การอ่านคือการลงทุนที่ไม่เสี่ยง! รวม7เล่ม ในรอบ5ปี

ถ้า..ชีวิตคือการลงทุน

อชิมองว่า การอ่าน คือ การลงทุนที่ไม่เสี่ยง!

เงินที่เราจ่ายไปกับค่าหนังสือ แม้ข้อคิดหรือความรู้บางอย่าง เราอาจจะไม่ได้นำมาปรับใช้ทันทีในตอนนี้ แต่มันจะเป็นคลังสมบัติ ให้เราหยิบขึ้นมาใช้ได้ในสักวันนึง

หรือถ้าไม่ได้ใช้โดยตรง เราอาจจะได้เศษเสี้ยวข้อคิดบางอย่างที่เอาไปแก้ปัญหา ไปพัฒนาชีวิตและจิตใจของเราด้านใดด้านหนึ่งเสมอค่ะ

👍สิ่งที่อชิได้จากการลงทุนด้านการอ่านหนังสือสายพัฒนาตัวเอง

✨️ได้เปิดโลก เปิดทัศนคติ มุมมองใหม่ๆ ที่อาจจะไม่เคยมีใครบอกเรามาก่อน

✨️ได้เรียนรู้จากเรื่องราว ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของผู้เขียน อชิว่า มันคือ "ทางลัด" ของการใช้ชีวิต แบบที่เราไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลาไปใช้ชีวิตเอง แต่เราได้รู้ผลลัพธ์เลย

✨️ได้อัพเกรดโปรไฟล์ตัวเอง (อันนี้เป็นผลพลอยได้ ไม่อยากให้โฟกัสเป็นเรื่องหลักนะคะ) ถ้าเรามีความรู้หลากหลาย กล้าแชร์ไอเดีย มีมุมมองที่กว้างขวาง เวลาไปพูดคุยกับใคร ไปเจรจากับลูกค้า ไปสัมภาษณ์งานต่างๆ เราจะดูมีความน่าเชื่อถือ เป็นคนมีเสน่ห์มากๆ หลายๆคนจะอยากร่วมงาน อยากทำความรู้จักกับเรามากขึ้น ประตูแห่งโอกาสจะเปิดออกให้เราค่ะ

✨️ได้ชีวิตใหม่ ได้หลักยึดที่ดีในการดำเนินชีวิต เหมือนที่เค้าพูดกันว่า "หนังสือบางเล่มอาจจะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล"

จาก 7 เล่ม ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้อชิกล้าออกจากกรอบเดิมๆ กล้าเปลี่ยนงานที่ทำ กล้าลองสิ่งใหม่ กล้าปฏิเสธคนและงานที่ไม่ใช่ มันคือการลงทุนกับตัวเอง ที่ให้ผลระยะยาวที่คุ้มค่ามากๆค่ะ

.

วันนี้อชิมาแชร์ 7 เล่ม ที่เป็นหนังสือสายพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ ฉบับ "ภาษาอังกฤษ" ที่อชิอ่านในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เผื่ออาจจะกำลังอยู่ในความสนใจของใครบางคน ก็ลองไปตามหากันได้นะคะ

..............................................

1. หนังสือ Start With Why" ✨️

(เล่มแปลไทย ชื่อ "ทำไมต้องเริ่มด้วย" ทำไม")

Simon Sinek นักพูดและที่ปรึกษาด้านธุรกิจชื่อดังระดับโลกจะแสดงให้เห็นว่าแค่เปลี่ยนคำถามจาก “อย่างไร” มาเป็น “ทำไม” ชีวิตและธุรกิจก็จะดีขึ้นแบบทันตาเห็น และพุ่งทะยานไปข้างหน้าจนไม่มีใครตามทัน

โดยนำเสนอผ่านแนวคิด หลักการตัวอย่างจากประสบการณ์จริง รวมถึงกรณีศึกษาจากบุคคลและธุรกิจชั้นนำมากมายแค่เปลี่ยนคำถามจาก “อย่างไร” มาเป็น “ทำไม” ก็ทำให้...สตาร์บัคส์รอดพ้นจากยุคตกต่ำก่อนจะพลิกกลับขึ้นมาเป็นร้านกาแฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้อีกครั้ง

สองพี่น้องตระกูลไรต์สร้างเครื่องบินได้สำเร็จก่อนใครในโลก ทั้งที่ต้องแข่งขันกับคนที่มีเงินทุนและเส้นสายมากกว่า

แอปเปิลมีสาวกที่เหนียวแน่นกว่า ทั้งที่คู่แข่งก็สร้างผลิตภัณฑ์ได้ดีพอ ๆ กัน หรืออาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ

...............................................

2. หนังสือ WHEN : The Scientific Secrets of Perfect Timing ✨️

(เล่มแปลไทย ชื่อ "วิทยาศาสตร์บนเข็มนาฬิกา")

เล่มนี้ จะชวนคุณสำรวจจังหวะเวลาของวัน เพื่อทำความเข้าใจว่า นักวิทยาศาสตร์ได้เรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับ "จังหวะเวลา" และเราสามารถใช้ความรู้ดังกล่าวมาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้สุขภาพดีขึ้น และทำให้ตัวเองรู้สึกพึงพอใจมากขึ้นได้อย่างไร

- ทำไมคนเรามีโอกาสฆ่าตัวตายสูงเป็นพิเศษเมื่ออายุลงท้ายด้วยเลข 9?

- ทำไมการหย่าร้างถึงมักเกิดขึ้นหลังช่วงเวลาแห่งความสุข?

- เวลาอันตรายที่ไม่ควรไปหาหมอคือกี่โมง?

- ทำไมคนที่ไปร้องคาราโอเกะตามลำพังถึงมีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่า?

- ทำไมความคิดสร้างสรรค์ถึงต้องการเดดไลน์?

Daniel H. Pink จะพาคุณไปเรียนรู้โลกของวิทยาศาสตร์แห่งเวลา เพื่อทำความเข้าใจว่า "จังหวะเวลา" ส่งผลต่อชีวิตของคนเรามากแค่ไหน แล้วเราจะนำความเข้าใจนั้นมาปรับใช้อย่างไร ให้สามารถตัดสินใจได้ถูกต้องแม่นยำขึ้น เพราะในเสี้ยววินาทีที่คุณตัดสินใจจะทำหรือไม่ทำอะไร อาจส่งผลกับคุณไปนานนับปี...หรืออาจจะตลอดชีวิต

..............................................

3. หนังสือ What got you here Won’t get you there. ✨️(เคยสำเร็จแล้ว อย่าคิดว่าจะสำเร็จตลอดไป) ไม่แน่ใจว่ามีเล่มแปลไทยมั้ย

คนเขียนชื่อ Marshall Goldsmith หนังสือเล่มนี้ ศึกษาถึงความสำเร็จของคนจำนวนมากที่คิดว่า เคยทำสำเร็จแล้วจะประสบความสำเร็จอีก เช่น เมื่ออายุน้อยเคยทำได้ จะทำซ้ำแบบเดิม จากหนังสือเล่มนี้ มีคนจำนวนมากสำเร็จแล้ว มักจะไม่สำเร็จอีกถ้าวิธีการแบบเดิม

Albert Eistein เคยพูดไว้ว่า

“Insanity is doing the same thing over and over again and expecting different results.” ถ้าจะทำสิ่งใดใหม่ๆ ต้องไม่ใช้วิธีเดิม

..............................................

4. หนังสือ Why We Buy : The Science of Shopping ✨️ (เล่มแปลไทยชื่อ ศาสตร์แห่งการช้อปปิ้ง)

"พาโค่ อันเดอร์ฮิลล์" ผู้เชี่ยวชาญด้านการช้อปปิ้ง เจ้าของบริษัทวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคที่คร่ำหวอดในวงการกว่า 30 ปี และมีบริษัทสาขาในหลายประเทศทั่วโลก ได้ตีแผ่โลกของการช้อปปิ้งทั้งในแง่มุมของผู้ผลิตและผู้บริโภคอย่างละเอียดและกระจ่างแจ้ง รองรับด้วยข้อมูลดิบมากมายที่เก็บรวบรวมจาก “นักสะกดรอย” ผู้บริโภคทั่วโลก ผ่านการวิจัยและวิเคราะห์วิจารณ์ด้วยหลักเหตุผลและจิตวิทยาอย่างดีเยี่ยม อีกทั้งมีการทดสอบในสถานการณ์จริงของธุรกิจใหญ่ระดับนานาชาติมาแล้วนับไม่ถ้วน

จนสรุปได้เป็นข้อมูลที่จะเปิดหูเปิดตาทุกฝ่ายในโลกของการช้อปปิ้ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต พ่อค้าคนกลาง นักธุรกิจ ผู้ค้าปลีก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริโภค นำเสนอด้วยสำนวนภาษาที่เข้าใจง่าย เป็นกันเอง พร้อมประสบการณ์สุดมันที่จะทำให้คุณอ่านไปขำไป นับเป็นหนังสือแนวธุรกิจที่อ่านสนุกยิ่งกว่านิยายอีกเล่มหนึ่ง

..............................................

5. หนังสือ “Remember: The Science of Memory and the Art of Forgetting” ✨️

(เล่มแปลไทย ชื่อ “ศาสตร์แห่งการจำและศิลปะแห่งการลืม”)

ผู้เขียนคือ Lisa Genova เธอเป็นนักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัย Harvard และเป็นนักเขียนนวนิยาย Best-selling ที่สอนให้เรารับมือกับความผิดปกติของสมอง

คุณจำอะไรได้บ้าง? ถ้าจำอะไรแทบไม่ได้เลยแปลว่า

คุณเริ่มมีอาการของโรคอัลไซเมอร์หรือเปล่า และถ้า

คุณคิดว่าการลืมเป็นเรื่องของคนแก่ ลองคิดดูใหม่อีกที

ทำไมเพื่อนจำเหตุการณ์สุดแสนจะตลกตอนอยู่ปีหนึ่งไม่ได้ แต่คุณกลับจำได้แม่นทุกรายละเอียด นี่มันเกิดขึ้นจริงๆหรือเป็นความฝันที่คุณเพ้อไปเองกันแน่

แล้วเคยหรือไม่ที่หลังจากล็อกประตูบ้านมาหนึ่งนาทีก็ต้องเดินกลับไปเช็กอีกรอบว่าได้ล็อกประตูบ้านหรือยัง

หาก 'การจำ' เป็นศาสตร์ 'การลืม' ก็เป็นศิลป์ คนเราต้องลืมเพื่อที่จะจำ และจำเพื่อที่จะลืม ถือเป็นเรื่องปกติ แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะที่พ่อ แม่ หรือตัวคุณเองเริ่ม 'ลืม' แบบไม่ปกติถามคำถามเดิมซ้ำๆ ลืมลูกตัวเอง ลืมว่ากินข้าวแล้ว ลืมวิธีใส่รองเท้า ลืมวิธีกลืน หรือกระทั่งลืมวิธีหายใจ!

..............................................

6. หนังสือ The Power of Strangers: The Benefits of Connecting in a Suspicious World. ✨️

(พลังของคนแปลกหน้า : ประโยชน์ของการเชื่อมต่อกันในโลกอันน่าสงสัย)

โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ผู้คนที่จมอยู่ในกองความเหงาและแยกตัวอยู่อย่างโดดเดี่ยว ชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายบนรถโดยสารสาธารณะ หรือกระทั่งการหลบตัวเองเพื่อพึ่งพิงอยู่ในโลกออนไลน์ ก็ต้องระวังไหวกับการโต้ตอบของผู้คนที่การเมืองฉีกความสัมพันธ์ออกจากกัน เราทุกคนถูกครอบงำโดยความกลัวต่อ “คนที่เราไม่เคยเจอ”

ผู้เขียนคือ โจ โคเฮน ได้พูดถึงข้อดีของการคุยกับคนแปลกหน้าไว้ พร้อมค้นหาคำตอบว่าทำไมเราถึงไม่ชอบคนแปลกหน้า และแบ่งปันวิธีหัดพูดคุยกับคนแปลกหน้าสำหรับคนที่ไม่กล้าคุย

..............................................

7. หนังสือ Digital Nation: How the United Arab Emirates is Building a Future Based on Tech Innovation

เล่มนี้ไม่มีแปลไทยนะคะ เป็นหนังสือที่อชิซื้อมาจากตอนไปทริปที่เมือง ดูไบ-อาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เค้าเขียนแชร์มุมมองและแนวคิดการพัฒนาบ้านเมืองเค้าให้เจริญแบบก้าวกระโดด การสร้างชาติ จากแผ่นดินทะเลทราย ให้กลายเป็นผู้นำอันดับต้นๆของโลก เป็น Digital Nation (ชาติแห่งความเป็นดิจิทัล) ตามชื่อหนังสือเลยค่ะ ยิ่งได้ไปเห็นวิถีชีวิต และความเจริญของบ้านเมืองเค้ามาแล้ว และได้ซื้อหนังสือกลับมาอ่านต่อ บอกเลยว่าผู้นำประเทศเค้า Vision และ Mindset ดีมากๆ มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นยังมองไม่เห็น กล้าเปลี่ยน กล้าลงทุน ทำให้พลเมืองประเทศเค้ามี quality of life ที่ดีขึ้นทุกด้านเลยค่ะ

.

📍พิกัดร้านโปรด: ถ้าไม่ใช่เล่มที่ซื้อมาจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่แล้วอชิจะได้มาจาก 2 ร้านหลักๆ ก็คือ

ร้านหนังสือ คิโนะคูนิยะ สาขาสยาม พารากอน

และ Asia Books ค่ะ

.

เล่มภาษาอังกฤษมักจะแพงกว่าเล่มไทยนะคะ แต่คำบางคำใน eng version แปลไทยออกมา แล้วอชิว่า ความ deep ของความหมาย และ feeling มันไม่เท่าต้นฉบับค่ะ ถ้า "อ่านเอาเรื่อง" (ให้รู้เรื่องราว) ใครไม่เก่ง eng ก็อ่านไทยก่อนก็ได้ แต่ถ้าอยาก deep "อ่านเอารส" ลองเปิดใจอ่าน eng ดูนะคะ หลายๆเล่ม ศัพท์ไม่ยากอย่างที่เราคิดค่ะ 👍❤️

#ชีวิตคือการลงทุน #รีวิวชีวิตทำงาน #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #หนังสือเล่มโปรด #หนังสือดีบอกต่อ #พัฒนาตัวเอง #selfdevelopment #การลงทุน #ฝึกภาษากับlemon8