ประสบการณ์เที่ยวที่จำไม่ลืมกับพายุ

จากนักท่องเที่ยวสู่ผู้ประสบภัย

เหตุการณ์นี้ผ่านไปแล้ว 2 ปี แต่ยังจำไม่เคยลืมเลือน

ปลายเดือนกันยายน 2565 แจ้งเตือนพายุโนรูเข้าไทย

ภาคเหนือและภาคอีสานหลายจังหวัดต้องเฝ้าระวัง

คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

โป้งแง้นบ้านเล็กในป่าใหญ่

ทริปนี้เราจองเที่ยวกับเพื่อนตั้งแต่ต้นปี

จะยกเลิกก็เสียดาย แวะทำบุญวัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกนก่อนเข้าหมู่บ้าน เผื่อฝนจะหยุดบ้าง

แต่สถานการณ์จริงสิ่งที่เจอระหว่างเดินทางฝนตกตลอด

การนั่งแพเข้าที่พักในหมู่บ้านเป็นเรื่องยากเพราะน้ำป่ามาไหลเชี่ยว อาจไปได้แค่บางกลุ่ม

เราและเพื่อนจึงแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มนั่งแพ และกลุ่มเดินป่า ซึ่งเราเลือกนั่งแพ (บ้าบอ อย่าหาทำไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลยตอนนั้นเพราะขี้เกียจ)

โดยปกติการนั่งแพมาโป้งแง้นใช้เวลา 30-40 นาที

ครั้งนี้ใช้เวลาแค่ 15-20 นาทีเท่านั้นจ้า

เกือบเบรกแพเทียบเข้าริมฝั่งไม่ทัน 😱

มาถึงแล้วอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทำใจต้มน้ำร้อนดริปกาแฟ มองน้ำป่า บ่ายกินส้มตำ เย็นกินหมูกระทะ เช้ากินข้าวเติมแรง

จากแผนที่จะนั่งแพออกจากหมู่บ้านต้องเปลี่ยนเป็นทุกคนต้องเดินข้ามเขาออกจากหมู่บ้านแทน

ช่วงเดินเขาฝนตกพรำเรื่อยๆ สลับหยุด

เดินถึงจุดที่พักให้รอรถ นั่งรอเพื่อนๆ และผู้ร่วมทาง

ไม่ทันได้หายเหนื่อย ชาวบ้านบอกดินถล่มทาง

รถไม่สามารถเข้ามาได้ต้องเดินอีก 😖

อ่ะเดินก็เดินสู้โว้ยยยย เราออกเดินชุดแรกๆ ยังไม่เจอน้ำป่ามาก แต่เพื่อนชุดหลังคือหนักเลยล่ะ ระหว่างเดินก็ต้องระวังดินถล่มต้องคอยฟังเสียง ถึงหมู่บ้านไฟฟ้าถูกตัด สัญญาณฌทรศัพท์ไม่มี ระหว่างรอเพื่อนก็คิดว่าไม่นานเดี๋ยวก็มีรถมารับอาบน้ำรอ 😩 ก็ยังมิวายต้องเดินอีก โชคดีที่พี่คนขับรถตู้ออกมานอนนอกหมู่บ้านเมื่อคืนไม่งั้นติดอยู่ในหมู่บ้านที่ติดต่อใครไม่ได้ ต้องเดินลงเขาตามทางคอนกรีต ตะลุยดินโคลนที่ถล่มปิดทางหลายจุด จนเห็นจุดที่รถจอดรอรับโคตรดีใจ น้ำตาจะไหล 😭 รอดแล้วโว้ยยยยย

การเดินครั้งนี้ประมาณ 16 กม.

ขอบคุณเพื่อนที่ยังมีขนมในกระเป๋า

ไม่ได้โทษธรรมชาตินะ สถานที่ท่องเที่ยวดี แต่สถานการณ์ไม่ดีเอง เราเลือกเอง แต่ถ้าใครเจอแบบนี้ ห่วงชีวิตตัวเองเถอะนะ 😓

#เตือนภัย #เที่ยวธรรมชาติ #ประสบการณ์เที่ยว #พายุโนรู #โป่งแง้นบ้านเล็กในป่าใหญ่