เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Banking VS Insurance

สวัสดีค่ะ วันนี้เตยจะมาแชร์ความแตกต่างระหว่างธุรกิจธนาคาร และธุรกิจประกัน เพราะเตยก็เป็น Data Analys มาทั้ง 2 ธุรกิจค่ะ มันแตกต่างยังไงบ้าง ไปดูกันเลยย

👉🏻 ที่มาของรายได้

ธนาคาร

⚪️ ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อ

⚪️ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ทั้งสินเชื่อและเงินฝาก

⚪️ ผลตอบแทนจากการลงทุนต่างๆ

ประกัน

⚪️ ค่าเบี้ยประกัน

⚪️ ค่าธรรมเนียมต่างๆ

⚪️ ผลตอบแทนจากการนำเบี้ยไปลงทุน

👉🏻 การเข้าถึงผู้บริหารระดับสูง

ธนาคาร

อันนี้แล้วองค์กรเลยค่ะ เตยอยู่แบงค์ที่มี Culture การทำงานแบบฝรั่งมาตลอด ดังนั้น คนจะไม่ค่อยยึดติดกับหัวโขนสามารถเข้าถึงผู้บริหารระดับสูงได้ง่าย แต่บางแบงค์ก็ไทยจ๋าเลยก็อาจจะเข้าถึงยากนิดนึง

ประกัน

เตยอยู่บริษัทประกันต่างชาติ Culture ก็จะฝรั่งมากๆ ผู้บริหารไม่ถือตัว เข้าถึงง่าย ทำงานกันแบบ discuss มากกว่าทำตามคำสั่ง

👉🏻 Work Life Balance

ธนาคาร

ทำงานหนัก ไม่มีโอที เลิกงานเร็วสุดคือ 6 โมงเย็น ปกติจะเลิกประมาณ 1 ทุ่ม ทำงานนอกเวลางานบ่อยๆ ช่วงไหนงานหนักก็เลิกประมาณ 2-3 ทุ่ม จนตี 1 ตี 2 ก็มีค่ะ

ประกัน

เตยรู้สึกว่าสายประกัน Work Life Balance ดีกว่ามาก เลิกงาน 5 โมง ไม่ค่อยทำงานนอกเวลางานเท่าไหร่ค่ะ

👉🏻 สวัสดิการ

ธนาคาร

สวัสดิการก็ดีค่ะ มีครบ ทั้งประกันสุขภาพ ประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แต่จะได้เปรียบตรงที่มีสวัสดิการเงินกู้บ้าน รถ ดอกเบี้ยต่ำสำหรับพนักงาน

บริษัทประกัน

สวัสดิการก็มีครบครันเหมือนกันเลยค่ะ ประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะได้เปรียบตรงประกันสุขภาพ และประกันชีวิต ที่ให้กับครอบครัวพนักงานด้วย และวันลาพักร้อนเยอะกว่า และมีเงินช่วยเหลือต่างๆ เยอะกว่า

👉🏻 โบนัสประจำปี

ธนาคาร

โดยปกติโบนัสของธนาคารจะเยอะกว่า เฉลี่ยประมาณ 4 - 8 เดือน แล้วแต่ทีม แล้วแต่ธนาคารค่ะ

ประกัน

บริษัทประกันโบนัสจะน้อยกว่าค่ะ เฉลี่ยประมาณ 2 - 4 เดือนค่ะ

#เจาะลึกการงาน #หน้าที่การงาน #รีวิวชีวิตวัยทำงาน #ลาออกแล้วไปไหน #selfgrowth #selfdevelopment #ธนาคาร #ประกัน