Lemon8 Video Downloader

The easiest way to download video and gallery from Lemon8 app

ที่เหตุผลแย่ที่สุดและเสียความรู้สึกสุดๆ

ที่เหตุผลแย่ที่สุดและเสียความรู้สึกสุดๆ

Desktop: Right-Click and select "Save link as..." to download.

PHOTOS
ที่เหตุผลแย่ที่สุดและเสียความรู้สึกสุดๆ JPEG Download
ที่เหตุผลแย่ที่สุดและเสียความรู้สึกสุดๆ JPEG Download
ที่เหตุผลแย่ที่สุดและเสียความรู้สึกสุดๆ JPEG Download
ที่เหตุผลแย่ที่สุดและเสียความรู้สึกสุดๆ JPEG Download
ที่เหตุผลแย่ที่สุดและเสียความรู้สึกสุดๆ JPEG Download
ที่เหตุผลแย่ที่สุดและเสียความรู้สึกสุดๆ JPEG Download
ที่เหตุผลแย่ที่สุดและเสียความรู้สึกสุดๆ JPEG Download
ที่เหตุผลแย่ที่สุดและเสียความรู้สึกสุดๆ JPEG Download

เริ่มจากการทำงานร่วมกับคนอื่นเลยละกันนะคะ ทำทำงานร้านนี้มา 8 เดือน ทำตำแหน่งบาริสต้าเราเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดแต่ก็พยายามที่จะปรับตัวตลอดเพื่อให้เข้ากับคนอื่นให้ได้เพราะต้องทำงานร่วมกันเพราะเราเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดเราเลยมักจะแสดงออกมาทางการกระทำคือคอยไปช่วยทำงานส่วนต่างๆเช่นมีอะไรให้ช่วยมัย มีเอกสารตรงไหนหรืออะไรที่ไม่เข้าใจถามได้นะ มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ เราเต็มใจช่วยไม่เคยคิดว่ามันเป็นการโยนงานมาให้เราหรืออย่างไรเพราะเสนอตัวว่าจะช่วยเอง เราอายุ 22 ปีซึ่งมากสุดในร้าน ร้านนี้จะไม่มีผู้จัดการเจ้าของร้านบอกว่าอยู่กันแบบครอบครัว(เน้นว่าครอบครัว) การทำงานร่วมกันกับคนอื่นก็ผ่านไปได้ด้วยดีน้องก็ดูพึงพอใจที่เราเป็นแบบนี้ เราไม่เคยมีความคิดที่ว่าเราอายุมากกว่าน้องๆต้องมาฟังเราสั่งเราก็คุยกับน้องๆตรงๆว่าเราโตๆกันแล้วคงไม่ชอบให้ใครสั่งบังคับให้ทำหรอกเนาะน้องก็โอเคก็อยู่กันมาแบบไม่เคยทะเลาะกัน เวลามีเรื่องอะไรมาเราก็ไม่เคยทำเอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้งเราก็จะถามทุกคนในร้านตลอดว่าแบบนี้ดีมัยแบบนั้นดีมัย (มันดูไม่มีอะไรถูกมัยคะ?) จุดเริ่มต้นมันมาหลังจากนี้ค่ะ แฟนเราพึ่งได้งานใหม่ก็ทำมาได้จน1-2เดือน เราเองก็มีความคิดที่จะเปลี่ยนงานเพราะถึงจุดอิ่มตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร ด้วยความที่เราเชื่อใจความซื่อของเราไม่เคยคิดว่าจะมีใครคิดร้ายกับเราหรอกทำงานมากันขนาดนี้แล้ว เราก็ปรึกษาน้องแคชเชียร์ว่าเราจะแจ้งลาออกล่วงหน้าตอนไหนดีล่วงหน้ากี่วันดีหรือ1เดือนไปเลยน้องกลับแนะนำให้เราออกแบบไม่บอกออกไปเลยได้เงินแล้วไปเลย เราก็ปฏิเสธแจ้งดีๆกว่าหลังจากนั้นเราก็ไปบอกเจ้าของร้านว่าหนูมีเรื่องจะคุยนะหนูว่าจะลาออกบลาๆเหมือนเรื่องมันจะไปถึงหูเขาก่อนที่เราจะบอกอีก? เจ้าของร้านมาถึงร้านเขาก็ไม่ได้คุยอะไรกับเราแต่ไปไล่คุยกับน้องๆทีละคนเราก็คิดว่าเขาคงสงสัยแหละว่าทำไมเราถึงออกเลยไปไล่ถามแต่ไม่ได้มาถามอะไรเราเราก็ปล่อยไป แต่หลังจากวันนั้นทุกคนเปลี่ยนไปเราถามว่ามีอะไรให้ช่วยมัยบางทีก็ไม่ตอบบางทีก็บอกไม่เป็นไร เราไม่ใช่พวกชอบตื้อเขาตอบมาว่าไงเราก็ว่างั้น แต่พอเราชวนคุยเล่นทุกคนก็ไม่คุยด้วยแบบงงๆ เดินไปใกล้ก็เดินหนี เราก็ไม่รู้จะทำอะไรเลยเดินหาอะไรทำไปทั่วเช่นเช็ดถูปัดกวาดรอบร้านยืนหน้าตู้เค้กแทนน้องที่ไปเข้าห้องน้ำบ้าง จนมาถึงวันที่เจ้าของร้านจะคุยกับเรา มาถึงก็ดึงหน้าทำท่าทางไม่พอใจใส่ แล้วก็เริ่มพูดเลยว่าฉันมีเรื่องจะคุยกับแกแกจะลาออกก็ออกไปคนเดียวสิทำไมถึงทำแบบนี้ เราก็งงหนูไปทำอะไรคะ แกไปยุให้น้องลาออกทำไม เราก็ถามหนูไปยุตอนไหนคะ ก็แกไปถามน้องว่าทำไมไม่ไปทำที่อื่นทนทำอยู่ที่นี่ทำไมเงินก็น้อยทำไมไม่ทำที่อื่นที่ดีกว่านี้ เราก็เลยบอกว่าเดี๋ยวก่อนนะคะหนูก็พึ่งรู้วันนี้ค่ะว่าพูดแบบนั้นด้วยแต่ถ้าทำนองนั้นอาจจะใช่แต่หนูไม่ได้พูดแบบนี้นะคะ ตอนนั้นน้องพึ่งมาฝึกงานเท่าที่หนูจำได้เคยถามน้องว่ามาทำพาร์ทไทม์ที่นี่เขาให้เราไหร่หรอน้องบอกว่าเขาให้หนูแค่วันละ100 นี่ก็เลยถามว่ามันไม่น้อยไปหรอที่อื่นน่าจะให้เยอะกว่านี้นะแบบนี้แค่ค่ารถยังไม่พอเลยมั้งน้องก็บอกมาว่าไม่เป็นไรหรอกพี่บ้านหนูรวยไม่ได้ร้อนเงินแค่มาทำเพื่อให้ผ่านงานเราก็แบบอ่อออ แล้วก็ไม่ได้ถามอะไรต่อจำได้ว่าคุยแบบนี้แค่ครั้งนั้นครั้งเดียว แต่เจ้าของร้านไม่ฟังเขาก็เหมารวมว่าเราไปยุให้น้องออกแล้วเขายังบอกอีกว่า ฉันผิดหวังในตัวแกมากนะไม่คิดว่าจะเป็นคนแบบนี้ แกจะออกแบบไม่บอกน้องมันบอกฉันหมดแล้ว(แต่น้องของพี่เป็นคนยุให้หนูทำแบบนั้นนะคะ?) เรานี่ถึงกับเงียบเลยเพราะคนแบบนี้คุยไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าๆเราเงียบแล้วนั่งมองหน้าเพราะมั่นใจว่าเราไม่ผิดแล้วเราก็ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเราจะไม่แก้ตัวกับคนที่คิดจะฟังเรา ตอนนั้นน้ำตาแทบร่วงเพราะเราเชื่อใจน้องๆทุกคนแต่ไม่คิดว่าน้องๆจะทำแบบนี้กับเราอ่ะมันมีเหตุผลอะไรอ่ะที่น้องๆจะต้องมาใส่ไฟเราขนาดนี้?อยากให้ออกขนาดนั้นเลยหรอ? เจ้าของร้านก็พูดต่ออีกว่าพี่เห็นนะว่าแกไม่ช่วยงานใครเลยมาถึงก็เอาแต่ทำความสะอาดร้านออเดอร์มาแกก็ไม่ทำ(ออเดอร์น้ำแก้วเดียวจะไปแย่งทำ2คนทำไม)พี่ก็ไม่รู้จะเก็บคนแบบแกไว้ทำไมแกจะออกเลยก็ได้นะพี่ไม่เดือดร้อนอะไร แล้วแบบนี้หนูก็ไม่ประกันลาออกสิคะ เขาบอกว่าพี่ยกแกเลยคิดเอาล่ะกันว่าจะทำยังไงต่อถ้าไม่ทำพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมา เราก็เลยตอบว่าค่ะขอกลับไปคิดก่อนนะคะ หลังจากรู้เรื่องทั้งหมดว่าน้องคิดแย่กับเราขนาดนี้เลยหรอมันรู้สึกแย่มากไม่อยากจะมองหน้าทำทรงมาคุยดีด้วยแต่สิ่งที่ราไปฟังมาจากเจ้าของร้านอย่างกับหนังคนละม้วนเลย จนเลิกงานแฟนเรามารอรับอยู่ร้านเพื่อนเขาที่อยู่ชั้นเดียวกับเราอยู่ตรงข้ามกันกับร้านที่เราทำเลิกงานปุ้บเราเดินไปหาแฟนเจอหน้าแฟนแล้วร้องไห้ออกมาเลย ทุกคนเชื่อเรื่องทำดีได้ดีมัยคะ อยู่ดีๆร้านค้าที่อยู่รอบๆร้านเราที่เคยทำเขาก็กลูกับเข้ามาหาเราแบบไม่ได้นัดหมายเขาก็ถาม เราก็เล่าแค่เรื่องที่เสียความรู้สึกกับที่โดนให้ออกก่อนกำหนด ทุกคนก็ช่วยกับปลอบใจเขาบอกว่าไม่ทำงานตรงไหนพี่ร้านไอติมพี่เห็นหนูทำอยู่คนเดียวร้านก็มาเปิดแต่เช้าจัดร้านเสร็จก่อนทุกคนมาพอคนอื่นมาก็มาแค่แต่งหน้าแต่งตัว พี่เห็นนะว่าเราชอบอยู่ข้างหลังคนเดียวเพราะพวกนั้นเสียงดังและเปิดเพลงเสียงดังพี่ดูก็รู้ว่าเราเป็นคนเงียบๆ(เคยห้ามแล้วแต่ก็ยังทำ)พี่อีกคนร้านนมก็เห็นว่าราทำอยู่คนเดียวเหมือนกันร้านเราอยู่ใกล้กันขนาดนี้จะไม่เห็นได้ไง ทุกคนก็บอกว่าพี่เห็นนะว่าเจ้าของร้านเรียกทุกคนไปคุยละขำอะไรกันไม่รู้แต่ตรงนั้นไม่มีเราแต่พอมีเราเขาก็หยุด ทุกคนเขาก็สงสารทำดีไม่ได้ดี พอมาอีกวันเราก็เลยตัดสินใจไม่ไปทำงาน แฟนเลยพาไปหาซื้อของปลอบใจเราเดินไปซือน้ำชั้นที่เราเคยทำงานเราก็เห็นแหละว่าน้องที่ร้านโบกมือแต่รารู้สึกแย่จนไม่อยากเห็นหน้าก็เลยหันหลังให้แล้วเดินไปทางอื่นแวะคุยเล่นกับร้านเพื่อนแฟนแล้วก็กลับ หลังจากนั้น2-3วันก็มาปัญหาเข้ามา ร้านเก่าเราเขาไปมโนคิดว่าเราเอาเขาไปนินทาเสียหายจนร้านอื่นมองเขาไม่ดีทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรเลยเราก็ไม่รู้ว่าน้องเขาไปเอาความยิ่งใหญ่มาจากไหนเดินไปคุยกับเจ้าของร้านที่เพื่อนแฟนเราทำงานอยู่แล้วก็ถามว่าเราได้ไปพูดอะไรมัยทำไมคนร้านเขาถึงมองจิก เขางงเลยลองถามพนักงานเขาดูทำตอบเดียวกันทั้งร้านเลยว่าก็เขาเสียงดังนี่คือห้างไม่ใช่ตลาดนัดนะ เปิดแค่ได้ยินในร้านไม่มีใครเขาว่าแต่นี่ได้ยินไปทั้งชั้น4เลย มันทำให้ร้านอื่นคุยกับลูกค้าไม่รู้เรื่องแล้วชอบตะโกนคุยกันเสียงดัง แล้วไอ้เรื่องที่มองทำตัวแปลกแบบนี้ไม่มีใครมองบ้สงล่ะคะพอเรามองเขาก็มองจิกเราพอเรามองจิกกลับก็ร้อนรน คนเขามองมาตั้งนานแล้วแต่พึ่งรู้ตัว แฟนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในห้างก็เดินตรวจงานปกติพวกนั้นไม่หยุดมาลากตัวแฟนเราไปยืนล้อมในเวลางานขู่ถามถึงเราว่าเราเอาพวกน้องไปพูดเสียหายยังไงแฟนก็พูดความจริงว่าไม่ได้พูดน้องก็บอกว่าไม่เชื่อ(ทั้งที่ทุกร้านเขาก็บอกแล้วว่าเพราะอะไรแต่ก็ยังไม่เชื่อ)บังให้แฟนเราโทรตามเรามาให้คุยเพราะเรื่องลามไปเป็นเรื่องใหญ่มากน้องไปโกหกร้านอื่นว่าเราก็เคยไปนินทาพวกเขาเหมือนกันพูดเสียๆหายๆพอเขาถามว่าพูดว่าไรก็ตอบไม่ได้แต่บอกว่าให้เรามาก่อนถึงจะบอก ตอนนั้นเราก็ร้องไห้เลยว่าแบบมันจะอะไรกันนักหนายังไม่ได้ทำอะไรเลยทำไมมันเป็นแบบนี้ ทุกคนก็บอกว่าให้เรามาเถอะทุกคนเขาคาใจเขาจะพยายามฟังหูไว้หู พอไปถึงพวกนั้นก็มองเราไม่เดินเข้าร้านนั้นเด็ดขาดเพราะเขาทำให้มันใหญ่เราก็จะเล่นใหญ่เหมือนกัน เรานั่งรอคุยอยู่ตรงกลางวงเลยตอนนี้ขาดแค่4สาวแต่พวกนั้นกลับไม่ยอมเดินมาคุยที่เราเลือกรออยู่ตรงกลางเพราะจะได้เครียเป็นประเด็นไปแต่เขากลับไปมาแฟนเราไปตามก็ไม่มาเพราะเราไปตรงนั้นคนเดียวเราก็โดนรุมสิ แฟนเรากับเพื่อนและคนอื่นๆไปรุมที่ร้านนางแทนเรื่องเลยจบ แต่ก็ยังไม่วายยังเล่นใหญ่หาเรื่องเราได้อีกรอบนี้เจ้าของร้านมาลงเองเลยเขามั่นใจว่าเด็กเขาไม่ผิด เดินไล่ถามทีล่ะร้านว่าได้มีคนที่เคยทำงานร้านเขามาพูดอะไรมัยร้านแรกตอบว่าไม่มีถามต่อว่ามองร้านเขาทำไมเขาก็ตอบตรงๆเลยเปิดเพลงเสียงดังแล้วเป็นเพลงแดนซ์เปิดดังแล้วยังตะโกนคุยกันอีก กรี๊ดบ้างทำของหล่นบ้าง แล้วยังมามองจิกร้านอื่นอีก ที่เขามองมองเพราะทำตัวแปลกๆแล้วเด็กพี่ก็เคยมาว่าคนร้านหนูด้วยว่าถ้ากูจะเอาแฟนมึงกูเอาไปตั้งนานแล้วไม่รอให้คบกันนานขนาดนี้หรอก สรุปเจ้าของร้านต้องไปลาก1ใน4สาวของร้านตัวเองมาไหว้ขอโทษสวยๆแล้วบอกอีกว่าถ้าเสียงดังเดินไปบอกได้นะ(ใครจะไปบอกได้โดนด่ากลับพอดีคนแถวนั้นรู้ดี)ไม่ว่าเจ้าของร้านจะเดินไปกี่ร้านก็เจอคำตอบเดียวกันหมด ไม่รู้อะไรไปดลใจเขาโทรมาขู่เราบอกว่าแกรีบมาเอาเงินเดือนไปเลยไม่ต้องรอให้ถึงวันที่1แล้วแต่แก่ต้องเอาแฟนแกมาด้วยเพราะแฟนแกเอาฉันไปพูดเสียหายเราก็ถามว่าเอาไปพูดว่าอะไรคะเขาก็ตอบไม่ได้(เหลี่ยมทั้งเจ้านายลูกน้อง)แต่เขาบอกว่าเขามีพยาน เรารู้อยู่ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงเราเลยขู่กลับว่าถ้ามีจริงก็เอามาเลยค่ะหนูก็อยากจะรู้ว่าใครเป็นคนพูดเขาก็ท้าเราว่าได้แก่มาแล้วฉันจะพาเดินถามทีละร้านเราก็ตอบว่าได้คะถ้าจริงก็ว่าไปตามผิดแต่ถ้าไม่ผิดขอไม่รับคำขอโทษแต่ให้เรื่องจบนะคะ ยังบังคับอีกว่าถ้าแฟนแกไม่มาฉันไม่คุยบอกอีกว่าถ้าแฟนแกไม่มาจะเขียนจดหมายน้อยไปฟ้องหัวหน้าแฟนเรา ซึ่งหัวหน้าแฟนเราบอกว่าเขาแจ้งมาไม่ได้หรอกทำไรเราไม่ได้มันคือเรื่องนอกเวลางานเราไม่ได้ใส่เครื่องแบบไปพูด ขู่อีกว่าจะทำให้แฟนเราต้องออกจากงาน เราแบบเขาใหญ่มาจากไหนอ่ะ ตอนนั้นเราทั้งดิ่ง ทั้งเสียใจ เสียความรู้สึกมันแย่แบบแย่มากๆ สภาพจิตใจไม่ไหวเลย เราเป็นห่วงหน้าที่การงานของแฟนแต่ถึงจะรู้แบบนั้นก็ยังไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี หลังจากวางสายตอนนั้นเราอยู่ร้านเพื่อนของแฟนเราก็เล่าให้เขาฟังร้องไห้ไปด้วยพูดไปด้วย มีแต่คนเดินมาปลอบทั้งที่แต่ละคนเราไม่เคยพูดคุยกันเลยด้วยซ้ำแฟนเรายังแซวเลยว่าเค้าเชื่อแล้วว่าทำดีได้อ่ะมันเป็นแบบนี้นี่เอง เราก็เลยตั้งใจพูดเสียงดังให้คนร้านเก่าได้ยินประมาณว่า มันก็ใช่ว่าเขาจะเล่นใหญ่ได้คนเดียวถ้ามันมีปัญหามากนักเราจะได้เล่นใหญ่บ้างเรามันก็ไม่ใช่คนธรรมดาอะไรญาติที่เป็นตำรวจเราก็มีอยากได้ยศอะไรก็บอกวันที่นัดเราจะได้เอามาคุยด้วยเลยมีอะไรก็แจ้งเลยเพราะนี่คือตำรวจ พอถึงวันที่นัดคุยทุกคนรอบๆพร้อมเป็นพยานให้เรามากแต่เจ้าของร้านเขากลับไม่พูดถึงเรื่องที่กล่าวหาว่าเราเอาเขาไปพูดเสียหายเลยแต่มาทำทรงบอกว่าพี่จะไม่คุยเรื่องนั้นแล้วนะให้มันจบไปค่ะใครทำอะไรไว้รู้อยู่แก่ใจเราก็เลยตอบว่าค่ะขอให้เป็นแบบนั้นนะคะ แล้วหันไปคุยกับแฟนเราแฟนเรายชิงเปิดก่อนเลยว่าผมไม่รู้หรอกนะว่าผมไปพูดว่าร้ายพี่ตอนไหนผมจำไม่ได้หรอกแต่ถ้าพี่มีหลักฐายผมก็ขอดูหน่อย เยาบอกว่าได้แต่รอแปปหลักฐานคือน้องแคชเชียร์ เรากับแฟนคือเอือมเลยอ่ะนึกว่าจากกล้องหน้าร้านมันยังดูฟังขึ้นกว่า แฟนเลยพูดขัดเลยว่าถ้าหลักฐายของพี่คือน้องที่ร้านพี่ไม่ต้องเอามาก็ได้ครับเพราะถ้าเป็นแบบนี้ยังไงผมก็คงต้องผิดงั้นผมก็ตัดจบขอโทษเลยล่ะกันเพราะถ้าเป็นแบบนี้ผมก็คงผิดิยํดี (เหลี่ยมยันหยดสุดท้าย) แล้วก็มาคิดเงินเดือน ความจริงเขาต้องคิดเราทำงานมา 24 วัน ลบวันหยุด 4 วัน เหลือ20 วัน วันล่ะ 400 บาท เงินที่เคยเบิกล่วงหน้า6,000 บวกประกันลาออกอีก2,500 = 20×400=8,000-6,000=2,000+2,500= 4,500 บาทที่เราต้องได้ แต่เขาเหลี่ยม เขาคิดวันหยุดเป็น 6 วัน เท่ากับเรามาทำงานแค่ 18 วัน = 18 × 400 = 7200 - 6,000 = 1,200 + 2,500 = 3,700 บาท เงินก็ได้น้อยอยู่แล้วยังบีบให้ได้น้อยลงไปอีก

หลังจากเรื่องนี้จบลงเราก็ซึมไปเลยประมาณ3-4เดือนไม่กล้าเริ่มงานใหม่กลัวจะเจอเพื่อนร่วมงานแบบเดิม แต่ตอนนี้หายเป็นปกติแล้วค่าาากำลังเริ่มต้นใหม่~ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ💕#ติดเทรนด์ #แชร์ประสบการณ์