3 ข้อคิดจาก ‘สู้ดิวะ’

👨‍⚕️เรื่องราวของคุณหมอหนุ่ม อายุ 28 ปี ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย มะเร็งลุกลามไปหลายที่จนถึงสมอง แต่คุณหมอก็ได้สละเวลาเขียนหนังสือเพื่อเป็นพลังบวกให้พวกเราได้อ่านกัน

และนี่คือ 3 ข้อคิดที่ออยได้จากหนังสือเล่มนี้ค่ะ

1. ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตแบบไหนกัน

หลายครั้งที่เรามีอารมณ์กับปัญหารอบข้างที่ผ่านเข้ามาในแต่ละวัน ปล่อยให้อารมณ์ขุ่นมัวมันครอบครองใจ แต่รู้มั้ยว่า ถ้าวันพรุ่งนี้เราได้ข่าวร้ายว่าเราเป็นมะเร็งหล่ะ วันนี้เราจะยังรู้สึกหงุดหงิดกับปัญหาเล็กๆน้อยๆอยู่หรือเปล่า ชอบที่คุณหมอบอกว่า เราควรจะใช้ชีวิตแบบที่คนที่ได้มาเจอเราแล้วพูดว่า ‘โชคดีจังที่ได้เจอกัน’

2. ความเจ็บป่วยสอนให้เรา มีความสุขเดี๋ยวนี้!

คุณหมอบอกว่า ไม่มีทางที่จะหายขาดจากโรคที่เป็นอยู่แน่ๆ ฉะนั้น จะมารอว่าหายดีแล้วจะไปทำในสิ่งที่อยากทำ มันไม่มีวันเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ทุกช่วงเวลาที่เหลืออยู่ คือสำคัญ มีความหมาย และมันคือโอกาส ของชีวิต

แล้วหันมาดู เราหล่ะ มีความสุขกับปัจจุบันหรือยัง ได้นอนหลับดีๆ ได้ตื่นมากินของอร่อย ได้ใช้ชีวิตวันนี้ให้ดีที่สุดหรือยัง ไม่ต้องรอวันที่ประสบความสำเร็จแล้วค่อยมีความสุข แต่ให้มีความสุขตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย!!!

3.เมื่อสู้ไปถึงจุดหนึ่งแล้วเราก็เกิดคำถาม ‘สู้ไปทำไม?’

คุณหมอเล่าว่าเมื่อสู้ไปสักพัก มันจะท้อและเหนื่อยที่จะสู้ต่อ คำถามนี้มันก็จะเข้ามาในหัวว่า สู้ทำไม ถ้าเราไม่อยู่ ที่ทำงานก็หาคนมาทำแทนได้ คนที่บ้านก็ดูแลตัวเองระดับหนึ่ง เรายังจะสู้อีกทำไม ,, แต่ คุณหมอบอกว่า ‘เพราะยังอยากใช้เวลากับพีมให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นได้’ คือเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ต่อ 🥰

แล้วพวกเราหล่ะ อะไรคือเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของพวกเรา?

อยากบอกคุณหมอว่า ขอบคุณที่คุณหมอเขียนหนังสือดีๆแบบนี้มาให้อ่านนะคะ ทำให้คนที่กำลังเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิต ได้หันมาตระหนักว่า เวลา มันไม่เคยรอใคร มีความสุขกับปัจจุบัน เป็นพลังบวกให้กับคนรอบข้าง ให้เค้ารู้สึกดีที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มาเจอเรา

คุณหมอบอกไว้ใน facebook ส่วนตัวว่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน

ขอให้การเดินทางของคุณหมอครั้งนี้เป็นไปด้วยดี

ผลบุญที่คุณหมอทำไว้ หนุนนำไปสู่ที่ดีๆนะคะ 💕

#สู้ดิวะ #หนังสือน่าอ่าน #หนังสือฮีลใจ #ป้ายยากับlemon8 #กิจกรรมยามว่าง #อ่านหนังสือ #หนังสือดีบอกต่อ #รีวิวหนังสือ #ป้ายยาหนังสือ