกับครอบครัวหรือผู้ใหญ่ ไม่ค่อยแนะนำให้มารูทนี้
เนื่องจากเวลาต่อไฟลท์ค่อนข้างนาน เก้าอี้ที่สนามบินนอนไม่ค่อยสบาย และต้องมีการขึ้น-ลงด้วยบันไดค่อนข้างเยอะค่ะ
✈️Day 2
วันนี้จะเป็นวันที่เราเดินทางไปญี่ปุ่นกันค่ะ แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นค่ะ
😱ช็อตแรก เครื่องดีเลย์ 1 ชั่วโมง จาก 7.30 เป็น 8.30 และมีการให้เปลี่ยนเกทไปมา (ซึ่งก็ต้องขึ้น ๆ ลง ๆ บันไดหลายรอบมาก)
😱ช็อตสอง เมื่อเราออกเดินทางได้ซักพัก กัปตันแจ้งว่าเครื่องบินมีปัญหา ต้องบินกลับสนามบิน Ninoy Aquino
จากนั้นเราก็นั่งรอบนเครื่องอีกนานเลยค่ะ (แบบไม่รู้ว่าชีวิตฉันจะเป็นยังไงต่อนะ)
ตอนแรก เราจะต้องถึงญี่ปุ่นตอน 13.00 กลายเป็นว่า เราเพิ่งได้ออกจาก Philippines ตอน 13.39
กว่าจะถึงญี่ปุ่นก็ทุ่มกว่าค่ะ (ปล. เราก็นั่งเจ้าเครื่องเดิมที่มีปัญหา ที่ซ่อมแล้วมานั่นล่ะค่ะ แง)
🏨 เราพักกันที่โรงแรม ย่าน Asakusabashi ชื่อ Hotel Route inn-inn Grand Tokyo (5,110 บาท/คน/3 คืน)
ซึ่งสายที่สะดวกกับเราในการนั่งจากสนามบิน Narita คือคือ Keisei Sky Access (สายสีส้ม)
เราซื้อบัตร Pasmo อายุ 28 วัน ราคา 1500 JPY ที่สถานีได้พอดี
ซึ่งพวกเรารอดอย่างหวุดหวิด ทันขบวนสุดท้ายเวลา 20.41 ค่ะ (นายสถานีบอกวิ่งเร็วววว)
🍣พอถึงโรงแรม เรารีบวางกระเป๋า (โยน) เสร็จ พวกเรารีบบึ่งแท็กซี่ตรงไปที่ร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูที่ใกล้พวกเราที่สุดคือ สาขา Akihabara
22.00 พวกเราก็มาถึงร้าน Shabu Yo คนละประมาณ 2,800 JPY
พนักงานที่ร้านก็ถามพวกเราว่ากินได้แค่ชั่วโมงเดียวนะ แน่ใจนะ เพราะร้านจะปิดตอน 23.00
พวกเราก็หนักแน่นมาก พอได้เข้าร้านก็รีบสั่ง รีบกิน (สภาพคือแร้งลงมากค่ะ 555)
ต้องบอกว่าเนื้อ หมู คุณภาพดีเลยค่ะ มีเส้น ผัก ซูชิไม่อั้น
กินอาหารเสร็จ พวกเราก็ไปเดินเล่นที่ Don Quijote สาขา Akihabara (เปิด 24 ชั่วโมง) จนถึงตี 1 กว่า
เราก็นั่งแท็กซี่กลับโรงแรมกันค่ะ
✈️Day 3
วันนี้พวกเราจะไปเที่ยวภูเขาไฟฟูจิกันค่ะ (ส่วนเพื่อนอีกคนไปลุยเดี่ยว Fuji-Q ค่ะ)
ซึ่งเราก็ประเดิมตื่นสายกันเลยค่ะ (เจอที่นอนดูดวิญญาณ + นอนไม่พอตั้งแต่คืนแรกที่รอเปลี่ยนเครื่อง)
ด้วยความดีงามว่าจากโรงแรมไปรถไฟฟ้าไม่ไกล พวกเรารีบวิ่งไปขึ้นรถไฟจาก Asakusabashi > Shibuya sta.
แล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถบัสที่ Shibuya Mark City bus station ซึ่งทุกอย่างลงล็อค ทันเวลาพอดี
ค่าโดยสารไปกลับ จากสถานี Shibuya - Kawaguchiko - Shinjuku คนละ 4,300 JPY ขาไปใช้เวลาประมาณ 2.20 ชั่วโมง
🗻พอถึงสถานี Kawaguchiko เรารีบไปเติมพลังงานและถ่ายภาพที่ Lawson สาขาที่คุณฟูจิเป็น Background
จากนั้นไปซื้อ Pass รถบัส+กระเช้า+นั่งเรือชมทะเลสาบ คนละ 2,800 JPY
โดยเราจะเดินทางด้วยรถบัสสายสีแดงเป็นหลักค่ะ
✅ เริ่มจากขึ้น Ropeway ไปดูวิว
✅ แวะซื้อคุ้กกี้รูปภูเขาไฟฟูจิที่ร้าน Fujiyama Cookie
✅ นั่งเรือชม Lake Kawaguchi (ต้องดูเวลาดี ๆ นะคะ เขามีเวลาออกเรือเป็นรอบ ๆ ค่ะ)
✅ ปิดท้ายด้วยการเดินเล่นที่ Oishi park (สุดสายสีแดง) กินไอศกรีมเย็น ๆ แล้วรีบนั่งกลับมาที่สถานี Kawaguchiko
✅ เติมพลังงานก่อนกลับโตเกียวด้วยเทมปุระแสนอร่อยที่ร้าน Fuji Tempura Idaten
วัตถุดิบสดหวานอร่อยดี ซุปข้าวไม่อั้น แต่เขาน่าจะรีบทอดไปนิดนึง เพราะลูกค้าเยอะ คนละ 2,600 JPY ค่ะ
นั่งรถบัสกลับ Shinjuku รอบ 18.40 เดินทางประมาณ 2.20 ชั่วโมง
ได้ไปเดินช็อปปิ้ง Uniqlo อีกนิดหน่อย พวกเราก็ไปจบที่ Don Quijote แถวที่พักอีกตามเคย
✈️Day 4
วันที่ทุกคนในทริปรอคอย วันนี้ เราจะไป โตเกียวดิสนีย์แลนด์ กันค่ะ
เราซื้อตอนมีโปรโมชันของ Klook ในราคาคนละ 2,360 บาท
เราตื่นกันแต่เช้า เพื่อให้ไปถึงที่สวนสนุกเร็ว ๆ
ถึงสวนสนุกตอน 08.30 เพื่อมาพบว่า คนเยอะมากฮะคุณน้าาาาาา
🎢ที่โตเกียว จะมีเครื่องเล่นที่มีเฉพาะที่นี่คือ Beauty and the beast
แต่คิวยาวแบบมากกก พวกเราเลยตัดสินใจซื้อ Fast pass ราคา 2,000 JPY
เครื่องเล่นทำออกมาแบบชมเพลิน ๆ เหมือนเราอยู่ในงานเต้นรำ น่ารักดีค่ะ
เราแนะนำว่า ก่อนมาควรวางแผนมาก่อนว่าอยากเล่นอะไรบ้าง
แพลนคร่าว ๆ จากเวลารอเครื่องเล่นในวันก่อน ๆ ผ่าน app Disneyland เพื่อช่วยตัดสินใจค่ะ
และเนื่องจากร้านอาหารแต่ละจุดคนเยอะมาก เราเลยพกข้าวปั้น แซนวิช ไปกินกันด้วยค่ะ
มีลองกินขนมและอาหารว่างนิดหน่อย เช่น โมจิยอดฮิต ไอศกรีม น่องไก่บาร์บีคิว และป๊อปคอร์น
🥩ปิดท้ายวันด้วยร้านเนื้อย่างแถวที่พัก ซึ่งอร่อยมากแม่
ที่สำคัญราคาไม่แรงด้วยเมื่อเทียบกับคุณภาพ ชื่อร้าน 炭火焼肉ホルモンみなみ
พิกัดร้านร้านนี้ค่ะ 炭火焼肉ホルモンみなみ
มื้อนี้ตกคนละ 900 บาทค่ะ
✈️Day 5
🍣 แพลนวันนี้ คือการไปเที่ยวตลาดปลา Tsukiji กินข้าวหน้าอูนิตามอินฟลู เซเลปค่ะ
พอไปถึงตอน 7.00 ก็มีคิวอยู่ประมาณนึงแล้วแต่ก็ถือว่ารอไม่นาน
เพื่อนเราสั่งเป็นแบบอูนิล้วน (5,900 JPY) ส่วนเรามีปลาด้วย (4900 JPY)
ถ้าถามเรารสชาติมันก็โอเคนะแต่อาจจะไม่ได้ว้าวมาก และราคาค่อนข้างแรงเลยค่ะ
⛩️จากนั้นเราก็ไปไหว้พระเป็นศิริมงคลที่วัด วัดเซ็นโซ ซึ่งก็คนเยอะมากเช่นเคย
พวกเราไปเราไปเสี่ยงเซียมซีกัน แล้วคือ 3 จาก 4 คนได้ไม่ค่อยดี
เราเลยผูกเซียมซีไว้ที่วัดและซื้อเครื่องรางกลับมาเพื่อความอุ่นใจด้วยค่ะ
จริง ๆ หลังวัดมีไอศกรีมชาเขียว ที่มีความเข้มให้เลือกหลายระดับ
แต่คิวอีก เกือบ 1 ชั่วโมง เราเลยต้องตัดใจ เพราะเราจองเที่ยวสตูดิโอแฮรี่ พอตเตอร์ไปค่ะ
✨นั่งรถไฟจากสถานี Asakusa ไปสถานี Toshimaen ไปอีกเกือบชั่วโมง
เพื่อมาที่ The Making of Harry Potter
ตอนนั้นบัตรขายหมดไวมาก ส่วนเราได้บัตรจาก ทริป.คอม ราคา 1,500 บาท
บอกก่อนเลยว่าถ้าใครเป็นสาวกแฮร์รี่ พอตเตอร์ไม่ควรพลาดและควรเผื่อเวลาไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง+
ขนาดเราไม่ได้เป็นสาวกและไม่อินมาก ยังรู้สึกว้าวเลยค่ะ
มีกิจกรรมให้ทำ มีฉากสวย ๆ ให้ดูตลอดเวลาที่เดินในสตูดิโอ
นั่งพักจิบบัตเตอร์เบียร์หวาน ๆ เย็น ๆ (ราคา 1,100 JPY แก้วเอากลับได้เลยค่ะ)
รู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่นี่เกินเวลาจากที่ตั้งไว้ซะแล้ว
🍜คืนนี้เราจะไปนอนกันที่เมือง Narita เพื่อรอขึ้นเครื่องไฟลต์เช้าวันรุ่งขึ้น
ก่อนไป ขอแวะกิน Ichiran Ramen หรือราเมนข้อสอบ แสนอร่อย
ในที่สุด เราก็มาถึงโรงแรม Hotel Welco Narita (คนละ 858 บาท/คืน)
ต้องบอกก่อนเลยว่าโรงแรมที่เรานอนคืนนี้อาจจะดูค่อนข้างเก่า
แต่ข้อดีก็คืออยู่ติดสถานีรถไฟมาก ตื่นเช้ามาก็ลากกระเป๋าไปสนามบินได้เลย
✈️Day 6
เราได้ไฟลท์บินเช้าออกจากญี่ปุ่น ซึ่งขากลับเราไม่มีดีเลย์แล้วนะคะ
แต่สุดท้ายทริปจะจบสวย ๆ ไม่ได้ เพราะหูจับกระเป๋าเราหักตอนมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิค่ะ
จบทริปนี้รวมทุกอย่างแล้วไม่รวมค่าช้อปปิ้งจะอยู่ประมาณ 33,315 บาทค่ะ
จากประสบการณ์การเดินทางครั้งนี้ ในการเดินทางวันแรกไม่แนะนำให้มีการเดินทางไปไหนต่อ เช่นนั่งรถไฟ/รถบัสข้ามเมือง
เนื่องจากถ้าเกิดไฟลท์ดีเลย์ ก็อาจจะทำให้แพลนรวนไปเลยค่ะ
และที่สำคัญ ควรซื้อประกันการเดินทาง อย่างน้อยกระเป๋าเราที่พัง ประกันก็ให้เราเอาไปซ่อมแล้วเอามาเคลมค่าใช้จ่ายค่ะ
ขอให้ทุกคนเที่ยวให้สนุกนะค้า เอ็นจอยค่าา 🫶🏻
#ติดเทรนด์ #เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวญี่ปุ่น #tokyodisneyland #themakingofharrypotter #ป้ายยากับlemon8 #เที่ยวไหนดี #kawaguchiko #ทริคท่องเที่ยว #Japan