从 Lemon8 应用程序下载视频和图库的最简单方法
桌面:右键单击并选择“将链接另存为...”进行下载。
PHOTOS | |||
JPEG | 下载 | ||
JPEG | 下载 | ||
JPEG | 下载 |
เราจะมาเล่าวันที่เราตัดสินใจบอกกับที่บ้านเรื่องรอยสัก
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าบ้านเราไม่ชอบรอยสักมาก ๆ โดยเฉพาะพ่อ ที่ไม่ชอบคนสักลายเลย พร้อมพูดประโยคที่จำได้ขึ้นใจอย่าง “ผิวสวย ๆ จะไปทำให้เป็นลายทำไม?”
นั่นแหละค่ะที่ทำให้เราลังเลและคิดหนักว่าจะทำดีมั้ย แต่สุดท้ายก็ทำเพราะว่าเราเรียนคณะที่เกี่ยวกับการออกแบบที่ทั้งอาจารย์ทั้งเพื่อน ๆ ไม่มีใครติดเรื่องรอยสัก + อยู่หอไกลพ่อแม่ด้วย วัยรุ่นอย่างเราก็จัดไป 2 ลายเลยสิคะ 🥺
ตอนได้ทำคือดีใจมาก ๆ แต่!!! เราลืมคิดไปว่าถ้าเรียบจบกลับมาอยู่บ้านจะทำยังไงล่ะถ้าพ่อแม่รู้ จำได้เลยว่าเราปิดสุดชีวิตเพราะกลัวโดนไล่ออกจากบ้าน กลัวไม่มีงานทำด้วย แถมจะแต่งตัวแบบที่ชอบก็ทำไม่ได้!!!
จนเมื่อต้นปีนี้เรามีงานทำ (ซึ่งสายงานเราต่อให้สักทั้งตัวก็ไม่มีผล) และเราทำหน้าที่จ่ายค่าใช้จ่ายยิบย่อย ช่วยแม่ผ่อนบ้านได้เลยยอมมอบตัว เพราะแอบจองคิวสักไว้ 5555 คิดว่าจะสักแขนเลยก็ต้องยอมบอก พอโตแล้วก็ไม่ได้อยากให้เขามาเห็นทีหลัง
แม่ไม่ว่าอะไรสักคำ พอไปบอกพ่อว่าสมัยนี้เลเซอร์ออกได้ เขาก็เออ ๆ จะทำไรก็ทำ แบบงง ๆ
สิ่งที่เรากลัวมาทั้งชีวิต จบง่าย ๆ เพียงเพราะคำว่าดูแลตัวเองได้แล้ว กับพ่อแม่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตของเรา สุดท้ายลูกก็ต้องไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง
บางคนอาจจะคิดว่าพ่อแม่ห้ามนู่นห้ามนี่ แต่พอได้รู้จริง ๆ ก็คือเขาแค่เป็นห่วงน่ะค่ะ ในยุคของเขาการมีรอยสักคือไม่ดี สักแล้วจะไม่มีงานทำ แต่สมัยนี้ไม่ค่อยมีผลอะไรแล้วเพราะฉะนั้นเราต้องทำความเข้าใจเขาด้วยเนอะ และก่อนจะทำแบบเราให้วางแผนอนาคตเรื่องรอยสักไว้ด้วยนะคะ ว่าอาชีพเราทำได้มั้ย อย่าให้มันมาเป็นเรื่องเครียดในอนาคตค่ะ เลเซอร์นอกจากจะแพงแล้วยังเจ็บกว่าสักอีกด้วยน้า เพราะงั้นคิดเยอะ ๆ ก่อนทำ อย่าเป็นแบบเรา 🥹
#ติดเทรนด์ #รอยสัก #ปัญหาวัยรุ่น #ประสบการณ์ #ปัญหาครอบครัว #สัก