Lemon8 视频下载器

从 Lemon8 应用程序下载视频和图库的最简单方法

นิยายเรื่อง เจ้ายอดดวงใจ นามปากกา นุ NU

นิยายเรื่อง เจ้ายอดดวงใจ นามปากกา นุ NU

桌面:右键单击并选择“将链接另存为...”进行下载。

PHOTOS
นิยายเรื่อง เจ้ายอดดวงใจ นามปากกา นุ NU JPEG 下载

นิยายเรื่อง เจ้ายอดดวงใจ

นามปากกา นุ NU

อ่านได้ที่ ReadAwrite และ ebookMEB

แนวนิยาย วาย

ลิ้งค์อ่านนิยาย⬇️

https://www.readawrite.com/a/18645c348e1804e34bcd2eb01fb51524

!!คำเตือน!!

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายชายรักชาย

ฉาก เหตุการณ์ต่างๆ ของตัวละครในเรื่องมีการใช้คำหยาบ ศัพท์สแลง

รวมถึงมีเนื้อหาที่มีความรุนแรงทางคำพูดและการกระทำอยู่บ้างในบางส่วน

ทั้งนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น มิได้มีเจตนาที่ไม่ดีหรือเจตนาในด้านลบแต่อย่างใด

นักอ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

+++++++++++++

ตารางอัพนิยาย

[ช่วงนี้ไรท์จะอัพให้ทุกวันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2สัปดาห์นะครับ]

หลังจากนั้นจะลงตารางให้ใหม่อีกครั้งครับผม

ในส่วนอีบุ๊คจะลงระบบให้โหลดวันที่ 1 สิงหาคมนี้ครับ

#นิยาย #นิยายวาย #นิยายน่าอ่าน #readawrite

#นิยายreadawrite #นิยายวายreadawrite #นิยายรัก

#นิยายชายรักชาย #นิยายโรมานซ์ #นิยายพีเรียด

#นุNU #เจ้ายอดดวงใจ

ติดตามไรท์นุได้ที่ Twitter : @nuofficial1472

หรือกดลิ้งก์ไปติดตามได้ที่ : https://x.com/nuofficial1472?s=21

INTRO

ณ ฟาร์มสเตย์อ้อมกอดเมฆ

จิ๊บ จิ๊บ!

บรรยากาศในช่วงบ่ายใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาเย็นสบายมีเสียงนกร้องขับกล่อมชายวัยสี่สิบเก้าในชุดนุ่งผ้าโสร่งผืนเดียวที่พึ่งจะเดินไปวางเบ็ดตกปลาเอาไว้ที่สระน้ำข้างๆ เสร็จก็มานั่งเอนกายนอนพิงต้นไม้เปลือยท่อนบนอวดรอยสักลายพญานาคคู่ล้อมด้วยอักขระยันต์ไทยโบราณที่ดูทรงพลังเหมือนกับมีมนต์ขลังซ่อนอยู่ ที่คอแกร่งยังสวมสร้อยพระสามองค์ซึ่งล้วนเป็นพระเครื่องศักดิ์สิทธิ์พุทธคุณรอบด้าน

แถมยังเป็นพระเครื่องที่หายากและเก่าแก่แบบสุดๆ เพราะในโลกนี้มีเพียงชุดสุดท้ายรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่มีคนครอบครองซึ่งตอนนี้ถูกแขวนอยู่ที่คอของ 'เสี่ยขุนไกร' ในเหล่าบรรดาเซียนพระด้วยกันหลายต่อหลายคนทั่วทุกสารทิศต่างแวะเวียนมาขอถามซื้อและเสนอราคาให้เขาหลายสิบล้านแต่มีหรือที่นักสะสมพระเครื่องหายากเซียนพระตัวพ่ออย่างเสี่ยขุนไกรจะยอมขายอีกอย่างสร้อยพระสามองค์นี้ก็แขวนติดตัวมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น

และแม้อายุของเสี่ยขุนไกรจะย่างเข้าเลขห้าแล้วหากแต่กาลเวลาไม่อาจพรากความหล่อไปจากใบหน้านี้ได้เลยสักนิดเดียว ด้วยออกกำลังกายดูแลสุขภาพเป็นประจำทุกวันจึงทำให้ร่างกายนี้กำยำล่ำสันแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อชัดทุกสัดส่วน หน้าท้องยังปรากฏลอนซิกซ์แพ็กแน่นเป็นลูกๆ เรียงสวยดุจภาพวาด ยิ่งเป็นคนที่มีผิวกายสีน้ำผึ้งใบหน้าคมเข้มแบบฉบับชายไทยแท้ๆ กรอบหน้าหล่อยังไว้หนวดเคราตามอายุ แต่กลับทำให้เขาไม่ได้ดูแก่เลยแม้แต่น้อย

กลับกันคือเขาโคตรจะมีเสน่ห์ชวนให้น่ามองยิ่งแผงอกกว้างที่มีเส้นขนขึ้นเป็นบริเวณกว้างทำให้เห็นร่องนมที่แตกพานชัดสวย ขนเซ็กซ์สีดำไล่เป็นทางยาวลงไปยังใต้สะดือเชื่อมกับขนในส่วนนั้นที่ไม่ต้องให้บอกก็คงจะรู้ว่ามันโคตรจะทั้งดกทั้งหนาเพราะไว้ขนมาตั้งแต่อายุยี่สิบสี่ยังไม่เคยตัดเคยโกนเลยสักครั้ง เหตุก็เพราะว่า...เมียชอบ จนแต่งคำขวัญประจำตัวให้ว่า ‘มะพร้าวยิ่งแก่ยิ่งมัน ส่วนเสี่ยไกรของเฮียเมฆนั้นยิ่งแก่ยิ่งแซ่บ!!’

และคนแซ่บที่ว่านั้นในขณะที่เอนหลังพิงต้นไม้ใหญ่ในท่าขาซ้ายเหยียดตรง ขาขวาชันเข่ากางอ้าออกในท่าสบายๆ ปล่อยชายผ้าโสร่งปกคลุมหว่างขาในมือใหญ่ทั้งสองถือสมุดบันทึกของเมียรักสายตาคู่คมจดจ้องไปยังตัวหนังสือในกระดาษไม่วางตาใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เขามีความสุขอย่างนี้ทุกครั้งที่ได้อ่านเรื่องราวที่ถูกร้อยเรียงด้วยลายมือของคนรัก

เพราะไม่ว่าจะอ่านมันวนซ้ำอยู่สักกี่รอบทุกครั้งที่ได้อ่านมันทำให้ขุนไกรราวกับหลุดเข้าไปในห้วงแห่งความทรงจำเก่าๆ ที่ทุกช่วงเวลายังคงแจ่มชัดราวกับเหตุการณ์ต่างๆ เพิ่งจะผันผ่านไปเมื่อไม่นานมานี้

“พี่ไกร” คนถูกเอ่ยเรียกหลุดจากห้วงภวังค์ความคิด เมื่อเสียงนุ่มดังมาจากทางด้านหลังก่อนที่เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มจะมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ ในชุดสีกากีเต็มยศ เป็น 'กำนันเหนือเมฆ' นั่นเอง ซึ่งในปีนี้เหนือเมฆก็อายุสี่สิบแปดปีเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังคงความหล่อล่ำกล้ามแน่นไม่แพ้เสี่ยขุนไกรเพราะออกกำลังกายกับเขาทุกเช้าค่ำ ทั้งในยิม นอกยิม ในบ้านนอกบ้านระเบียงบ้างเป็นครั้งครา... (ออกกำลังกายแบบใด๋?)

แถมภายใต้ชุดสีกากียังมีรอยสักเท่ๆ ปรากฏอยู่บนแผงอกแกร่งไล่ยาวไปถึงหัวไหล่กว้างและต้นแขนขาวยิ่งทำให้เหนือเมฆน่ามองไปหมดจนบางครั้งขุนไกรก็โคตรจะหวง โดยเฉพาะใบหน้าหล่อเหลาที่มีไรหนวดขึ้นจางๆ ตามกรอบหน้ายิ่งได้มองก็ยิ่งเหมือนดุจต้องมนต์สะกด อายุยิ่งเยอะก็ยิ่งหล่อ หล่อวันหล่อคืน หล่อไม่มีพักผ่อน หล่อไม่ปรานีใคร หล่อแบบณเดชน์เรียกพี่ หมากปริญเรียกน้า อนันดาเรียกเพื่อน หล่อแบบวัวตายความล้ม หล่อแบบสุดๆ หล่อไม่บันยะบันยัง นี่ถ้าไม่บอกว่าเหนือเมฆอายุสี่สิบแปดทุกคนคงคิดว่าอายุของเขาพึ่งจะยี่สิบปลายๆ เท่านั้น

ด้วยความหล่อที่มากเพิ่มขึ้นทุกวันกับความอ่อนกว่าวัยของเหนือเมฆนี้ทำให้ขุนไกรคลั่งรักเหนือเมฆแบบสุดๆ คลั่งยิ่งกว่าคู่รักข้าวใหม่ปลามันเสียอีก ความหื่นในอดีตที่มีก็ไม่เคยลดละลงแม้แต่น้อย อายุเพิ่มขึ้นความฟิตปึ๋งปั๋งก็เพิ่มขึ้นไปด้วย ถ้าวันไหนเหนือเมฆไม่มีราชการอะไรก็อย่าหวังว่าเขาจะได้พักอยู่เฉยๆ เพราะเป็นว่างเมื่อไหร่ก็จะถูกขุนไกรจับกินเมื่อนั้น (วันละหลายรอบ)

“ประชุมเสร็จแล้วเหรอครับพ่อกำนันคนเก่งของพี่” น้ำเสียงอบอุ่นเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ สายตาคมละความสนใจจากตัวหนังสือในหน้ากระดาษมาจับจ้องใบหน้าของพ่อกำนันสุดที่รักที่เพิ่งกลับจากประชุมที่อำเภอ ซึ่งตอนนี้ร่างสูงที่ตนหลงใหลกำลังพับแขนเสื้อหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ ใต้ร่มไม้ข้างท่าน้ำอันเป็นจุดที่ทั้งคู่มักจะมานั่งพักผ่อนและชมวิวในแปลงเกษตรด้วยกันเป็นประจำ

“เสร็จแล้ว ปีนี้อำเภอของเราจะจัดงานประเพณีสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี แผนงานและกิจกรรมที่ชุมชนจะต้องร่วมด้วยช่วยกันน่าสนใจมาก เอาไว้เดี๋ยวเล่าให้ฟัง” กำนันหนุ่มสุดหล่อผู้เป็นที่รักของชาวบ้านเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเหนือเมฆมีความสุขกับการทำงานเพื่อส่วนรวมเช่นนี้ที่สุด ดวงตาคู่คมเป็นประกายงดงามทอแววความจริงใจและความตั้งใจจริงกับสิ่งที่ทำ ยิ่งทำให้คนข้างๆ พลอยมีความสุขและพยักหน้ารับกับคำบอกนั้น

"ดีจัง มีอะไรให้พี่ช่วยเมฆบอกพี่เลยนะ ผัวคนนี้ช่วยสุดแรง" ขุนไกรว่าพร้อมกับถ่างขาอ้ากว้างกว่าเดิมตั้งใจให้โสร่งที่นุ่งเปิดอ้าให้เห็นของดีข้างในที่ไม่ได้ใส่ กกน. ปกปิด แถมยังมิวายส่งสายตาโลมเลียมองคนรัก เหนือเมฆอยากจะทุบหนักๆ ให้สักทีหนึ่ง แต่สายตากลับไปสะดุดกับสมุดบันทึกของเขาในมือของขุนไกรเข้าเสียก่อน

“แล้วนี่…แอบเอาบันทึกมาอ่านอีกแล้วเหรอ อ่านแทบทุกวันไม่เบื่อบ้างหรือไง” อย่าว่าแต่หน้าที่หล่อ แม้แต่เสียงนุ่มทุ้มของเหนือเมฆที่เอ่ยออกมา ก็โคตรของโคตรจะหล่อมันไพเราะจับจิตจับใจน่าฟังไปหมดแค่เพียงได้ยินเสียงนุ่มขุนไกรก็แทบใจเหลว แถมยังได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากคนรักที่เดินตากแดดในช่วงบ่ายแก่ๆ แบบนี้ พอมีเหงื่อกลิ่นฟีโรโมนเฉพาะตัวของเหนือเมฆก็กระตุ้นโสตประสาทของคนคลั่งรักทำให้ขุนไกรเริ่มร้อนวูบวาบเลือดลมสูบฉีด

“พี่ไม่เคยเบื่อเลยครับ พี่ชอบอ่านเพราะมันทำให้รู้ว่าเราสองคนอยู่กินด้วยกันมานานแค่ไหนแล้ว”

"หึหึ งั้นเหรอ..." เหนือเมฆหลุดยิ้มจางๆ ออกมาในใจลึกๆ ก็แอบดีใจที่ขุนไกรพกสมุดบันทึกเล่มนี้ของตัวเองติดตัวไปแทบทุกที่และมักจะหยิบมาอ่านทุกครั้งที่มีเวลาว่าง แต่เนื้อหามันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมแม้ว่าขุนไกรจะอ่านมาเป็นร้อยๆ รอบ เหนือเมฆจึงกลัวว่าขุนไกรจะเบื่อ ตอนนั้นที่เขียนมันขึ้นมาก็แค่อยากจะบันทึกไว้เป็นความทรงจำ ไม่คิดว่าคนคลั่งรักอย่างขุนไกรจะขอเอาไปอ่านแล้วดันยึดเก็บไว้อ่านซ้ำๆ แถมยังดูแลรักษามันอย่างดีราวกับเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดในชีวิตยังไงอย่างนั้น

"ใช่ครับ ฟอดดด"

"อื้อ พี่ไกร!"

"ชื่นใจจัง ขอพี่อีกสักฟอดนะครับ" ยังไม่ทันที่ขุนไกรจะทันได้หอมฟอดสอง มือเรียวของเหนือเมฆก็วางหมับปิดหน้าขุนไกรไว้ซะมิด

หมับ!

"ฟอดดดด ไม่ให้หอมแก้มงั้นพี่หอมมือก็ได้ มือเมียพี่หอมที่สุด"

"พี่นี่ไม่ได้อย่าง ก็หาเอาอีกอย่างจนได้เนอะ"

"ก็คนมันรักเมียนี่นา พี่ว่าเราสองคนมา..."

พรึ่บ!

และก็เป็นอีกครั้ง ที่แขนแกร่งของขุนไกรยังไม่ทันที่จะคว้าตัวเหนือเมฆเข้ามาสวมกอด ร่างสูงของเหนือเมฆก็ลุกพรึ่บขยับตัวหนีเดินไปยืนเท่ๆ เต็มความสูงที่ข้างสะพานท่าน้ำทำเอาขุนไกรใจเต้นแรงอีกแล้ว

“ปลากินเบ็ดแล้วนั่น” มือเรียวรีบชี้บอกใบหน้าหล่อตีหน้านิ่งเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน จริงๆ ก็ใช่ว่าจะไม่ชอบที่ขุนไกรคลั่งตนคอยกอดคอยหอมแบบนี้ทุกครั้งเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่มันก็ไม่เคยชินด้วยอายุที่เยอะขึ้นจนจะเข้าเลขห้าอยู่แล้วแถมตอนนี้ตนก็ยังมีตำแหน่งเป็นถึงพ่อกำนันของทุกคนถ้าเกิดลูกเต้าหรือคนงานมาเห็นเข้ามันก็คงไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ฉะนั้นเวลาอยู่ข้างนอกกับขุนไกรเหนือเมฆจึงค่อนข้างจะระวังตัว

“ว้า เจ้าปลาตัวดี กล้ามาขัดจังหวะข้า เย็นนี้เอ็งได้ลงหม้อทำเมนูเด็ดให้เมียรักของข้ากินแน่” ขุนไกรพูดขึ้นก่อนจะค่อยๆ หยิบสมุดบันทึกของเหนือเมฆใส่เข้าไปในย่ามแล้วลูบเบาๆ อย่างทะนุถนอมก่อนจะรีบเอาย่ามไปแขวนไว้ที่ต้นไม้เพราะกลัวจะโดนน้ำเปียก เสร็จก็เดินดุ่มๆ ตามก้นเหนือเมฆต้อยๆ ไปดูคันเบ็ดที่ข้างๆ ท่าน้ำที่ตนเป็นคนวางเอาไว้

"ที่รัก พี่ขอหอม...อ๊ะ!" ยังไม่ทันได้หอมก็ถูกมือแกร่งของเมียดันหน้าไว้อีกแล้ว

"ให้ไปดูปลา จะมาหงมาหอมอะไรเล่า"

"แต่พี่..."

"ไม่มีแต่!" เหนือเมฆแสร้งพูดเสียงดุเล็กๆ ขุนไกรก็ยอมหยุดนิ่งในทันที

"ก็ได้ๆ ครับ เดี๋ยวพี่รีบไปดูปลาแล้วค่อยมาหอมก็ได้ จุ๊บ!" และก็เหมือนเดิม เมื่อหอมแก้มไม่ได้ขุนไกรก็เปลี่ยนมาเป็นจุ๊บมือเรียวแทนเหนือเมฆส่ายหน้าเอือมๆ ยังไม่ทันจะอ้าปากด่าขุนไกรก็แจ้นไปดูเบ็ดอย่างไว

“โห ปลาช่อนตัวใหญ่เลยแฮะ เย็นนี้ทำอะไรให้เมียรักกินดีน้าาา” เมื่อเห็นว่าได้ปลาช่อนตัวใหญ่เกือบเท่าแขนขุนไกรก็รีบปลดมันออกจากเบ็ดแล้วรีบหันมาชูให้เหนือเมฆดู นั่นทำเอาเหนือเมฆตาโต รีบเดินไปหยิบข้องใส่ปลาที่ขุนไกรเอาติดตัวมาด้วยที่ใต้ต้นไม้แล้วรีบเดินกลับเข้ามาดูใกล้ๆ

“ตัวใหญ่จริงด้วย"

"แน่นอน พี่เก่งมั้ยล่ะ"

"ไม่"

"อ้าว ที่รักอะ" ขุนไกรเบ้ปากก่อนจะทำปากยื่นแบบเด็กๆ

"พี่ไกร พี่จะห้าสิบแล้วนะ ทำอะไรเป็นเด็กห้าขวบไปได้"

"พี่ไม่เล็กนะครับ ดูมั้ย"

"เด็กๆ ไม่ใช่เล็กๆ!"

"แหะๆ สงสัยพี่คงจะหูฝาดน่ะที่รัก"

"แก่แล้วก็งี้แหละ"

"โห พูดงี้พี่ของขึ้นเลย"

"มันขึ้นตั้งแต่อ้าขาโชว์ใต้ต้นไม้แล้วมั้ย? กางเกงในก็ไม่รู้จักใส่ พี่นี่จริงๆ เลย"

"นั่นแน่ะ ที่รักแอบดูของพี่เหรอครับ"

"ไม่แอบก็เห็น กางขาอ้าซ่าซะขนาดนั้น"

"ที่รักชอบล่ะสิ"

"ไม่ชอบ"

"โกหก เมื่อเช้านี้ยังทั้งดูดทั้งเลียทั้งกินทั้ง..."

หมับ!

"หุบปากไปเลยนะ หมกมุ่นนะพี่อะ เอ้า ข้องใส่ปลา" เหนือเมฆหน้าแดงเริ่มทำตัวไม่ถูก

"ที่รักก็เปิดฝาข้องให้พี่สิครับ" ขุนไกรยังพูดไปยิ้มไป

"อืม เปิดแล้ว"

"ไว้พี่จะค่อยๆ ยัดใส่เข้าไปช้าๆ นะครับ พี่จะยัดเข้าไปแล้วนะ" ปากพูดแต่สายตาไม่ดูข้องไม่ดูปลาในมือเลยสักนิด แววตาเจ้าเล่ห์จ้องมองแต่ใบหน้าหล่อของเหนือเมฆตาเยิ้มเป็นมันไม่วางตา

"ทิ่มตาให้บอดเลยดีมั้ยเนี่ย หื้ม?" เหนือเมฆทำท่าจะทิ่มตาคนรักแบบไม่จริงจังเท่าไหร่นักและมันเป็นจังหวะเดียวกันกับปลาช่อนตัวยักษ์ในมือของขุนไกรที่กำลังสะบัดตัวดิ้นไปมาอย่างแรง ทำให้ขุนไกรที่มัวแต่แอ้วเมียตกใจรีบคว้าตัวของปลาช่อนแต่กลับคว้าไปที่แขนของเหนือเมฆแทนซะงั้นและในวินาทีนั้นเอง...

เหวอออ!!

ตูม!!

จ๋อม!