แชร์ประสบการณ์ที่ไม่ประทับใจ! 😤

วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ตรง ในเรื่องที่หลายๆคนที่กำลังจะแต่งงานอาจจะยังไม่รู้!!!!!

เวลาหาชุดแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็นการไปเดินใน wedding fair หรือ โดน ads ใน facebook ก็ตาม ส่วนใหญ่ ร้านจะชอบขายเป็นแพคเกจ แล้วแพคเกจที่ว่าเป็นแบบไหน แล้วมีอะไรบ้าง

ขอยกตัวอย่างแพคเกจของเรานะคะ เราซื้อแพคเกจประมาณ 75k ได้ตามนี้ค่ะ

- ชุดบ่าว สาว(วันจริง) คนละ 2 ชุด

- ถ่ายรูป prewedding

- ชุดถ่าย prewedding

- แต่งหน้าวันถ่าย prewedding

ประเด็นมันอยู่ตรง ถ่าย prewedding นี่แหละค่า ในแพคเกจที่เราซื้อจะสามารถเลือกรูปได้ทั้งหมด 50 รูป ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาอะไรมาก หลังจากซื้อแพคเกจ ก็ได้ทราบมาว่า จะมีการโดนขายรูป (ในใจก็คิดว่า คงจะไม่เท่าไหร่ ถ้าชอบจริงๆก็ค่อยซื้อเพิ่มได้)

สรุป ในวันเลือกรูป เราถ่ายไปทั้งหมด 350รูปโดยประมาณ เราลบรูปที่ไม่อยากได้จริงๆ (โดยมีคนของร้าน2คนคอยคุมและกำกับไม่ให้เราลบเยอะ) จนเหลือประมาณ 250รูป เพราะฉะนั้นเราต้องซื้อรูปเพิ่มจากแพคเกจเป็นจำนวน 200 รูป

เพื่อนๆคิดว่า 200 รูปนั้น เราต้องเสียเงินเท่าไหร่กันคะ…

คำตอบคือ 1แสนบาท!!!! ค่ะ ฟังไม่ผิดค่ะ ถ้าอยากได้ 200 รูปนั้นเราต้องเสียเงินอีก 1 แสนบาทค่ะ (แพงกว่าค่าแพคเกจที่เราซื้ออีก) ตอนนั้นเราค่อนข้างตกใจมากๆ กับ ราคา เราก็เข้าใจว่า ร้านส่วนใหญ่ที่ขายแพคเกจ เค้าจะมาเอากำไรกับการขายรูปอีกที แต่ก็ไม่คิดว่า กำไรที่คุณอยากจะได้นั้น มันจะมีมูลค่ามากกว่าแพคเกจที่เราซื้อเสียอีก

ก็เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆที่กำลังจะแต่งงาน และ เลือกร้านชุดแต่งงานอยู่ ให้ระแวดระวัง หรือ เตรียมใจในเรื่องนี้ไว้ด้วย จะได้ไม่ตกใจและเสียความรู้สึกแบบเราค่ะ 😮‍💨

#ติดเทรนด์ #พรีเวดดิ้ง #ถ่ายรูป #ถ่ายพรีเวดดิ้ง #ชุดแต่งงาน #ร้านชุดแต่งงาน #แต่งงาน