รีวิวผ่าคลอดฉุกเฉินที่ Medpark ✨

แม่ลูกอ่อนขอแชร์ประสบการณ์ผ่าคลอดฉุกเฉินตอนเบบี๋อายุครรภ์ 37 สัปดาห์ 5 วัน

หลังจากมีภาวะคลอดก่อนกำหนดในสัปดาห์ที่ 32 เราก็สามารถยืดได้ถึงสัปดาห์ที่ 37 แต่!!! ก่อนคลอด 1 วัน มีอาการท้องแข็งถี่ (อีกแล้ว) ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ท้องแข็ง มาพร้อมกับการดิ้นน้อยลงของเบบี๋ (จริง ๆ คงแค่หลับ แต่ทำแม่ตกใจ) และที่หนักสุดคือน้ำมูกเลือดออก คุยกับหมอประเมินอาการเสร็จ หมอบอกให้มาพรุ่งนี้แต่เช้าเลย

เดิมทีวางแผนคลอดธรรมชาติ เพราะน้องตัวไม่ใหญ่มาก และคุณแม่ก็ฟิตออกกำลังกายโยคะตั้งแต่เดือนที่ 6 เลยคิดจะลองดู

เช้าวันคลอด แอดมิทตั้งแต่ 7 โมงเช้า วันนั้นมีคนแอดมิทและคลอดพร้อมกันประมาณ 6 คน หลังทำเรื่องแอดมิทเสร็จ ก็โดนเข็นเข้าห้องรอคลอด

08.00 น. พยาบาลเริ่มเจาะเลือดเช็คค่า ให้น้ำเกลือ ติดเครื่อง NST และจัดการร่างกายต่าง ๆ ให้เรียบร้อย พยาบาลให้คุณพ่อกรอกเอกสารแจ้งเกิด วินาทีนี้แม่ลุ้นว่าพ่อจะเขียนชื่อลูกถูกมั้ย สะกดตรงกันรึเปล่า มากกว่าปวดท้องคลอดอีก 🤣

09.00 น. หมอมาตรวจเชิงกราน ปากมดลูกเปิด 2.5 เซนติเมตร เตรียมพร้อมคลอดแน่นอน พยาบาลถามว่าต้องการบล็อกหลังมั้ย ส่วนใหญ่จะบล็อกก่อนปากมดลูกเปิด 4 เซน (คลอดธรรมชาติปัจจุบันสามารถบล็อกหลังแบบที่ยังรู้สึกอยู่เพื่อเบ่งได้) ใช่ค่ะ ดิฉันไม่ใช่สายทนเจ็บ

ทำใจเรื่องสวนปัสสาวะไว้แล้ว หลังดูรีวิวมาเยอะ แต่ความจีเนียสของ Medpark คือ สวนปัสสาวะหลังฉีดยาชาแล้ว ไม่รู้สึกอะไรเลย 🤣

ส่วนการบล็อกหลัง เจ็บน้อยกว่าถอนฟันคุดแต่ก็แอบกลัวอยู่ดี พอถึงเวลาจริงคือชิลมาก หมอก็ชวนเม้าท์ชิล ๆ พอเราเริ่มเจ็บท้องคลอด หมอก็ค่อย ๆ เดินยาทีละนิด ให้เรายังรู้สึกถึงแรงเบ่งได้ ปกติจะไม่ให้คุณพ่อดูตอนบล็อกหลัง แต่ชั้นกลัวมากเขาเลยให้อยู่เป็นเพื่อน กลัวฟรีจ่ะ

ผ่านไปครึ่งวัน พยาบาลกับหมอเวียนมาดูเรื่อย ๆ หมอให้ยาเร่งคลอดหลังน้ำคร่ำแตกไปแล้ว พอบ่ายสองหมอบอกว่าอันตราย ถ้าปากมดลูกไม่เปิดเพิ่มอีกต้องเข้าห้องผ่า หมอให้เวลาสองชั่วโมง (ตอนนี้เปิด 4 เซน)

ด้วยความที่เราตัวเล็ก พยาบาลทั้งวอร์ด รวมถึงหมอดมยาต่างลุ้นว่าจะคลอดได้มั้ย แต่เนื่องจากเจ้าจิ๋วตัวเล็ก ยังพอมีลุ้น จนกระทั่ง !!! 5 โมงเย็น หมอมาตรวจใหม่ ปากมดลูกไม่เปิดเพิ่ม หมอบอกว่าผ่าเถอะ พร้อมแซวว่า เขาคลอดกันหมดแล้ว เหลือแต่เรา 🤣 น้ำคร่ำก็แตก ปากมดลูกก็ไม่เปิดเพิ่ม ตอนนั้นคือน้ำตาซึม รู้สึกแย่ที่ทำไม่ได้ แต่หมอก็ปลอบใจจนโอเค ผ่าก็ผ่าจะได้เจอหน้าลูกแล้ว

พอถึงเวลาผ่า พยาบาลก็เตรียมย้ายเตียง ความกลัวกลับมาอีก สั่นไปหมด ครั้งนี้โหดหน่อย พยาบาลไม่ให้คุณพ่อเข้าเพราะมีทีมงานในห้องคลอดประมาณ 10 คน ทุกคนชิลมาก แต่แม่กลัวแทบใจจะขาดเพราะนี่เป็นการผ่าตัดครั้งแรก

แต่ความกลัวหายไปเพราะมีพยาบาลคนหนึ่งคอยประกบเรา คอยถามความรู้สึกและชวนคุยให้หายกลัว พอถึงห้องคลอดบล็อกหลังใหม่ กับหมออีกท่าน หมออธิบายละเอียดมาก แต่สติเราลอยไปแล้ว 🤣 จับใจความได้แค่ว่า จะไม่รู้สึกอะไรตั้งแต่หน้าอกลงไปนะ ตอนนั้นสั่นมากเพราะห้องเย็น + ความแพนิค ทีมงานเลยเอาที่เป่าลมร้อนมาเป่าให้ รู้สึกดีขึ้นมาก

หลังพยาบาลเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็ให้คุณพ่อเข้ามา ทีมผู้ช่วยก็แนะนำตัวว่าใครเป็นใคร หมออั้มเข้ามาชิลมาก ใช้เวลาผ่าแค่ 10 นาที ระหว่างผ่าก็ชวนคุย ถามชื่อลูก พร้อมบอกว่าแต่ละขั้นตอนจะรู้สึกยังไง

แค่ไม่เกิน 10 นาที อุแว๊ เสียงดังมากกกกกก ปอดแข็งแรง ร้องดังลั่นเลย ร้องปุ๊บ เพลงเบิร์ธเดย์ก็ดังขึ้น น้ำตาแม่ก็ไหล พยาบาลอุ้มลูกมาให้ดู เจ้าจิ๋วที่อยู่ในท้องเรามา 9 เดือนหน้าตาเป็นแบบนี้นี่เอง

หลังจากนั้นคุณพ่อก็ไปพร้อมกับน้อง เหลือแม่ไว้ในห้องเพื่อเย็บแผล พอใกล้เสร็จเขาก็ฉีดยาให้เราง่วง ๆ เพื่อพักฟื้น แต่ชั้นไม่ง่วงเลย ยังเซลฟี่ส่งให้เพื่อนว่าผ่าเสร็จแล้ว มีแค่เบลอ ๆ บางช่วงจำอะไรไม่ค่อยได้ ผ่านไปชั่วโมงนึงพยาบาลก็เข้ามาบีบน้ำนมให้ลูกกิน

พอถึงช่วง 3 ทุ่ม พยาบาลก็เข็นเจ้าจิ๋วมาเข้าเต้า ฟินมากกกก แต่ก็เจ็บมาก เรย์จินดูดเก่งมาก และชื่อเสียงเรื่องเสียงร้องเลื่องลือกันไป อยู่โรงพยาบาลมา 4 วัน เวลาพยาบาลเข็นมา รู้เลยว่าลูกกำลังมา เพราะเสียงนำมาก่อน 😆

ตอนนี้เลี้ยงลูกได้ 1 เดือนกว่าแล้ว รีวิวสั้น ๆ ว่า ไม่มีเวลานอน จบ!

#คลอดลูกโรงบาลเอกชน #รีวิวคลอดลูก

#ติดเทรนด์