แนะนำศัลยกรรมเปลี่ยนโครงหน้าในไทย

สืบเนื่องจากโพสต์ก่อนหน้า

มีคนเข้ามาอ่านเยอะ เลยขอออกมาโพสต์อย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับศัลยกรรมแบบผ่าตัดใหญ่ อาจจะยาวนิสนุงงับ

*โครงหน้านี้ไอซ์ใช้เวลาปั้น 2 ปีทำศัลยกรรม 3 อย่าง(ไม่รวมหัตถการฉีดโบท้อค หรือ ulthera) ตามลำดับ อย่าง ได้แก่

1.เติมไขมันหน้า = ไม่ดมยา พักฟื้น ครึ่งปี

2.ทุบโหนกแก้ม ตัดกรามแบบ V-line(ตัดแนวยาวตั้งแต่สันกรามไปถึงคาง) = ดมยา พักฟื้น ปีครึ่ง

✨ใช้วิจารณญาณ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเท่านั้น เนื่องจากแต่ละคนมีรูปหน้าไม่เหมือนกัน

💌คลินิค/รพ.:

เติมไขมันหน้า = Rattinan

ทุบโหนกแก้ม ตัดกราม = Masterpeice หมอกอล์ฟ

💵 ราคา:เราจ่ายแค่ส่วนหยุบโหนกแก้ม ตัดกรามในราคา 250k ส่วนเติมไขมันอันนี้เราเป็นเคสรีวิวเติมฟรี

🗣ข้อแนะนำ: ดูจากรูปหน้าตัวเองก่อนเลยค่ะ คือไอซ์เป็นคนหน้าไม่ค่อยมีไขมัน มีโหนกแก้มเยอะและกรามชัดมากๆยิ่งอายุเยอะ ยิ่งไปกันใหญ่ เลยตัดสินใจไปลองเติมไขมันหน้าก่อน ปรากฏว่าหน้าดีขึ้นแต่มันรู้สึกใหญ่เกินไป เลยรอไขมันยุบประมาณครึ่งปีเลยไปทุบโหนกแก้ม และตัดกรามต่อ กรณีมีไขมันอยู่แล้วข้ามมาทำทุบโหนกแก้มได้เลยค่ะ ส่วนใครช้ำและบวมง่ายแนะนำดื่มน้ำฟักทอง ใบบัวบก แล้วก็มะพร้าวร่วมด้วยทุกวันค่ะ

🤔 ข้อเสีย: กรณีตัดกรามแบบ V-line ไปถึงคาง คางยังมีอสการชาอยู่นิดหน่อย เนื่องจากเส้นประสาทเยอะ อาจจะไม่ได้กลับมารู้สึกเหมือนเดิม 100% แต่ใช้ชีวิตได้ไม่ติดอะไร และไอซ์ไม่ได้ผ่าน็อตที่ดามโหนกแก้มออกนะคะ แต่ตัวน็อตไม่มีผลอะไรต่อชีวิตประจำวันเข้าเครื่อง MRI ได้ปกติ

☝️ข้อควรระวัง: อย่าเอาโหนกแก้มด้านหน้าออก อาจจะทำให้แก้มหย่อนลงมาเป็นกระเปาะแก้มได้ แนะนำให้เอาไว้ ตอนแรกไอซ์ไม่เข้าใจแฟชั่นแก้มส้มเท่าไหร่ ตอนนี้มานั่งนึกเสียใจ ขอให้หมอเอาออก

ปล.ใครที่คิดว่าตัดโหนกแก้มและกรามทำให้เราฉีดหน้าน้อยลงไม่จริงนะคะ เดียวโพสต์หน้าไอซ์จะมาไขข้อข้องใจระหว่าง filler vs ไขมันหน้า ให้นะงับ 🙏