🫧 สรุป 15 ทริคจาก ‘จิตวิทยาสายดาร์ก‘ 😎💬

1️⃣ กฎเมห์ราเบียน 7-38-55 คือ สัดส่วนข้อมูลที่ผู้อื่นใช้ประเมินความพึงพอใจในตัวเรา

• 7% จากเนื้อหา (คำที่ใช้พูด)

• 38% จากสิ่งที่ได้ยิน (น้ำเสียง)

• 55% จากสิ่งที่เห็นด้วยตาเนื้อ (appearance & body language)

2️⃣ เทคนิคการพูดแล้วคนฟัง ‘รู้สึกเข้าใจ’ เราง่ายขึ้น

ให้เสริมคำที่ว่า “พูดง่าย ๆ ก็เหมือน xxx นั้นแหละ” และปิดท้ายด้วย “พอจะเข้าใจไหม?”

3️⃣ “คุณคิดยังไง?” ใช้เมื่อต้องพูดคนเดียวนานๆ เพื่อ keep the attention constantly

4️⃣ You = คุณ (คนเดียว) ไม่ใช่ พวกคุณ when calling the audience

5️⃣ one sentence, one msg

ทฤษฎีเค็นซังกับเข็ม การลดข้อมูลในการพูด สามารถเพิ่มโอกาสให้พูดได้โดนใจคู่สนทนามากกว่า

6️⃣ อย่าใช้ ‘คาถามาดันเต้’ ตั้งแต่การเจอครั้งแรก

อย่าหงายไพ่ทั้งหมดในการเจอคนคนนึงเป็นครั้งแรก จะช่วยให้กระตุ้นความอยากเจออีก & ความอยากทำความรู้จักเรามากขึ้น

7️⃣ ‘คุยเก่ง’ ไม่เท่ากับ ‘พูดเก่ง’ แยกให้ออก

8️⃣ คำสอนชาวยิว: คนเรามี 2 หู 1 ปาก คนเราควรฟังมากกว่าพูด จึงจะทำให้คุยเก่งขึ้นได้

9️⃣ ฝึกการฟัง: เวลาฟังคนอื่นพูด จงตั้งใจฟังราวกับว่าเป็นเรื่องที่สนุกที่สุดในโลก

1️⃣0️⃣ วิธีการแสดงออกว่าตั้งใจฟัง: พยักหน้า, ตอบรับ, ขยับคิ้ว

1️⃣1️⃣ ฟังให้จบ อย่าพึ่งขัดจังหวะ แม้จะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอยู่ก็ตาม

1️⃣2️⃣ จะเป็นคนที่พูดเก่งได้ ภาษากายต้องดีด้วย

1️⃣3️⃣ ปฏิกิริยาจากคนฟัง มีผลโดยตรงกับคนพูด

• หากมีปฏิกิริยา > คนพูดจะพูดได้อย่างลื่นไหล

• ไม่มีปฏิกิริยา > คนพูดจะตะกุกตะกัก และยอมแพ้ในที่สุด

1️⃣4️⃣ วิธีการวางท่าทาง mirroring effect เมื่อเลียนแบบท่าทางของคู่สนทนา เขาอาจรู้สึกชอบเราง่ายขึ้น แต่ทำอย่างพอดี เช่น การนั่งไขว่ห้าง หรือ สั่งเมนูตามเค้า แสดงสีหน้า

1️⃣5️⃣ คนที่ไม่ตื่นเต้น VS คนที่ดูเหมือนไม่ตื่นเต้น = looking the same

___________

〰️👻 ติมาขอแถมอีก 2 ข้อให้เพื่อน ๆ เพื่อเพิ่มความปังค่าา

• ปรากฏการณ์ pacing: พูดโดยใช้จังหวะความเร็ว ทำนองเดียวกันกับคู่สนทนา เพื่อทำให้การสนทนาดูสนุก (สำหรับอีกฝ่าย) และทำให้เราดูเหมือนเป็นคนคุยสนุก

• ให้ทำเพราะอยากทำ ไม่ใช่ทำเพราะจะได้รางวัลตอบแทน

___________

#ติดเทรนด์ #อ่านตามlemon8 #อ่านหนังสือ #หนังสือ #หนังสือจิตวิทยา #หนังสือดีบอกต่อ #หนังสือพัฒนาตนเอง #หนังสือเล่มโปรด #พัฒนาตัวเอง