รับจ้างทำวิจัย อาชีพสีเทา?

🧑‍🎓 "นักวิจัย" เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมของผมที่ผมชอบมาก และสามารถทำเงินให้ผมได้ค่อนข้างเยอะ 🙋

หลายคนน่าจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำวิจัย หลายคนมองว่ายาก หลายคนมองว่าง่าย และหลายคนแก้ปัญหาด้วยการ 👉 "ว่าจ้าง" 💰 ให้คนอื่นทำวิจัยให้ เพราะว่าการทำวิจัยมันน่าปวดหัว เราใช้เงินแก้ปัญหาก็จบ

คุณคิดอย่างไรกับอาชีพนักวิจัย หรือคนที่รับจ้างทำวิจัยครับ?

ก่อนอื่นมาตรฐานการทำวิจัย มักจะประกอบด้วย 5 บท 📙 ได้แก่ บทนำ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ระเบียบวิธีวิจัย ผลการศึกษา และอภิปรายผล

ซึ่งแต่ละบทก็จะมีความยากง่ายแตกต่างกันไป คนที่ทำวิจัยก็จะต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องวิจัยนั้นๆ ด้วย

ดังนั้น การทำวิจัย 1 เรื่อง คน 1 คน ❎ ไม่จำเป็นจะต้องทำทุกส่วนของวิจัย ใครเก่งหรือถนัดด้านไหนก็รับผิดชอบส่วนนั้นไป เพื่อให้ผลงานวิจัยออกมาดีที่สุด เราก็จะเห็นตาม paper ที่ตีพิมพ์ออกมาว่า 1 paper มีผู้ร่วมวิจัยหลายคนมากๆ

ในวงการทางการแพทย์ก็เช่นเดียวกัน 💉 แพทย์จะมีความรู้เฉพาะทางในด้านของโรคต่างๆ ส่วนในด้านของสถิติก็จะเป็นหน้าที่ของนักวิจัยหรือนักสถิติที่จะช่วยดูแลเหล่าคุณหมอ

แต่ตามโรงพยาบาลมีนักวิจัยหรือนักสถิติน้อยมากๆ ขนาดโรงพยาบาลใหญ่ๆ อาจจะมีแค่คน 2 คน ที่ต้องต้องดูแลแพทย์อีกหลายร้อยคน ซึ่งมันไม่พอแน่ๆ เหล่าคุณหมอก็จะต้องมาหา outsource ให้มาช่วยเค้าในเรื่องสถิติและการวิเคราะห์ข้อมูลอีกที.....👉 ก็เป็นโอกาสเปิดทางให้ผมได้เข้ามาทำตรงนี้

หลายคนอาจมองว่า การรับจ้างทำวิจัยนั้นมันผิดนะ! 👉👉👉 อันนี้ต้องดูที่เจตนาครับ

ในกรณีของผมเอง รับจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลให้แพทย์ ถือว่าเป็นธุรกิจสีขาว เพราะทุกคนยอมรับและเข้าใจหน้าที่ของแต่ละคน 👉 แต่เราจะไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือทำในส่วนอื่นๆ เช่น รีวิว อภิปรายผล 👉 อันนี้จะถือว่าผิดจริยธรรม

แต่ถ้ากรณี นักวิจัยเหล่านั้น รับจ้างทำหมดทั้งเล่ม 👉 อันนั้นถือว่าผิดเต็มๆ และเป็นธุรกิจสีดำเลย

ยังไงก็ตาม ถ้าหากใครที่กำลังเรียนอยู่ไม่ว่าจะระดับ ป.ตรี ป.โท ป.เอก ถ้าให้แนะนำก็อยากให้ทุกคนทำวิจัยด้วยตัวเอง และศึกษาการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตัวเองจะดีกว่านะครับ

โดยเฉพาะคนที่เรียน ป.ตรี หรือ ป.เอก คุณยิ่งต้องศึกษาด้วยตัวเองเยอะๆ เลยนะครับ

หากใครอยากเดินมาสายงานนักวิจัย ไม่ว่าจะสาขาไหนก็ตาม ผมแนะนำเลย อยากให้มีคนมาทำวิจัยเยอะๆ ครับ

#ประสบการณ์ทำงาน #นักวิจัย #นักวิเคราะห์ข้อมูล #นักสถิติ #การแพทย์