🏆 Insideout2 รีวิวแบบจริงใจ 💕เอาไปเลยย 9/10

🏆 #Insideout2 ภาคนี้ รีวิวแบบจริงใจ 💕เอาไปเลยย 9/10

ถือเป็นผลงานอีกหนึ่งที่สามารถพูดได้อย่างเต็มใจว่า พิกซาร์กลับมาคืนฟอร์มได้อย่างแท้จริง!! ไม่ว่าจะเป็น

- การนำเสนอเรื่องราวที่มีมิติลึกขึ้นมากกก ถ้าเทียบกับภาคแรกแล้ว ภาคสอง เรื่องราวลึกขึ้นแบบมากกก ๆๆๆ วิธีการเล่าเรื่องยังคงทำได้ดีอยู่ไม่แพ้ภาคแรก แต่ว่าภาคนี้ในส่วนตัวรู้สึกว่า เนื้อเรื่องจะมีความเข้มขึ้น มีกลิ่นอายความเป็นเป็นผู้ใหญ่เพิ่มมากขึ้นไม่ได้สดใสเหมือนในภาคแรกตอนที่ยังเป็นเด็ก

- แก่นหลักสำคัญของเรื่องในภาคนี้จะเป็นการถ่ายทอดให้เรารู้ตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง และรู้จักการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ไม่ว่าเราจะเป็นอะไรจะเป็นคนดี คนไม่ดี คนเห็นแก่ตัว คนไม่น่ารัก แต่สุดท้ายแล้วทั้งหมดนั่นก็คือเรา และเราต้องรักตัวเอง

- ตัวละครภาคก่อนมี 5 ตัวภาคนี้มี 9 ตัว แต่ละตัวมีอัตลักษณ์+เอกลักษณ์ประจำตัวของแต่ละคนชัดแต่ด้วยตัวละครที่ค่อนข้างเยอะ ทำให้แอดรู้สึกว่าบทของตัวละครอาจจะยังเกลี่ยได้ไม่ทั่วถึงมากนัก แล้วก็รู้สึกว่าตัวละครบางตัวสามารถแสดงออกของอารมณ์ได้มากกว่านี้

- คุณภาพงาน ดีเทลการออกแบบตัวละคร สำหรับแอดถือว่า ยังคงคุณภาพระดับพรีเมียมมาสเตอร์ ละเอียดยิบยันเส้นใยเสื้อผ้าตัวละคร สีสันสดใสมากก

🏆🏆 แต่โดยรวมแล้วเรื่องนี้ก็ยังถือว่าเป็นแอนิเมชั่นที่สนุก คงความเป็นเอกลักษณ์ของพิกซาร์ได้ดี และเป็นแอนิเมชั่นภาคต่อที่ไม่ได้ทำลายเสน่ห์ของภาคแรกเหมือนกับภาคต่อหลายๆ เรื่องที่มักจะทำแต่ว่าทำได้ไม่ถึง แต่เรื่องนี้ยังทำถึงอยู่และแอดเองก็เป็นแฟนของเรื่องนี้ซึ่งภาคแรกแอดให้ 10 เต็ม 10 มาก่อน ♥️♥️ ภาคนี้ก็เป็นภาคที่แอดคาดหวังมาก และมันไม่ได้ทำให้แอดผิดหวังค่ะ

ถามว่า “ถ้าไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน สามารถดูได้มั้ย?

ตอบเลยว่า ”ดูได้ค่ะ เพราะ แอนิเมชั่นค่ายส่วนใหญ่มีเนื้อเรื่องที่ไม่ได้ปะติดปะต่อกัน แต่ถ้าเพื่ออรรถรสการรับชมสูงสุด แนะนำให้ลองดูภาคแรกก่อนนได้

.

.

.

‼️‼️‼️ สปอยเลอร์ ‼️‼️‼️

ข้อความหลังจากนี้ไปจะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับแอนิเมชั่นเรื่องนี้แบบเชิงลึก ซึ่งในการพูดคุยกันนั้นมันอาจมีบางส่วนที่ติดเรื่องราวของเนื้อเรื่องมา (แต่แอดจะพยายามเลี่ยงการสปอยล์เนื้อเรื่องที่ส่งผลต่ออรรถรสในการชมอยู่แล้ว)

สำหรับเพื่อนคนไหนที่ค่อนข้างค่อนข้างซีเรียสกับการอ่านที่อาจติดเนื้อหาก่อนชมมากๆ แอดแนะนำให้อ่านแต่ด้านบน อย่าพึ่งลงด้านล่าง .. แล้วรอให้ไปดูกันแล้วแล้วค่อยมาคอมเม้นต์คุยกันก็ได้ค่ะ 😍

.

.

.

.

.

.

.

จะเริ่มแล้วน้าาาาาาา

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

จะเริ่มจริง ๆ แล้วน้าาาร

.

.

.

.

.

.

.

โอเค เริ่มเลอออ!!

♥️🧡💛 อนิเมชั่นเรื่องนี้จะเล่าเรื่องราวภาคต่อจากภาคแรกเดิมก็คือภาคแรกตอนนั้นไรลีย์อายุ 12 ปีแต่ว่าตอนเนี่ยภาคนี้ไรลีย์อายุ 13 ปีแล้ว ซึ่งพอเธอโตขึ้นก็เริ่มมีการพบเจอและต้องมีเรื่องให้ตัดสินใจต่อสิ่งต่างๆ รอบตัวก็เริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้นจากภาคแรก ซึ่งเราในฐานะคนดูก็จะรู้จักอารมณ์เพียงแค่ 5 คนก็คือ

💛 ลั้นลา

🩵เศร้าซึม

💜กลั๊วกลัว

💚หยะแหยง

♥️ฉุนเฉียว

โดยอารมณ์หลักที่มักจะควบคุมไรลีย์เป็นส่วนใหญ่จะเป็นลั้นลา ทำให้ไรลีย์ที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันมาตลอด 9 ปีที่ผ่านมาก่อนการมาของภาคต่อจะเป็นเด็กที่มีความสดใสร่าเริง โลกสวยและมีแนวคิดของมองโลกในแง่ดีสูงมาก

พอโตขึ้นมาไรลีย์ก็เป็นเหมือนกับเราทุกคนที่จะต้องพบเจอกับสถานการณ์บางอย่างที่อาจมีผลต่อสภาะทางอารม์ ความคิด จิตใจเปลี่ยนแปลงไป และเป็นที่มาของเหล่าอารมณ์ชุดใหม่ 4 ตัว นั่นก็คือ

🧡ว้าวุ่น

💚อิจฉา

💙เฉยชิล / อองวี

💕เขิ๊นเขินอ๊ายอาย

ที่กลายเป็นว่าอารมณ์ใหม่ได้เข้ามามีบทบาทมากกว่ากลุ่มอารมณ์หลัก 5 ตัวก่อน …. ซึ่งในบทของภาคนี้ในมุมของแอดคิดว่าไรลีย์น่าจะน่าจะเป็นภาพสะท้อนบางอย่างที่อาจจะทำให้ใครหลายคนรู้สึก flash Back กลับไปตอนสมัยที่เป็นวัยรุ่นได้ค่อนข้างดี เพราะว่าสิ่งที่ไรลีย์กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ เราเกือบทุกคนต่างก็เคยผ่านจุดนั้นมาทั้งนั้น ทำให้ตอนที่แอดดูเลยรู้สึกเข้าถึง + เข้าใจความรู้สึกว้าวุ่นของไรลีย์ในเรื่องมาก ๆ เพราะในวัยเด็กนั้นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือครอบครัว แต่ในชีวิตวัยรุ่นนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ในช่วงวัยนั้น ๆ โหยหาก็คือ การมีเพื่อนและการได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง

ซึ่งความพยายามที่อยากจะถูกยอมรับจากใครบางคน นี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นการยอมกินผัก ทั้ง ๆ ที่เราไม่ชอบ ยอมโกหกแกล้งชอบอะไรแบบที่คนที่เราชื่นชมชอบ (ทั้งที่เราไม่ชอบ ) ฯลฯ พยายามสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่เพื่อเขาชอบเรา ซึ่งตัวตนที่สร้างขึ้นมาใหม่นั้นนอกจากจะสร้างความอึดอัดให้กับตัวเราที่กำลังเป็นอยู่แล้ว ด้านในเรายังต้องตบตีกับอัตลักษณ์ตัวตนเดิมของเราอีก ด้วยกรอบความคิดความเชื่อบางอย่างที่หล่อหลอมเรามาตลอดว่าเราทำแบบนั้นดีกว่า เหมือนกับลั้นลาที่พยายามจะขัดขวางว้าวุ่นไม่ให้ไรลีย์ทำนั่นทำนี่ที่ขัดกับความเชื่อเดิมของตัวเธอ

แต่ไม่ว่าจะเป็นอัตลักษณ์เก่าก็ดีหรืออัตลักษณ์ใหม่ก็ได้ สิ่งเหล่านี้พอรวมกันมันก็คือตัวเรานั่นแหละ ถึงแม้ว่าอัตลักษณ์ใหม่นั้นเราจะมีความเห็นแก่ตัว มีความใจร้าย ขี้อิจฉา ไม่รักษาสัญญา เป็นคนไม่ดี สุดท้ายมันก็คือตัวไรลีย์เองที่จะต้องมีความกล้าที่จะยอมรับมันและใช้ความเป็นตัวตนของเราเหล่านั้นก้าวผ่านปัญหาหรือสิ่งที่ต้องเผชิญไปให้ได้

ซึ่งอย่างที่แอดบอกในตอนต้นว่าเรื่องนี้เนื้อหาค่อนข้างลึก .. ลึกจนแอดเองตอนที่ดูยังแบบคิด+ไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าถ้าเป็นเด็กเล็กจริงๆดูแล้วจะเข้าใจเรื่องนี้และเข้าใจอารมณ์สิ่งที่ไรลีย์เป็นเหมือนกับผู้ใหญ่ที่เคยผ่านช่วงอารมณ์ของไรลีย์มาก่อนหรือเปล่า (แต่ก็ไม่ลึกเท่า Soul นะคะ) เพราะสิ่งที่ไรลีย์เผชิญนั้นมันคือช่วงอารมณ์ของวัยรุ่นที่เราส่วนใหญ่เจอครั้งแรกตอนนั้น ๆ แบบที่มั่นใจได้มาก ๆ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเราเป็นเด็กอยู่จะไม่คิด + ตัดสินใจแบบนี้แน่ ๆ

แต่ถ้าคิดอีกมุมนึงก็รู้สึกว่า การที่ใช้ไรลีย์เป็นตัวแทนการสื่อสารเรื่องนี่ออกไป เด็กที่ดูแล้วเข้าใจพ๊อยของเรื่องนี้ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีในอนาคตก็ได้ เพราะเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นเปลี่ยนจากเด็กไปสู่วัยรุ่น พวกเขาอาจจะปรับตัวได้เร็วเพราะว่าเขารู้จักว้าวุ่นมาก่อนแล้วจากแอนิเมชั่นเรื่องนี้ 😆😆 เด็ก ๆ อาจจะเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ เข้าใจการเปลี่ยนแปลง และยอมรับตัวตนได้ง่ายขึ้นก็ได้นะคะ

📍เนื้อหาด้านบนทั้งหมด เป็นมุมมองและความคิดส่วนตัวของแอดเอง ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับเพื่อน ๆ คนอื่นๆ ด้วย 🥹 ยังไงถ้าไปดูแล้ว สามารถมาแชร์แลกเปลี่ยนกันได้นะคะ // แต่ขอความร่วมมือการหลีกเลี่ยงการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของในแอนิเมชั่นนะค้าาา 💖💙💚💜

#InsideOut2TH #มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง2 #รีวิวหนัง #รีวิวหนังน่าดู #รีวิวแอนิเมชัน #รีวิวการ์ตูนอนิเมชั่น #ดูอะไรดีอาทิตย์นี้ #ดูอะไรดีdisney #ติดเทรนด์