Самый простой способ скачать видео и галерею из приложения Lemon8
Компьютер: щелкните правой кнопкой мыши и выберите "Сохранить ссылку как..." для загрузки.
PHOTOS | |||
JPEG | Скачать | ||
JPEG | Скачать |
การหาสไตล์การลงทุนของตัวเอง จะช่วยให้สามารถเลือกหุ้นและวางแผนกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเองได้ง่ายขึ้น
เหมือนกับนักลงทุนชื่อดังที่ประสบความสำเร็จก็ล้วนมาสไตล์การลงทุนที่ชัดเจน
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จัก 4 สไตล์การลงทุน ที่เป็นสไตล์การลงทุนของคนส่วนใหญ่ ชว่าสไตล์เป็นสไตล์ที่ใช่ของเรา
📌 นักลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental)
นักลงทุนสายปัจจัยพื้นฐาน อาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มย่อย คือ
➡️ นักลงทุนสายปัจจัยพื้นฐานแบบ Value Investing หรือ นักลงทุน VI จะมองการลงทุนในระยะยาว เน้นลงทุนหุ้นที่มีพื้นฐานดี กิจการมั่นคง โดยจะใช้การประเมินมูลค่าที่แท้จริงเพื่อคัดเลือกหุ้น
➡️ นักลงทุนสายปัจจัยพื้นฐานแบบ Growth Investing หรือนักลงทุนในหุ้นเติบโต จะเน้นลงทุนหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตดีกว่าธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน กิจการมี Growth Story ที่ชัดเจน
📌 นักลงทุนแนวโมเมนตั้ม (Momentum Investor : MI)
นักลงทุนสไตล์นี้เน้นลงทุนตามกระแส จะมองเศรษฐกิจภาพใหญ่ลงมาถึงระดับประเทศ และลงทุนตามสินทรัพย์ที่กำลังเป็นเทรนด์ในช่วงนั้นๆ จึงต้องติดตามข่าวสารให้ทันเหตุการณ์และอัพเดทเทรนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงจะต้องเข้าใจวงจรเศรษฐกิจ และปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการลงทุน เช่น อัตราดอกเบี้ย, ราคาน้ำมัน, ค่าเงิน, GDP, Fund Flow, เหตุการณ์การเมือง, ภัยธรรมชาติ เป็นต้น
📌 นักลงทุนแนวเทคนิค (Technical)
นักลงทุนสไตล์นี้จะไม่สนใจพื้นฐานของหุ้นเลย จะสนใจพฤติกรรมราคาของหุ้นเพียงอย่างเดียว เพราะเชื่อว่าราคาหุ้นสะท้อนทุกอย่างแล้ว และประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยเสมอ
โดยส่วนใหญ่จะวิเคราะห์หุ้นจากกราฟราคาหุ้น ปริมาณการซื้อขาย และใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคกับ Indicator ต่างๆ ทำนายทิศทางราคาหุ้น เช่น Chart Pattern, Elliott Wave, EMA, MACD, RSI เป็นต้น เพื่อหาจุดเข้าซื้อขาย
📌 นักลงทุนแนว Hybrid
เป็นนักลงทุนที่ผสม 2 สายขึ้นไป เพื่อคัดเลือกหุ้นที่จะเข้าลงทุน เช่น สายพื้นฐานกับสายเทคนิค, สายพื้นฐานกับสายโมเมนตั้ม เป็นต้น
แนวคิดสไตล์ลงทุนแบบ Hybrid ที่ได้รับความนิยม คือ “CANSLIM” ถูกคิดค้นโดยคุณ William J. O’Neil จะใช้ปัจจัยพื้นฐานกรองหาหุ้นที่มีผลประกอบการดี กำไรเติบโต ธุรกิจมีการเติบโตต่อเนื่อง และใช้ปัจจัยทางเทคนิคหาจังหวะซื้อขายที่เหมาะสม โดยดูจากปริมาณซื้อขายหุ้น ดู Market Direction เลือกลงทุนในจังหวะที่ตลาดเป็นขาขึ้น
#นักลงทุนมือใหม่ #ลงทุน #หุ้น #หุ้นไทย #วางแผนการเงิน #ออมเงิน #investment #แชร์ความรู้