สำคัญไฉน ทำไมต้อง ตรวจบ้าน

🗣️เราตรวจบ้านทั้งหมด 4 ครั้ง

❌❌จุดเริ่มต้นเกิดจากการตรวจครั้งที่ 2 แต่ทางโครงการไม่แก้ไข ตามในใบงานครั้งที่ 1 ที่บริษัทตรวจบ้านส่งให้ ต้องแก้ไขหลายจุด พื้นร่อน สมมุตของเดิมมี 50 จุด ครั้งที่ 2 เจอ 35 จุด

- ทางโครงการนะคะ จะเร่งให้เรารีบโอน โดยที่ให้ตรวจ และใบตรวจครั้งแรกยังไม่ออกแต่จะให้โอนแล้ว

📌ข้อนี้เราเสียเปรียบมากนะคะ

1. การรับประกัน 1 ปี หลังโอน ถ้าหาก

บ้านไม่เรียบร้อยแล้วทางโครงการเข้าแก้แล้วเสร็จ 3 เดือน เท่ากับเรามีประกันบ้านแค่ 9 เดือนนะคะ

2. การแก้ไขจะล่าช้า เพราะเราโอน และเป็นกรรมสิทธิ์ของเราเรียบร้อยแล้ว

🗣️และนั่นแหละค่ะ การตรวจบ้านของเรา รวมทั้งหมด 4 ครั้ง ประมาณ 1 เดือน

📌สิ่งที่ดี

1.ทางโครงการเร่งแก้ไขตำหนิของบ้าน

2.ทางโครงการให้voucher และข้อเสนอเยอะมากเพื่อให้เราโอนซักที

3.ได้ประกันบ้านจริงๆ 1 ปีเต็ม

4. ความสบายใจว่าบ้านจะไม่มีการรั่วซึม ไฟฟ้าขัดข้องตั้งแต่เดือนแรกที่ย้ายเข้าไปอยู่

💰ราคาค่าตรวจ 4,500 บาท / 2 ครั้ง

ครั้งต่อไป 30% = 1,350 บาท

📍เราใช้บริการของบริษัท Seyhome บริษัทที่ละเอียดมาก ตาดีมาก ทักและเตือนสติมาก สำหรับการรับบ้าน เพราะว่าใช่ค่า บริษัทนี้ตรวจบ้านหลังอื่นในโครงการด้วย และบ้านอื่นเค้าปล่อย ผ่านมาเกือบปียังแก้กันไม่จบเลยค่ะ

⭐️ความพอใจ: 🌟🌟🌟🌟🌟🌟🌟🌟🌟🌟🌟🌟🌟🌟🌟เอาไปล้านดาว

📌จุดสำคัญในการดู

1.น้ำรั่วซึม : ทั้งขอบหน้าต่าง และการรั่วซึมด้านในผนัง ที่ต้องใช้กล้องอินฟราเรดตรวจดู

2.ไฟฟ้า : การรั่วของไฟ การเก็บสายไฟบนฝ้า(อันนี้สำคัญนะคะ หนูเข้าไปกัดแล้วเรามองไม่เห็น ดังนั้นต้องพันให้ดีๆ)

3.Slope ของพื้นด้านหลังบ้าน : ทำให้เกิดปัญหาน้ำขัง

4.พื้นในตัวบ้านร่อนหลายจุด : ร่อน 1 แผ่น ทำให้ลามไปสู่การร่อนของพื้นที่อื่นนะคะ

5.หลังคาบิ่น,รั่ว : ตัวนี้ต้องบินโดรนเท่านั้นถึงจะเห็นนะคะ

#ติดเทรนด์ #บ้านหลังแรก #แชร์ประสบการณ์ #ประสบการณ์คนมีบ้าน #ทริคดีบอกต่อ #คหสต #ซื้อบ้าน #รีวิวกับlemon8 #ตรวจบ้านก่อนโอน

#บ้าน