"ปากบอกอยากฟังความจริง แต่พอคนพูดความจริง..."

"ปากบอกอยากฟังความจริง แต่พอคนพูดความจริง กลับไม่ยอมรับฟัง"

มุมมองความจริงของมนุษย์ ผ่านซีรีส์ #GoodDoctorTH

1) ฉากนี้เป็นฉากที่หมอโฌนเปิดปากพูดความจริงอย่างตรงไปตรงมา ของเพื่อนร่วมงาน ที่วินิจฉัยโรคผิดพลาด จนคนไข้เกือนเสียชีวิต ต้องผ่าตัดด่วน โดยเขาได้พูดมันต่อหน้าเพื่อนร่วมงานคนอื่น และอาจารย์แพทย์ในโรงพยาบาล ที่เข้ารับฟังปัญหานี้ นั่นเป็นที่มาของประเด็นสำคัญที่ทำให้หมอโฌนมีจุดแตกหัก บาดหมางกับเพื่อนร่วมงาน (แม้ว่าหมอโฌนจะพยายามอธิบายเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงานแล้ว แต่กลับไม่ได้รับความใส่ใจ ไม่ฟังเสียงของเขาแม้แต่นิดเดียว จนกระทั่งพาสถานการณ์มาสู่จุดที่แตกหักนี้)

2) ด้วยความเป็นออทิสติก ทำให้ธรรมชาติการเข้าสังคมของหมอโฌนไม่เหมือนเพื่อนร่วมงานแพทย์ท่านอื่นๆ และเกิดการสื่อสารตรงไปตรงมาที่จี้แทงใจดำเพื่อนร่วมงาน ตรงนี้มันกลับมาสอนเราเหมือนกันว่า "จะพูดตรงแค่ไหน ก็ต้องมีชั้นเชิง มีกลยุทธ์ในการนำเสนอสารของตนเอง"

3) แล้วการพูดตรงๆ ที่มันแสดงออกต่อหน้าคนอื่น ที่ทำให้รู้สึกอับอาย กลายเป็นเรื่องมารยาทในสังคมที่ไม่ควรทำ มันเหมือนการหักหน้ากัน และไม่ให้เกียรติกัน จะตรงแค่ไหน ใช้ความจริงใจแค่ไหน "กาลเทศะ" ก็ยังคงสำคัญอยู่เสมอ

4) บางครั้ง จะพูดตรงๆกับใคร ก็ควรศึกษาคู่สนทนาฝั่งตรงข้ามด้วยว่า "เขาเป็นใคร? และธรรมชาติของเขาพร้อมรับฟังเรื่องที่เราจะสื่อสารได้มาก-น้อยแค่ไหน?" เพราะไม่ใช่ทุกคนที่รับการวิจารณ์ในเชิงลบ ที่มีความรุนแรงได้ เป็นเรื่อง sensitive ที่ควรใส่ใจความรู้สึกกัน

5) ถ้าความจริงนั้น เป็นข้อบกพร่องของตนเอง แล้วมีคนมาจี้จุด มันยากที่จะรับฟังได้อย่างสบายใจ และไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเปิดรับคำวิจารณ์เชิงลบ (แม้เป็นเจตนาที่หวังดี และไม่มีเจตนาร้ายใดๆแอบแฝง) แค่เป็นเพียงการ feedback กันเฉยๆ การสื่อสารความจริงไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับทุกคน

6) คนเราเกลียดกันได้ เพราะเราพูดความจริงใส่กันนี่แหละ มันเลยทำให้คนเราใส่หน้ากากปลอมๆเข้าหากัน เพื่อรักษาบรรยากาศการอยู่ร่วมกัน คนจึงเลือกปลอมใส่กัน เพื่อความอยู่รอดในสังคม และการรักษามารยาทอันดี โดยไม่แสดงออกถึงความจริงใจต่อกันเท่าไหร่นัก

7) พูดตรงๆ ไม่ได้หมายถึงพูดรุนแรง ต่อให้เป็นแค่คำธรรมดา แต่อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บ ก็กลายเป็นการพูดตรงๆที่สร้างปัญหาให้คนฟังได้ มันทำให้เราต้องกลับมารอบคอบกับการสื่อสารกับคนรอบข้างมากขึ้น เพื่อให้ประโยชน์กับคนฟังมากที่สุด ไม่ใช่เพื่อทำร้ายเขาให้เจ็บปวด

8 ) ถ้าเราฉลาดมากพอ เราจะเป็นคนฟังที่แยกออก ระหว่างเจตนาให้เราเจ็บ กับหวังดีให้เราพัฒนาตัวเอง ถ้าแยกออก ปัญหาจากการรับฟังคำวิจารณ์ที่มีประโยชน์ต่อเราจะหายไป และทำให้เราเข้าใจอีกฝ่าย โดยปราศจากอารมณ์ทางลบ

9) คนเรามีสิทธิ์เตือนคนอื่นด้วยความหวังดี แต่ต้องดูด้วยว่า "เขาอยู่ใน moment ที่พร้อมรับฟังไหม?" ข้อความที่พูดไปแล้ว ผู้รับสารไม่เข้าใจ พูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์กับใคร แต่กลับสร้างความขัดแย้ง และปัญหาจากการสื่อสารกันมากกว่าเดิมเสียอีก

10) ทุกคนมี EGO กันหมดแหละ ไม่ชอบให้ใครมาดูถูก หรือจี้จุด เราเป็นเหมือนกันหมด ถ้าเลือกได้ที่จะพูดความจริง นั่นหมายความว่า เราต้องคิดมาดีมากพอว่า message นั้นทำไปเพื่อความหวังดีกับคนที่เราอยากสื่อสารด้วยจริงๆ และพยายามพูดมันด้วยความจริงใจ เว้นแต่ว่าคนคนนั้นไม่รับฟังเรา ต่อให้เราพูดกับเขาตอนไหน พูดมันดีแค่ไหน ข้อความของเราก็ไร้ค่าสำหรับเขาเสมอ

พูดกับใคร...เลือกผู้ฟังของเราให้ดี แล้วข้อความของเราจะคุณค่าเสมอ

รับชม Series "Good Doctor : หมอหัวใจพิเศษ" ทุกวันศุกร์ดูได้ 2 ตอนรวด ที่ TrueID และดูสดทุกศุกร์-เสาร์ เวลา 2 ทุ่ม ทาง True Asian More ช่อง (120, 239)

#ตุ๊ดส์review #รีวิวซีรีส์